การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลทางคลินิกระหว่างการทากรดทรานเอกซามิก 5% เทียบกับเจลหลอกร่วมกับการใช้เลเซอร์พัลส์ดาย 595 นาโนเมตร ในการรักษารอยแดงสิว

A comparative study for clinical efficacy between topical 5% tranexamic acid gel versus placebo gel in combination with pulsed dye laser 595 nm in the treatment of post-acne erythema

Name: นัทธมน สวนศิลป์พงศ์

Address: 333 หมู่ที่ 1 ตำบลท่าสุด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57100

Organization : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

Email : library@mfu.ac.th

ThaSH: สิว -- 314976

Classification :.DDC: e-thesis

ThaSH: ลักษณะผิวหนังแดง -- 315527

ThaSH: สิว -- การรักษา -- 315528

ThaSH: การทดสอบทางผิวหนัง -- 315518

Abstract: รอยแดงจากสิวพบบ่อยหลังการอักเสบของสิว งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการรักษารอยแดงจากสิวระหว่างการทากรดทรานเอกซามิก 5% เทียบกับการทาเจลหลอก ร่วมกับการใช้เลเซอร์พัลส์ดายทั้งสองข้าง อาสาสมัคร 15 คน ที่มีรอยแดงจากสิวบริเวณแก้มทั้ง สองข้าง จะรักษาด้วยการทากรดทรานเอกซามิก 5% และเจลหลอกที่สุ่มให้ในแต่ละด้านของใบหน้า วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ร่วมกับเลเซอร์พัลส์ดายทั้งสองข้าง ประเมินผลการรักษาด้วย ค่า erythema index, จำนวนรอยแดงจากภาพถ่าย คะแนนการประเมินผลทางคลินิก ความพึงพอใจของอาสาสมัคร และผลข้างเคียง พบว่า กลุ่มที่ทากรดทรานเอกซามิก 5% มีค่าเฉลี่ยการลดลงของ erythema index มากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ใช้เจลยาหลอกเมื่อใช้ร่วมกับเลเซอร์ชนิดพัลส์ดายอย่างมีนัยสำคัญ ในสัปดาห์ที่ 12 (p=0.001) ขณะที่การเปลี่ยนแปลงจำนวนรอยแดงจากสิวและคะแนนการประเมินผลทางคลินิกไม่มีความแตกต่างกัน (p>0.05) ความพึงพอใจในกลุ่มที่ทากรดทรานเอกซามิก 5% สูงกว่ากลุ่มที่ใช้ทาเจลยาหลอก (p=0.048) ผลข้างเคียงที่พบ คือ ผิวแห้งและแดง สรุปว่า การทากรดทรานเอกซามิก 5% ช่วยลดความแดงจากรอยแดงจากสิวได้ดีกว่าการทาเจลยาหลอกเมื่อใช้ร่วมกับเลเซอร์ชนิดพัลส์ดาย

Abstract: Post-acne erythema is common by found after inflammatory acne. This research aimed to compare the clinical efficacy of topical 5% tranexamic acid versus placebo gel with both sides of 595-nm pulsed dye laser. A total of 15 participants with bilateral post-acne erythema on both cheeks were enrolled. In addition, 5% tranexamic gel and placebo gel were randomly assigned to each side of the face and applied twice daily for 12 weeks. Treatment outcomes were assessed using erythema index measurements, erythema counts by photograph, clinical assessment via quartile grading scale, patient’s satisfaction, and side effects. The results showed that 5% tranexamic gel group had significantly greater erythema index reduction than the placebo gel group in combination with pulsed dye laser at 12-week visit (p = 0.001) However, total number of post-acne erythema counts, and clinical assessment score did not show significant difference between the 2 groups (p >0.05). Tranexamic gel 5% group had significantly higher satisfaction score than placebo gel group (p =0.048). Common side effects included mild skin dryness and redness. In conclusion, 5% tranexamic acid gel is better effective in reducing post-acne erythema than placebo gel in combination with 595-nm pulsed dye laser.

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง. ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา

Address: เชียงราย

Email: library@mfu.ac.th

Name: เทพ เฉลิมชัย

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2567

Modified: 2568-07-04

Issued: 2568-07-04

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: e-thesis

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: ตจวิทยา

Grantor: มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

©copyrights มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	139761-Fulltext.pdf	6.94 MB

ใช้เวลา

0.023717 วินาที