แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

พุทธศิลป์ : ประวัติ พัฒนาการ และอิทธิพลต่อการดารงชีวิตของประชาชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Organization : ผู้วิจัย

Organization : ผู้วิจัย

Organization : ผู้วิจัย
keyword: พุทธศิลป์
; ประวัติ
; พัฒนาการ
; อิทธิพล
; การดำรงชีวิตของประชาชน
; ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
Abstract: การวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาแนวคิดและพัฒนาการของพุทธศิลป์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2) เพื่อศึกษาลักษณะสำคัญและการเรียนรู้พุทธศิลป์ที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3) เพื่อศึกษาคุณค่าและอิทธิพลของพุทธศิลป์ที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพโดยใช้การเก็บข้อมูลทั้งจากเอกสาร งานวิจัยและข้อมูลภาคสนามโดยกำหนด 5 พื้นที่ ในภาคอีสาน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น กาฬสินธ์หนองคาย สกลนคร และจังหวัดอุบลราชธานี จากผู้ให้ข้อมูลจำนวน 65 รูป/คน ผลจากการศึกษาพบว่า พุทธศิลป์ที่สร้างขึ้นในยุคพุทธกาลเน้นประโยชน์การใช้สอยเป็นสำคัญ และมุ่งพัฒนาที่ตัวบุคคลเป็นหลัก จึงปรากฎพุทธศิลป์ประเภทสถาปัตยกรรมที่เป็นส่วนของอาคาร สถานที่เท่านั้น ต่อมายุคหลังพุทธกาลจึงปรากฏประติมากรรมกล่าวคือพระพุทธรูป เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะได้รับอิทธิพลความเชื่อจากชาวกรีกที่นิยมสร้างรูปเคารพแทนเทพเจ้าที่ตนนับถือ พระพุทธรูปนั้นเริ่มแพร่หลายกระจายในยุคที่มีพระสาวกเข้ามาประกาศเผยแผ่พระพุทธศาสนาในรัชสมัยพระ เจ้าอโศก และการติดต่อทางการค้า จนเป็นที่นิยมหล่อหรือปั้นขึ้นพร้อมกับการมีอารามในภูมิภาคต่าง ๆ ในประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยเริ่มมีปรากฏหลักฐานในตำนานอุรังคนิทาน พระพุทธเจ้าตรัสรับสั่งให้พระอานนท์เถระหลังจากพุทธปรินิพพานให้นำพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนอุรังคธาตุ (กระดูกหน้าอก) มาประดิษฐานที่ภูกำพร้า ต่อมาจึงมีการสร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้นปรากฎนามว่า พระธาตุพนม และในคัมภีร์ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าพระพุทธองค์ได้ประทับรอยพระบาทไว้ 2 แห่งต่อมาได้มีการสร้างพระธาตุเจดีครอบไว้แห่งหนึ่งปรากฏนามว่า พระธาตุเชิงชุม ต่อมาจึงปรากฎหลักฐานว่ามีการสร้างพระพุทธรูปขึ้นในพื้นที่นี้ในยุคทวารวดี โดยค้นพบพระพุทธรูปหินทรายแกะสลักเป็นส่วนใหญ่ มีการสลักพระพุทธรูปนอนบนเพิงผ่าหลายแห่ง เช่น พระนอนภูค่าว อำเภอสหัสขันธ์ และพระนอนภูปอ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นต้น การสลักพระพุทธรูปบนหลักหินทรายเสมา เพื่อแสดงเขตสีมาของอุโบสถในการทำสังฆกรรมหลายแห่ง เช่นใบเสมาบ้านกุดโง้ง ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ หลังจากนั้นยุคขอมรุ่งเรืองในพื้นที่ได้มีการแกะสลักหินทรายเป็นพระพุทธรูปปางต่าง ๆ และมีการสร้างปราสาทเป็นศาสนาสถานเพื่อใช้ในการประกอบพิธี ต่อมาบางแห่งได้เปลี่ยนแปลงจากลัทธิความเชื่อเดิมเป็นพระพุทธศาสนาบ้างก็มี ในยุคล้านช้างได้มีการสร้างพุทธศิลป์ไว้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระพุทธรูปสำคัญที่ทำการศึกษาวิจัยใน ครั้งนี้ ส่วนใหญ่สร้างขึ้นในยุคล้านช้างนี้ มีการสร้างพระธาตุเจดีย์ศรีสองรักไว้แสดงเขตแดนของอาณาจักร ทั้งสอง บูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุพนมและพุทธศิลป์แห่งอื่นๆ ที่รุดทรุดโทรมตามกาล ในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นมีการย้ายถิ่นข้างแม่น้ำโขงมาตั้งบ้านเมืองหลายแห่ง จากการย้ายถิ่นในครั้งนั้นปรากฏว่ามีการอัญเชิญพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมาด้วย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของคณะรวมถึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงความศรัทธาต่อพระรัตนตรัยอย่างมั่นคง และเพื่อจะประดิษฐานพระพุทธศาสนาในบ้านเมืองที่เหมาะสมนั่นเอง คุณค่าและอิทธิพลของพุทธศิลป์นั้นพบว่า พระพุทธรูปส่งผลต่อความเชื่อความเลื่อมใสศรัทธาของคนในชุมชน ยึดถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของพื้นที่นั้น