แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
ยุภา ประยงค์ทรัพย์. การบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก กรณีประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. ปริญญาเอก(ยุทธศาสตร์การพัฒนาภูิมิภาค (กลุ่มเศรษฐกิจและวัฒนธรรมชุมชน)). surindra rajabhat university. : มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, 2553.
การบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก กรณีประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
A management of small and micro community enterprise for a development foundation economic : a case study of Thailand and Lao PDR.
Name: ยุภา ประยงค์ทรัพย์
Address:
140/5 หมู่ 13 ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์
keyword:
วิสาหกิจชุมชน
Classification :.DDC: 333.9
;
เศรษฐกิจ
Abstract:
การวิจัยเรื่อง การบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก กรณีประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีวัตถุประสงค์สำคัญคือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลการพัฒนาวิสาหกิจชุมชน ในด้านลักษณะ รูปแบบและกระบวนการ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชน อันจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชนที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน และ 3) เพื่อกำหนดเป็นยุทธศาสตร์เชิงนโยบายในการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในประเทศไทย
ผลการศึกษาข้อมูลการพัฒนาวิสาหกิจชุมชน ในด้านลักษณะ รูปแบบและกระบวนการจากการศึกษาเฉพาะกรณี 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านหนองกลางดง อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมชนวังตะกอ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร และชุมชนท่าข้าม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และชุมชนบ้านใหม่สิงห์สัมพันธ์ แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พบว่าข้อสรุปในด้านลักษณะวิสาหกิจชุมชนเป็นไปตามองค์ประกอบของวิสาหกิจชุมชน 7 ประการ กระบวนการบริหารจัดการของชุมชนต่าง ๆ มีการดำเนินกิจกรรมที่สามารถใช้แนวคิดของกระบวนการวิสาหกิจชุมชนมาวิเคราะห์เพื่อให้เห็นความสอดคล้องกับกิจกรรมวิสาหกิจชุมชนอย่างชัดเจน ส่วนข้อสรุปด้านรูปแบบของวิสาหกิจชุมชน พบว่าชุมชนมีการพึ่งตนเองในระดับครัวเรือนเป็นอันดับแรก เพื่อลดรายจ่ายให้กับครัวเรือน ขั้นที่สองการพัฒนาสู่ขั้นก้าวหน้าเป็นการนำผลผลิตส่วนเกินมาแลกเปลี่ยนระหว่างกันในชุมชน เกิดตลาดภายในชุมชนและระหว่างชุมชนช่วยส่งเสริมการมีรายได้ และขั้นที่สามการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองสังคมภายนอก มีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพผลผลิตในด้านต่าง ๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ และข้อสรุปด้านกระบวนการของวิสาหกิจชุมชนเป็นกระบวนการก่อนเกิดวิสาหกิจชุมชน ที่ต้องมีแผนแม่บทชุมชนเป็นฐานข้อมูลสำคัญในการดำเนินการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อตอบสนองความต้องการชุมชน เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับชุมชน หลังจากนั้นจึงขยายผลการเรียนรู้ลงสู่ชุมชนด้วยการปฏิบัติจริง โดยกำหนดเป็นแผน เป็นโครงการ และกิจกรรมต่าง ผลการศึกษาการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชน ได้ข้อสรุปรูปแบบการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชน โดยอาศัยแนวคิดทางทฤษฎีการวิเคราะห์เชิงระบบ ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยนำเข้า ปัจจัยกระบวนการ และปัจจัยผลผลิตหรือผลลัพธ์ ได้ชุดของตัวแปรที่ใช้วิเคราะห์ความเข้มแข็งการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชน ในแต่ละด้านคือ ด้านปัจจัยนำเข้า 27 ตัวชี้วัด ประกอบด้วยปัจจัยด้านการผลิต ปัจจัยด้านผู้นำเข้าและสมาชิกกลุ่ม และปัจจัยหน่วยงานภายนอก ด้านปัจจัยกระบวนการ 19 ตัวชี้วัด ประกอบด้วยปัจจัยด้านการวางแผน ปัจจัยด้านการบริหารจัดการ ปัจจัยด้านการจัดองค์กร ปัจจัยด้านการควบคุม และปัจจัยด้านการอำนวยการและกำกับติดตามและปัจจัยผลลัพธ์ 20 ตัวชี้วัด ประกอบด้วยปัจจัยด้านปัจจัยด้านผลผลิต ปัจจัยด้านผลตอบแทนทางสังคม ปัจจัยด้านผลตอบแทนหรือผลประโยชน์ของกลุ่ม และปัจจัยด้านความยั่งยืนของกลุ่ม รวมทั้งสิ้น 66 ตัวชี้วัด ซึ่งแต่ละตัวจะมีรายละเอียดของตัวบ่งชี้ย่อย
และเมื่อนำไปสอบซ้ำรูปแบบการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชน ที่ชุมชนบ้านสี่เหลี่ยม ตำบลโคกยาง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เพื่อกำหนดเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาวิสาหกิจชุนในประเทศไทย พบว่าวิสาหกิจชุมชนที่มีการพัฒนาการเรียนรู้ของชุมชน โดยใช้แผนชุมชนเป็นแกนนำ เน้นการมีส่วนร่วมของสมาชิกชุมชน เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาให้กับทรัพยากรบุคคล องค์กรภายนอกจะเป็นเพียงผู้สนับสนุน นอกจากนี้ยังพบว่าชุมชนมีวิถีการผลิตเพื่อการยังชีพตามความต้องการของชุมชนเป็นปัจจัยพื้นฐาน ชุมชนมีอำนาจในการกำหนดปัจจัยที่ควบคุมและดูแลการผลิต ตลอดจนกระบวนการผลิต การแลกเปลี่ยนและจัดสรรผลผลิตที่เกิดขึ้นให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการอย่างสอดคล้องและพอเพียง โดยมีระบบความสัมพันธ์ทางสังคมแบบแนวราบ จะเป็นปัจจัยที่เอื้อให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สามารถเกิดขึ้นและดำรงอยู่ได้อย่างเหมาะสมภายใต้ระบบเศรษฐกิจพอเพียงและเอื้อต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากในที่สุด ซึ่งสามารถกำหนดเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาได้ดังนี้คือ 1) ยุทธศาสตร์ชุมชนเข้มแข็งฐานรากจากสถาบันครอบครัว 2) ยุทธศาสตร์ชุมชนพึ่งตนเอง 3) ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบวิสาหกิจชุมชน 4) ยุทธศาสตร์การจัดตั้งศูนย์ที่ปรึกษาด้านวิสาหกิจชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และ 5) ยุทธ์ศาสตร์การพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชนโดยองค์การบริหารส่วนตำบล
Abstract:
