การพัฒนาสื่อการสอนประเภทเครื่องแขวนไทย เรื่อง ตาข่ายหน้าช้างขนาดเล็ก จากลูกปัด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนราชบพิธ

The development of Thai hanging adornment Instructional media on the topic of small elephant-faced nets made from beads for upper elementary school students, Rajabopit School

Name: ณัฎฐพร จันทศรี

Organization : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร. คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์

keyword: การพัฒนาสื่อการสอน

ThaSH: สื่อการสอน

Classification :.DDC: 747.3

; เครื่องแขวนไทย

ThaSH: เครื่องแขวน

; ตาข่ายหน้าช้าง

ThaSH: ลูกปัดในศิลปกรรม

Abstract: การศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)หาประสิทธิภาพของสื่อการสอนประเภทเครื่องแขวนไทย เรื่อง ตาข่ายหน้าช้างขนาดเล็กจากลูกปัด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียน ราชบพิธ 2) ประเมินความเหมาะสมและความเป็นประโยชน์ของสื่อการสอนประเภทเครื่องแขวนไทย เรื่อง ตาข่ายหน้าช้างขนาดเล็กจากลูกปัด สำหรับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนราชบพิธ และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อสื่อการสอนประเภทเครื่องแขวนไทย เรื่อง ตาข่ายหน้าช้างขนาดเล็กจากลูกปัด สำหรับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนราชบพิธกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 6/1 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 วิชางานประดิษฐ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ โรงเรียนราชบพิธ จำนวน 24 คน โดยใช้ สื่อการสอน แบบทดสอบภาคปฏิบัติแบบประเมินความเหมาะสม และความเป็นประโยชน์ของสื่อการสอนและแบบสอบถามความพึงพอใจเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าE1/E2 ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1) ประสิทธิภาพของสื่อการสอนมีค่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยผล การประเมินระหว่างเรียนที่ประเมินโดยผู้สอน (E1) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.21 และผลการประเมิน หลังเรียนโดยผู้สอน (E2) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 90.17 สรุปได้ว่า ประสิทธิภาพของสื่อการสอนเป็นไป ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 จึงสามารถนำไปใช้เป็นสื่อการสอนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ตอนปลาย โรงเรียนราชบพิธได้ 2) การประเมินความเหมาะสมของสื่อการสอนโดยรวม ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (µ = 4.27,  = 0.655) และมีความ เป็นประโยชน์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (µ = 4.40,  = 0.575) และ 3) นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ ในระดับมาก (X̅ 4.41, S.D. = 0.768) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านเรียงจากมากไปหาน้อย พบว่า ด้าน ที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านเนื้อหา (X̅= 4.51, S.D. = 0.624) รองลงมาคือ ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากสื่อ การสอน ( X̅= 4.43, S.D. = 0.822) และน้อยที่สุดคือ ด้านสื่อการสอน (X̅= 4.31, S.D. = 0.876) สรุปได้ว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อสื่อการสอนโดยรวมอยู่ในระดับมาก

Abstract: The research aimed 1) to measure the efficiency of Thai hanging adornment instructional media on the topic of small elephant-faced nets made from beads for upper elementary school students, Rajabopit School Rajabopit School, 2) to evaluate the appropriateness and usability of Thai hanging adornment instructional media on the topic of small elephant-faced nets made from beads for upper elementary school students, Rajabopit School Rajabopit School, and 3) to study students’ satisfaction towards Thai hanging adornment instruction media on the topic of small elephant-faced nets made from beads for upper elementary school students, Rajabopit School. The sample in the research was 24 upper elementary school students in Prathom 6/1, who were studying in the first semester of the academic year 2023 in the subject of Handicrafts, Career Learning Subject Group at Rajabopit School. Research instruments used were instructional media, performance test, suitability assessment form, usefulness of teaching media, and satisfaction questionnaires. Statistics used in data analysis were the E1/ E2 efficiency criterion, mean, and standard deviation. The results found that 1) the efficiency of the instructional media was higher than the determined criterion, the result of the assessment conducted by the teacher during the learning ( E1) was 87. 21 and the result of the assessment conducted by the teacher after the learning process ( E2) was 90. 17. It can be concluded that the efficiency of the instructional media had the efficiency criterion of 80/8. It can be used as the instructional media for upper elementary students of Rajabopit School, 2) the assessment of overall appropriateness by experts indicated that the appropriateness of the instructional media was at a high level (µ = 4. 27,  = 0.655) and overall usability was at a high level (µ = 4.40, = 0.575), and 3) students were satisfied with the instructional media at a high level ( X̅= 4.41, S.D. = 0.768). In terms of considering each aspect in descending order, the aspect with the highest mean was content ( X̅= 4.51, S.D. = 0.624), followed by benefits of the instructional media ( X̅= 4.43, S.D. = 0.822), and the aspect with the lowest mean was the instructional media ( X̅= 4.31, S.D. = 0.876). To sum up, the students were overall satisfied with the instructional media at a high level.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: arit@rmutp.ac.th

Name: ชญาภัทร์ กี่อาริโย

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Email : chayapat.s@rmutp.ac.th

Created: 2566

Modified: 2568-05-22

Issued: 2568-04-28

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

วพ 747.3 ณ311ก

tha

DegreeName: คหกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: คหกรรมศาสตร์

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	HEC_68_15.pdf	9.04 MB	4	2025-06-23 15:03:06

ใช้เวลา

0.020287 วินาที