ๆ ทำให้เกิดความสันติสุขสงบร่มเย็นเกิดขึ้นในชุมชนและสังคม เกิดความสมัครสมานสามัคคีของคนในชุมชน เกิดจิตอาสาในการร่วมกันช่วยทำงานบุญประเพณีที่จัดขึ้นทุกปี เกิดรายได้จากการขายของชำร่วย ที่รลีกและการจ้างคนในชุมชนเกิดขึ้นเพื่อช่วยจัดสถานที่ให้เหมาะสมกับแหล่งท่องเที่ยว เกิดการท่องเที่ยวอันเป็นผลมาจากวัฒนธรรมประเพณีที่มีการจัดติดต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเป็นผลให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นนั้นมีรายได้หมุนเวียน ประชาชนมีพื้นที่เลี้ยงชีพนอกเหนือจากการอาชีพหลักด้านเกษตรกรรม
Abstract: The purposes of this research were 1) to study the concepts and development of Buddhist arts in the Northeastern region, 2) to study the important characteristics and the learning of Buddhist arts in the Northeastern region, and 3) to study the value and the influences of important Buddhist arts in the Northeastern region. This research was a qualitative study collecting data from both research papers and field data. 5 areas in 5 provinces in the Northeastern region were selected including Khon Kaen, Kalasin, Nong Khai, Sakon Nakhon, and Ubon Ratchathani. The data were collected from 65 monks/persons. The findings of research as follows: Buddhist arts created in the Buddha era importantly focused on the benefits and development of the individuals. Therefore, there were architectural Buddhist arts that were part of the buildings. Later in the post-Buddha era, sculptural Buddhist arts, Buddha images, were created because it was influenced by the belief of Greeks to create idols for respected gods. Buddha images were popular in the age that the Buddha's disciples came to proclaim Buddhism during the reign of King Ashoka and when there was a contact for trading until the casting of Buddha images was popular, along with the building of temples in various regions in Thailand. Especially in the Northeastern region of Thailand, it began to have evidence for Urangkhanitan. The Buddha ordered Ananda to take his breastbone ash to be enshrined at Phu Kumpra. Later, the pagoda named Phra That Phanom was built. It was stated in the scripture that the Buddha imprinted his footprints in two places. Later, there was a covering pagoda built with the name Phra That Choeng Chum. After that, there was evidence showing that the Buddha images were built in this area in the Dvaravati era. The sandstone-carved Buddha images were mostly found. There was a construction of the laying Buddha images on many cliff sheds such as Phra Non Phukhaw in Sahatsakhan District and Phra Non Phupo in Muang District, Kalasin Province. There was a the Sema sandstone carving of Buddha images to show the Sema area of the chapel for worships such as Sema leaves at Ban Kud Ngong, Kut Tum Sub-district, Muang District, Chaiyaphum Province. Later, at the time Khmer prospered, there was a sandstone carving of Buddha images in different manners. There was also a building of a castle as a place to perform rituals. After that, some of the places had changed their existing beliefs into Buddhism. In the Lan Xang era, several Buddhist arts were created, especially the Buddha images used in this study that were mostly built in the Lan Xang era. Phra That Chedi Si Song Rak was built to show the borders of both kingdoms and Phra That Phanom and other Buddhist arts that were dilapidated over time were repaired. At the beginning of the Rattanakosin era, there was emigration moving from the Mekong riversides to set up a city. During that emigration, the city's Buddha images were respectfully engaged to the new city to build