การพัฒนาระบบการบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
A development of school management system for excellence school under The Secondary Educational Service Area Office
Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบการบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศของ สถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 2) ศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการบริหาร สถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 3) พัฒนาระบบการ บริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา และ 4) ตรวจสอบระบบการบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศของสถานศึกษาสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา โดยใช้การวิจัยแบบผสานวิธีมีขั้นตอนการวิจัย 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาองค์ประกอบเชิง ยืนยัน มี2 ขั้นตอนย่อย 1) การศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบศึกษา เอกสาร วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา 2) วิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันการบริหารสถานศึกษาเพื่อ ความเป็นเลิศ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 560 คน สุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการ วิจัย ได้แก่แบบสอบถาม มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.80-1.00 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 วิเคราะห์ ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนาระบบ มี2 ขั้นตอนย่อย 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาของการบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็น เลิศ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 5 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ใน การวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.80-1.00 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา 2) ออกแบบระบบการบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ โดยการนำข้อมูลจากการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน และการศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ มายกร่างระบบ ขั้นตอนที่ 3 การ ตรวจสอบระบบ มี2 ขั้นตอนย่อย 1) การตรวจสอบเชิงคุณภาพ โดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 15 คน โดยการเลือกแบบ เจาะจงด้วยการสนทนากลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่แบบสอบถาม และแบบตรวจสอบระบบ มีค่าดัชนีความ สอดคล้องระหว่าง 0.80-1.00 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา 2) การตรวจสอบเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 331 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามมีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.80-1.00 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.93 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหา ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) องค์ประกอบการบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษา ประกอบด้วย 7 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ภาวะผู้นำของผู้บริหาร การวางแผนกลยุทธ์การ มุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การวัด การวิเคราะห์และการจัดการความรู้การมุ่งเน้นทรัพยากรบุคคล การ จัดการกระบวนการ และผลลัพธ์การปฏิบัติงาน มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์(Chi-Square = 124.38, p = 0.07, χ 2/df = 1.22, GFI = 0.98, AGFI = 0.95, RMSEA = 0.02) 2) สภาพปัจจุบันและปัญหาการบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศของสถานศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 2.1 สภาพปัจจุบันของการบริหารสถานศึกษา พบว่า มีการดำเนินการใน 7 องค์ประกอบเพื่อให้สถานศึกษามุ่งสู่ความเป็นเลิศ 2.2 สภาพปัญหาของการบริหารสถานศึกษา พบว่า 1) ผู้บริหาร ควรมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน 2) แผนงาน โครงการควรดำเนินการให้เป็นแผนกลยุทธ์3) สถานศึกษา ขาดการมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 4) ครูและบุคลากรขาดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ และ การสร้างนวัตกรรม 5) ขาดแคลนครูในการสอนและรองผู้อำนวยการสถานศึกษาในการร่วมบริหารและนิเทศติดตาม งาน 6) ขาดวัฒนธรรมของสถานศึกษาที่มุ่งความเป็นเลิศ 7) ผู้เรียนมีผลการทดสอบระดับชาติไม่เป็นไปตามค่า เป้าหมายระดับชาติ 3) ระบบการบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษา ประกอบด้วย 6 ระบบย่อย 20 ส่วนประกอบ 53 แนวปฏิบัติได้แก่ 1) ระบบย่อยด้าน เป้าหมายและค่านิยม 2) ระบบย่อยด้านโครงสร้าง 3) ระบบย่อยด้านทรัพยากรบุคคล 4) ระบบย่อยด้านทรัพยากร และเทคโนโลยี5) ระบบย่อยด้านการจัดการ 6) ระบบย่อยด้านดูแลช่วยเหลือนักเรียน 4) การตรวจสอบระบบการบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 4.1) ระบบการบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศเชิงคุณภาพ ประกอบด้วย 6 ระบบ ย่อย 21 ส่วนประกอบ 56 แนวปฏิบัติโดยมีการปรับระบบย่อยด้านการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นระบบย่อยด้าน ผู้เรียน และผลการตรวจสอบระบบ พบว่า มีความถูกต้อง มีความเหมาะสม มีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก และมี ความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด 4.2) ผลการตรวจสอบระบบการบริหารสถานศึกษาเพื่อความเป็นเลิศเชิง ปริมาณ พบว่า มีความถูกต้อง มีความเหมาะสม มีความเป็นไปได้และมีความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมาก
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Role:
ประธานที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์.
CallNumber:
วพ 373.1 ท167ก 2563
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