The study of a management of small and micro community enterprise for a development of foundation economy : a case study of Thailand and Lao PDR aimed to: 1) study about patterns and processes of a small and micro community enterprise which has effects on a development of communitys foundation economic system; and 3) formulate a strategic policy for a development of small and micro community enterprise in Thailand
The study about patter and processes of a small and medium community enterprises development at 3 communities in Thailand (Nong Klang Dong community), Sam Roi Yod district, Prachuap Khiri Khan province; Wang Ta Kor community, Langsuan district, Chumporn province, Jampasak province, Lao PDR revealed that a small and medium community enterprides characteristics. The communities management processes were analyzed and operated basing on a concept of a small and medium community enterprise. According to a pattern of a small and medium community enterprise, the study found that a community was firstly a family-reliance in order to reduce expenditure. At the Second level, exceeding outputs or products would be exchanged within a community where intra-and inter-community market systems had generated. This also helped to generate and income. Finally, it was a step to produce and develop a product distribute to a general market where a products quality was developed and improved for a marketing competition. According to a small and medium community enterprises process, it was a process operated before a small and medium community enterprise is really constructed. A community s master plan played an important role on a communitys need. This was aimed to generate a learning process for people in a community. After that, a learning processs output was really practiced by formulating plans, projects, and activities for a small and medium community enterprise.
According to a development of a small and medium community enterprises management model. It could be summarized basing on a theory of systematic analyzing which consists of input factors, processing factors, and output factors. Owing to this stage, a set of variables to be used in a strength analysis was constructed consisting of 1) 27 indicators for input factors consisting of producing factor, leadership and membership factor, and external organization factor 2) 19 indicators of processing factors consisting of planning factor, management factor, organizing factor, controlling factor, and directing and monitoring factor; and 3) 20 indicators of output factors consisting of output factor, social return factor, group profit factor, and a sustainable factor. There were 66 indicators totally where each indicator consists of sub-indicators as a complementary.
According to the study at Ban Si Liam community. Coke Yang sub-distriet, Prasat district, Surin province, it found that a small and medium community enterprise has developed a learning process of a community basing on a communitys master plan. A small and medium community enterprises management is focused on a participation of members in order to generate a learning process where a social relationship is horizontal. This production process is considered as an important factor which supports for a creation and a survival of small and micro community enterprise under the principle of sufficient economy that finally supports for a development of foundation economic system. Development strategies could be formulated as followings: 1) a strategy to strengthen a community starting from a family level; 2) a communitys self-reliant; 3) a strategy to develop a system and micro community enterprise; 4) a strategy to establish a consultation unit for small and micro community enterprise at Surindra Rajabhat University; and 5) a strategy to develop an potentiality of small and micro community enterprise operating by a sub-district administrative organization.
surindra rajabhat university
Address:
SURIN
Email:
library.srru.ac.th
Name: เสรี พงศ์พิศ
Role:
ที่ปรึกษา
Name: อัจฉรา ภาณูรัตน์
Role:
ที่ปรึกษา
Name: ทิพวัลย์ สีจันทร์
Role:
ที่ปรึกษา
Created:
2553
Modified:
2554-10-04
Issued:
2554-10-04
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
CallNumber:
333.9 ย246ก
tha
DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
Level: ปริญญาเอก
Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
RightsAccess:
ใช้เวลา
0.076716 วินาที
ยุภา ประยงค์ทรัพย์
| Title | Contributor | Type |
|---|---|---|
| รายงานการวิจัยการศึกษาปัญหาด้านการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ในสถาบันการศึกษา เขตอำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ยุภา ประยงค์ทรัพย์ | สถาบันราชภัฏสุรินทร์ | งานวิจัย/Research report |
| ทัศนคติ และความคาดหวังของผู้นำท้องถิ่นต่อบทบาทสถาบันราชภัฏสุรินทร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ นภาพรรณ เค้าไธสง;ยุภา ประยงค์ทรัพย์ | สาถบันราชภัฏสุรินทร์ | งานวิจัย/Research report |
| การบริหารจัดการความรู้
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ยุภา ประยงค์ทรัพย์ | บทความ/Article | |
| การบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก กรณีประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ยุภา ประยงค์ทรัพย์ | เสรี พงศ์พิศ อัจฉรา ภาณูรัตน์ ทิพวัลย์ สีจันทร์ | วิทยานิพนธ์/Thesis |
เสรี พงศ์พิศ
อัจฉรา ภาณูรัตน์
ทิพวัลย์ สีจันทร์