the encouragement and willpower for people, as well as to show strong faith in the triple gems and to establish Buddhism in a suitable city. For the value and the influences of the Buddhist arts, it was found that Buddha images affected the faith and loyalty of people in the community and people pay respect to Buddha images as if they are the city's Buddha images, creating peace and tranquility in the community and society. It created harmony in people in the community. There are public minds for the cooperation in the annual traditional ceremony. There are incomes from selling souvenirs and hiring people in the community to help arrange a suitable place as a tourist attraction. It resulted in traveling occurred from a consecutively organized culture and traditions since the old days to the present. As a result, there is working capital for the local economy in the areas. People have space where they can have a job aside from their main career as agricultural workers.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ส่วนหอสมุดกลาง
Address: พระนครศรีอยุธยา
Email: library@mcu.ac.th
Role: ผู้ให้ทุน
Created: 2560
Modified: 2566-05-18
Issued: 2566-05-16
งานวิจัย/Research report
application/pdf
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 2560-099ดร.อดุลย์ หลานวงค์.pdf 6.3 MB2 2024-09-01 20:42:28
ใช้เวลา
0.042423 วินาที

อดุลย์ หลานวงค์
Title Contributor Type
พุทธศิลป์ : ประวัติ พัฒนาการ และอิทธิพลต่อการดารงชีวิตของประชาชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
อดุลย์ หลานวงค์ ;พระภาณุวัฒน์ จนฺทวฑฺฒโน ;พระมหาภิรัฐกรณ์ อสุมาลี
ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย MCU RS 610760099
งานวิจัย/Research report
พระภาณุวัฒน์ จนฺทวฑฺฒโน
Title Contributor Type
พุทธศิลป์ : ประวัติ พัฒนาการ และอิทธิพลต่อการดารงชีวิตของประชาชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
อดุลย์ หลานวงค์ ;พระภาณุวัฒน์ จนฺทวฑฺฒโน ;พระมหาภิรัฐกรณ์ อสุมาลี
ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย MCU RS 610760099
งานวิจัย/Research report
รูปแบบการสร้างความเข้มแข็งองค์กรวิถีพุทธ ผ่านการสื่อสารของสถานีวิทยุพระพุทธศาสนา FM 101.75 MHz
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระภาณุวัฒน์ จนฺทวฑฺฒโน (จันทาพูน)
พระมหามิตร ฐิตปญฺโญ
พระโสภณพัฒนบัณฑิต
วิทยานิพนธ์/Thesis
พระมหาภิรัฐกรณ์ อสุมาลี
Title Contributor Type
พุทธศิลป์ : ประวัติ พัฒนาการ และอิทธิพลต่อการดารงชีวิตของประชาชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
อดุลย์ หลานวงค์ ;พระภาณุวัฒน์ จนฺทวฑฺฒโน ;พระมหาภิรัฐกรณ์ อสุมาลี
ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย MCU RS 610760099
งานวิจัย/Research report
ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย MCU RS 610760099
Title Creator Type and Date Create
พุทธศิลป์ : ประวัติ พัฒนาการ และอิทธิพลต่อการดารงชีวิตของประชาชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย MCU RS 610760099
อดุลย์ หลานวงค์
พระภาณุวัฒน์ จนฺทวฑฺฒโน
พระมหาภิรัฐกรณ์ อสุมาลี
งานวิจัย/Research report
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 7
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 1,020
รวม 1,027 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 78,890 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 521 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 265 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล = 55 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเอกชน = 23 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสงฆ์ = 15 ครั้ง
หน่วยงานอื่น = 15 ครั้ง
สถาบันพระบรมราชชนก = 5 ครั้ง
มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ = 4 ครั้ง
รวม 79,793 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.184