Abstract:
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1. ความแตกต่างพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ จำแนกตามเพศ สาขาวิชา และรายได้ และ 2. ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์กับการรู้เท่าทันข่าวการเมืองบนสื่อสังคมออนไลน์ของนักศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร ประชากรที่ใช้คือนักศึกษาในเขตกรุงเทพมหานครที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการอ่านข่าวการเมือง จำนวน 400 คน โดยใช้วิธีการเลือกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการทดสอบความแตกต่าง (T-Test) การวิเคราะห์ความแปรปรวน (One-way ANOVA) และการวิเคราะห์สหสัมพันธ์ (Correlation) ผลการวิจัยพบว่า เพศ สาขาวิชา และรายได้ที่แตกต่างกันของนักศึกษาในกรุงเทพมหานครจะมีพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 รวมถึงความสัมพันธ์ของพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของนักศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร มีความสัมพันธ์กับการรู้เท่าทันข่าวการเมืองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ดังนั้นหากนักศึกษาในเขตกรุงเทพมหานครมีพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์มากและอ่านข่าวการเมืองในหลากหลายมุมมอง จะยิ่งมีความรู้เท่าทันข่าวการเมือง
This quantitative research aimed to 1. Compare the components of social media usage behavior according with gender, field of study and income and 2. The relationship between social media usage behavior and the political news literacy on social media among students in Bangkok 400 people. Students were randomly selected by multi-stage sampling. Collected all data by questionnaire and the data were analyzed by T-test, One-way ANOVA and Correlation. The researchs results showed that social media usage behavior was significantly different at the .05 level by year of gender, filed of study and income. Furthermore, the social media usage behavior among students in Bangkok has a relationship with political news literacy at the .05 level. Therefore, if students in Bangkok use much of social media and spend more time reading many aspect of political news, They will have political news literacy.