รูปแบบการบริหาร TVET แนวพุทธในยุค DISRUPTIVE TECHNOLOGY

Name: พงศ์พิชญ์ ต่วนภูษา

Organization : ผู้วิจัย

keyword: การบริหาร TVET

; ยุค DISRUPTIVE TECHNOLOGY

Abstract: การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการบริหาร TVET ในยุค Disruptive Technology 2) พัฒนารูปแบบการบริหาร TVET แนวพุทธในยุค Disruptive Technology และ 3) เสนอรูปแบบการบริหาร TVET แนวพุทธในยุค Disruptive Technology งานวิจัยฉบับนี้ มุ่งเน้นการนำเสนอรูปแบบการบริหารจัดการอาชีวศึกษา โดยได้ศึกษาปัญหาในปัจจุบัน และเสนอรูปแบบและแนวทางการพัฒนาโดยประยุกต์ใช้หลักการตามพุทธศาสนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนการบริหารจัดการอาชีวศึกษา โดยมุ่งเน้นที่ผู้นำ ผู้สอน ผู้เรียน กระบวนการจัดการ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงภายใต้ บริบทของ Disruptive Technology โดยใช้การวิจัยแบบผสม ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้จากกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้สอนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จำนวน 430 ตัวอย่าง ข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้จาก 1) สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 13 ท่าน 2) การสนทนากลุ่ม ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 9 รูป/คน การพัฒนารูปแบบมี 2 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การสร้างรูปแบบ โดยศึกษาแนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ 2) การตรวจสอบความเที่ยงตรงของรูปแบบ ด้วยการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ โดยการสนทนากลุ่ม รูปแบบการบริหาร TVET แนวพุทธ ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 4 ด้าน ตามทฤษฎีระบบ คือ ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต และด้านข้อมูลย้อนกลับ บริบท: ยุค Disruptive technology มีการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่รุนแรงและรวดเร็วสถาบันการศึกษาต้องปรับตัวเพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง ปัจจัยนำเข้า: TVET ต้องปรับตัวโดยนำ เทคโนโลยีดิจิตอล (Ubiquitous computing, Collaboration technologies, Extended reality technologies, AI และ Blockchain) เข้ามาบูรณาการกับการเรียนการสอน จัดการศึกษาที่ยึดผู้เรียนเป็นหลัก เปิดกว้างให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษา และสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต กระบวนการ: ประกอบด้วย 4 กิจกรรม ได้แก่ 1) การบริหารแนวพุทธ (ด้านการครองตน การครองคน การครองงาน) 2) การเรียนการสอน ผู้สอนเป็นศูนย์กลาง คอยเป็นโค้ช ให้คำปรึกษา เสริมความรู้ สร้างนักคิด ผู้เรียน สร้างแนวคิด การเรียนรู้ด้วยตนเอง พึ่งพาตนเอง กิจกรรม เน้นวิธีคิด ทำงานร่วมกัน สร้างนวัตกรรม และ สื่อ/เนื้อหา มีแหล่งข้อมูลการศึกษาแบบเปิด 3) การฝึกงาน ร่วมมือกับสถานประกอบการให้เกิดระบบทวิภาคี ระบบสหกิจศึกษา และการฝึกอบรมในโรงงาน และ 4) ทักษะผู้สอน ผลผลิต/ผลลัพธ์: ทักษะผู้เรียน ประกอบด้วย 1) ทักษะการบูรณาการเทคโนโลยี และ 2) Soft Skills ได้แก่ ทักษะในการแก้ปัญหา ทักษะ 4C’s ข้อเสนอแนะ/ปรับปรุง: ประกอบด้วย 1) การประเมินคุณภาพภายใน 2) วิจัยความสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน 3) วิจัยประเมินผลการฝึกงานของนักเรียน ผลการตรวจสอบความเที่ยงตรงของรูปแบบ จากการ Focus group ของผู้เชี่ยวชาญ พบว่า เป็นรูปแบบการบริหารการศึกษา ที่สอดคล้องตามทฤษฏีเชิงระบบ สามารถเป็นเครื่องมือพัฒนาคน และสังคมได้อย่างแท้จริง และมีทิศทาง เหมาะสมกับยุค Disruptive Technology

Abstract: This research Focus on the presentation of the model of Technical Vocational Education and Training (TVET) management. By studying the current problems And propose a development model and approach by applying Buddhist principles In order to benefit driving the management of vocational education With a focus on leaders, teachers, students, management processes Respond to changes within the context of Disruptive Technology. Using mixed method research. Quantitative data the sample group was 430 teachers under the Office of the Vocational Education Commission. Qualitative data were obtained from 1) in-depth interviews with 13 experts 2) focus group with 9 experts. Model Development has 2 steps: 1) pattern construction and 2) pattern validation. The Buddhist management model consists of 4 components according to System Theory: Input, Process, Output and Feedback as follows. Context: The Disruptive technology era has changed dramatically and rapidly. Educational institutions must adapt to keep pace with this change. Input: TVET must be adapted by digital transformation (Ubiquitous computing, Collaboration technologies, extended reality technologies, AI and Blockchain) to be integrated into the teaching. Provide a learner-based education, everyone has access to Lifelong Learning. Process: consists of 4 activities: 1) Buddhist administration 2) Instruction: Instructor - as the center of the coach, Learners - create self-study ideas, Activities - focus on ways to think, work together, and media / content - with open educational resources 3) Internship - Bilateral System, Cooperative education system, and training in the factory and 4) teacher skills Output: Student skills include 1) digital transformation skills 2) Soft skills, namely problem solving skills and 4C's skills. Feedback: consists of 1) internal quality assessment 2) research on compliance with labor market needs 3) research student internship assessment. The results of the pattern integrity check by a focus group of experts. Found that the educational management model conforms to system theory, it can be used as a real tool for human and social development and having a direction appropriate to the Disruptive Technology era

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: รศ. ดร.สมศักดิ์ บุญปู่

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: ผศ. ดร.พีรวัฒน์ ชัยสุข

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2564

Modified: 2566-06-10

Issued: 2566-06-10

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	1D9oeRvXTr69ewGhGME5BkK6AZJ1mQg1Qnh49VdA.pdf	3.09 MB	31	2025-10-23 09:21:36

ใช้เวลา

0.036018 วินาที