แนวทางการพัฒนาการบริหารงานบุคคล ตามหลักไตรสิกขา โรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์

Name: ภารดี เกิดวาระ

Organization : ผู้วิจัย

keyword: การพัฒนาการบริหารงานบุคคล

; หลักไตรสิกขา

; โรงเรียนมัธยมศึกษา

; เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์

Abstract: การวิจัยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์ 2) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักไตรสิกขาโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์ ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมวิธี โดยวิธีวิจัยเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างผู้บริหารและคณะครู จำนวน 327 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนและประมาณค่า วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือวิจัยเป็นการสัมภาษณ์แบบมีโครงร่าง โดยเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการวางแผนงานบุคลากร มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมาก รองลงมา ได้แก่ ด้านการพัฒนาบุคลากร อยู่ในระดับมาก และด้านวัดผลการปฏิบัติของบุคลากร มีส่วนค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับปานกลาง 2.แนวทางการพัฒนาการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักไตรสิกขาโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์ 1. การวางแผนงานบุคลากร ตามหลักไตรสิกขา ผู้บริหารควรพัฒนาบุคลากรให้มีการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ แนวปฏิบัติ ประกาศ คำสั่ง กฎหมาย ของทางราชการ เพื่อจัดหาสวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูลบุคลากรให้มี แรงกายและแรงใจที่ดีในการพัฒนาตนเองและองค์กร โดยการกำนดเป้าประสงค์ พันธกิจ การฝึกปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมจิตเพื่อให้เกิดคุณธรรม สนับสนุนการเสริมสร้างและพัฒนาอบรมจิตใจ ด้านสติปัญญา ความสามารถให้เหมาะสมกับพื้นฐานความสามารถและความถนัดของบุคลากร อย่างสม่ำเสมอ 2. การพัฒนาบุคลากร ตามหลักไตรสิกขา ผู้บริหารสถานศึกษาพัฒนา ควรสนับสนุนบุคลากรด้วยการฝึกฝน ด้านพฤติกรรม คือการพัฒนา พฤติกรรมทางกาย และวาจาให้มีความสัมพันธ์ กับสิ่งแวดล้อมและบริบทของตนเอง อย่างถูกต้อง การปฏิบัติงานตามกฎ ระเบียบ คำสั่ง และกฎหมาย จรรยาบรรณที่ดีของบุคลากร 3. การธำรงรักษาบุคลากร ตามหลักไตรสิกขา ผู้บริหารควรให้รางวัล ด้วยหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมและเป็นธรรม กำหนดคุณสมบัติ ด้านความประพฤติ ของบุคลากร มาเป็นเกณฑ์ในการให้รางวัล การมีความมั่นคงในงานและการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย การมีใจที่หนักแน่น ใส่ใจในงาน ในการมอบขวัญกำลังใจ โดยมุ่งให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานและรักษาบุคลากรไว้ หลักพุทธศาสนา กล่าวไว้ว่า “ททมาโน ปิโย โหติ.”ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก และ “ททํ มิตฺตานิ คนฺถติ” ผู้ให้ย่อมจะผูกไมตรี ไว้ได้ 4. การวัดผลการปฏิบัติของบุคลากร ตามหลักไตรสิกขา ผู้บริหารควรคัดเลือกเกณฑ์การประเมินที่ถูกต้องตามกฎ ระเบียบ แนวปฏิบัติ กฎหมาย ความโปร่งใส ไม่ลำเอียงเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งและอ้างอิงได้ มีความทันสมัย พร้อมเลือกตัวชี้วัดที่เชื่อถือได้และสามารถนำมาอ้างอิงได้

Abstract: The study consisted of the following objectives: 1) to investigate the conditions of personnel management of secondary school administrators under Nakhon Sawan Secondary Educational Service Area Office; and 2) to propose the guidelines for the development of personnel management based on Trisikkhā of the secondary school administrators under Nakhon Sawan Secondary Educational Service Area Office. The study applied mixed-methods research which included quantitative and qualitative approaches. A sample group for collecting quantitative data consisted of 327 administrators and teachers. The research instrument was a questionnaire with a rating scale. The quantitative data were analyzed by way of frequency, percentage, mean, standard deviation (S.D.). The qualitative approach used semi-structured interview with 9 key informants for data collection. The qualitative data were analyzed using content analysis. From the study, the following results have been found: 1) The conditions of personnel management of secondary school administrators under Nakhon Sawan Secondary Educational Service Area Office are overall at a high level. When all aspects are taken into account, it has been determined that personnel work planning is at a high level with the highest mean, followed by personnel development, which is also at a high level, and personnel performance assessment is at a moderate level with the lowest mean. 2) The guidelines for the development of personnel management based on Trisikkhā of the secondary school administrators under Nakhon Sawan Secondary Educational Service Area Office are found as follows: (1) On personnel work planning according to Trisikkhā (the Threefold Learning), which administrators should encourage personnel to follow regulations, rules, announcements, instructions, and laws in order to obtain welfare and provide benefits for themselves, so that they will have physical and mental strength to develop themselves and the organization, in which determining goals and missions will also help. In order to obtain morality, administrators should also provide and promote mental training for personnel. On wisdom, there should be ongoing training to suit employees' abilities and competence. (2) On personnel development according to Trisikkhā, which administrators should develop and support personnel through behavioral training, namely the development of physical and verbal conduct in response to one's surroundings and context This comprises following regulations, rules, announcements, instructions, and laws as the code of conduct for good personnel. (3) On personnel maintenance according to Trisikkhā, which administrators should award personnel based on fair and equitable standards, and the behavioral quality of personnel should be identified as the award criteria. Personnel should be encouraged to have confidence in work, perform the assigned work, and have a firm mind, pays attention to work. Administrators should also encourage and maintain personnel. In Buddhism, there is a saying, “dadamāno piyo hoti” meaning one who gives is loved by others, and “dadaṃ mittāni ganthati” meaning the giver binds friends. (4) On personnel performance assessment according to Trisikkhā, which administrators should choose the appropriate assessment criteria in accordance with rules, regulations, practices, and laws. The assessment criteria should be based on transparency, impartiality, not favoring one party over another, and be up to date. The indicators used should also be reliable and usable as a reference

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ส่วนหอสมุดกลาง

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: ดร.วินัย ทองมั่น

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: รศ.ดร.วรกฤต เถื่อนช้าง

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2564

Modified: 2023-07-10

Issued: 2566-05-10

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: พุทธบริหารการศึกษา

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	SliJwMFaG5d5NCnQ2WcspCOGoKMrO1kNPEwwNR5Z.pdf	10.65 MB	40	2025-10-06 22:08:19

ใช้เวลา

0.034903 วินาที