การศึกษาการเปลี่ยนแปลงคุณภาพสังคมใหม่ : คุณภาพสังคมในทัศนะเยาวชน
Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจ ความเชื่อมั่น และ ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อระดับความพึงพอใจในคุณภาพสังคมตามทัศนะของเยาวชน เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาคุณภาพสังคมที่เหมาะสมกับบริบทสังคมไทย โดยใช้วิธีวิจัยเชิงปริมาณประชากร คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ที่อยู่ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่มีจำนวนนักเรียนรวมตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป ตามฐานข้อมูล สพฐ. ปีการศึกษา 2563 จำนวน 1,178 โรงเรียน 1,020,110 คน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ที่อยู่ในโรงเรียนสังกัด สพฐ. จำนวน 1,560 คน กระจายตามภูมิภาคต่าง ๆเครื่องมือวิจัย เป็นแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพสังคมในทัศนะของเยาวชนจำนวน 50 ข้อ มีค่าความเที่ยงทั้งฉบับ เท่ากับ .824 วิเคราะห์ข้อมลู โดยใช้การแจกแจงความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร (Chi-Square) ด้วยวิธีเพียร์สัน
ผลการศึกษา สรุปได้ดังนี้
(1) ภาพรวมของคุณภาพสังคมในมิติต่าง ๆ ได้แก่ ความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ, การยอมรับเป็นสมาชิกในสังคมของบุคคล, ความสมานฉันท์ในสังคม และการเสริมสร้างพลังทางสังคม ในทัศนะของเยาวชน พบว่า อยู่ในระดับที่ไม่พึงพอใจและไม่เชื่อมั่นเท่าที่ควร โดยไม่มีคะแนนเฉลี่ยใดที่มีระดับความพึงพอใจและความเชื่อมั่น เกินกว่าร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม และยังพบว่า ความรู้สึกเป็นประชาธิปไตย และ ความมีอิสระในการแสดงออกทางความคิดในที่สาธารณะ มีคะแนนเฉลี่ยน้อยกว่าร้อยละ 50 ของคะแนนเต็ม นอกจากนี้ยังพบว่า ปัจจัยด้านอายุมีความสัมพันธ์ทางลบกับระดับความพึงพอใจในคุณภาพสังคมในเรื่องความรู้สึกเป็นประชาธิปไตย ความพอใจในชีวิตโดยรวม เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ความสุขในชีวิต ความปลอดภัยทางสังคม และความน่าไว้วางใจทางสังคม
(2) ข้อเสนอแนวทางในการพัฒนาคุณภาพสังคมที่เหมาะสมกับบริบทสังคมไทยที่สำคัญ ได้แก่ รัฐบาล โดยกระทรวงศึกษาธิการจำเป็นต้องปรับปรุงและทบทวนนโยบายการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกระดับอย่างเร่งด่วน, มุ่งใช้แนวทางสร้างแนวร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคม โดยเฉพาะกับกลุ่มเยาวชน ที่จะต้องกระตุ้นจิตสำนึกและปลุกให้หันมาร่วมมือกับผู้ใหญ่ในการแก้ไขปัญหาคุณภาพสังคม, ต้องให้ความสำคัญในการปลูกฝังนิสัยการประหยัดอดออมและฝึกฝนเรื่องการมีวินัยทางการเงินแก่เยาวชนเพิ่มขึ้น, เร่งดำเนินการขับเคลื่อนหลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษาและพัฒนาครูผู้สอนให้สอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ, สถาบันครอบครัว รวมทั้ง ศาลยุติธรรม มหาวิทยาลัย และ องค์กรทางศาสนา จะต้องพัฒนาตนเองและทำตนเป็นแบบอย่าง เพื่อเป็นตัวแบบที่ดีในการดำรงชีวิตแก่เยาวชน, ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องมาร่วมกนั คิดหาแนวทางในการพัฒนาจิตสำนึกรักความเป็นไทย สร้างความ
ภูมิใจในบ้านเกิด รวมถึง มีการปรับปรุงเนื้อหาหลักสูตรที่จะสอดแทรกเรื่องจิตสำนึกรัก
ความเป็นไทย, รัฐบาลควรเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อลดช่องว่างของรายได้ระหว่างคนรวยและ
คนจนให้น้อยลง รวมทั้งการขจัดปัญหาคอร์รัปชัน, เน้นการฝึกฝนกระบวนการประชาธิปไตย
ในโรงเรียนอย่างเป็นวิถีชีวิต เช่น กลไกสภานักเรียนเป็นเครื่องมือสำคัญ และ สร้างเครือข่าย
ความร่วมมือกับสื่อมวลชนกระแสหลักและสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อใช้เป็นกลไกขับเคลื่อน
การพัฒนาและยกระดับคุณภาพสังคม
สถาบันพระปกเกล้า. ห้องสมุดสถาบันพระปกเกล้า
Email:
kpilibrary@kpi.ac.th
©copyrights สถาบันพระปกเกล้า