การเสริมสร้างค ่นิยมสุจริตของสถาบันครอบครัวตามหลักพระพุทธศาสนา

Name: พระพรหมเวที (สุเทพ ผุสฺสธมฺโม)

Organization : ผู้วิจัย

keyword: การเสริมสร้าง

; ค่านิยมสุจริต

; สถาบันครอบครัว

; ตามหลักพระพุทธศาสนา

Abstract: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัจจุบันของคานิยมสุจริตของสถาบัน ครอบครัว (2) วิเคราะห์แนวทางการเสริมสรางคานิยมสุจริตของสถาบันครอบครัวตามหลักพระพุทธศาสนาที่สอดคลองกับบริบทของสังคมไทย และ (3) นำเสนอรูปแบบการเสริมสรางค่านิยมสุจริตของสถาบันครอบครัวตามหลักพระพุทธศาสนา โดยการวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยแบบผสานวิธี ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใชแบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมขอมูลภาคสนามจากกลุมตัวอยาง คือ ผู้แทนครัวเรือนในพื้นที่จังหวัดราชบุรี จำนวน 400 ครัวเรือน และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใชโปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกผูใหขอมูลสำคัญ จำนวน 8 รูป/คน และการสนทนากลุมเฉพาะรวมกับผูทรงคุณวุฒิ ด้วยวิธีการสุมแบบเจาะจง จำนวน 8 รูป/คน ครอบคลุมผูมีสวนเกี่ยวของ 4 กลุม ประกอบดวย กลุ่มองค์กรศาสนากลุ่มองค์กรภาครัฐ กลุ่มองค์กรการศึกษา และกลุ่มองค์กรทองถิ่นและวิเคราะห์ข้อมูลดวยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบทผลการวิจัยพบวา 1. ค่านิยมสุจริตของสถาบันครอบครัว โดยภาพรวม อยูในระดับมาก มีคาเฉลี่ยเทากับ 4.25 เมื่อพิจารณาเป็นรายดาน พบว่า ด้านที่มีคาเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ดานการละเวนกาเมสุมิจฉาจาร อยูในระดับมากที่สุด มีคาเฉลี่ยเทากับ 4.51 รองลงมาได้แก่ ดานการละเวนอทินนาทาน อยู ในระดับมาก มีคาเฉลี่ยเทากับ 4.41 สวนดานที่มีคาเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านการละเว นมุสาวาท อยูในระดับมาก มีคาเฉลี่ยเทากับ 4.212 ผลการวิเคราะห์แนวทางการเสริมสร้างคานิยมสุจริตของสถาบันครอบครัวตามหลักพระพุทธศาสนาที่สอดคลองกับบริบทของสังคมไทย พบวา (1) ดานการละเวนปาณาติบาต ได้แกสงเสริมกิจกรรมจิตสาธารณะ สงเสริมกิจกรรมสร างความปรองดองสามัคคีอยางตอเนื่อง และสงเสริมการจัดตั้งกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ ยากไร้หรือผูดอยโอกาส (2) ดานการละเวนอทินนาทาน ไดแกสงเสริมการดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอยางตอเนื่อง สงเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจระดับครัวเรือนและอาชีพเสริม และการเฝJาระวังและสรางภูมิคุมกันสังคมอยูเย็นเป็นสุขตามแนววิถีพุทธข(3) ด้านการละเว้นกาเมสุมิจฉาจาร ได้แก่ สร้างภูมิคุ้มกันครอบครัวอบอุน สงเสริมการมีสวนรวมในกิจกรรมทางสังคมร วมกันของสมาชิกในครอบครัว และสงเสริมกิจกรรมประกวดครอบครัวรักษาศีลหาเพื่อยกย องครอบครัวตนแบบใหเป>นรูปธรรมทางสังคม (4) ด้านการละเวนมุสาวาท ได้แก สร้างสิ่งแวดลอมที่เป็นคุณทางสังคม จัดกิจกรรมทางสังคมระดับชุมชนที่สงเสริมความสามัคคีและการอยูรวมกันอยางสันติสุข และส่งเสริมวิธีการคิดวิเคราะห์ในการใชคำพูดในเชิงบวก (5) ด้านการละเวนสุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน ได้แก่ สร้างหลักประกันสุขภาพในครอบครัวโดยมีตนแบบความประพฤติที่ดีเป็นฐาน รณรงค์การทำกิจกรรมทางสังคมที่สงเสิรมใหชุมชนปลอดอบายมุขและยาเสพติดอยางตอเนื่อง และจัดตั้งชมรมครอบครัวรักษาสุขภาวะและภูมิคุ้มกันภัยยาเสพติด 3. รูปแบบการเสริมสร้างคานิยมสุจริตของสถาบันครอบครัวตามหลักพระพุทธศาสนาพบว่า รูปแบบการเสริมสร้างค่านิยมสุจริตของสถาบันครอบครัวตามหลักพระพุทธศาสนาที่เหมาะสม และสอดคลองกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน ได้แก่ รูปแบบของเครือขายสัมพันธ์ทางสังคม ที่เรียกว่าเครือขายครอบครัวสุจริตวิถีพุทธ ที่มุงขับเคลื่อนการทำงานระหว่างผูมีสวนเกี่ยวของระดับพื้นที่จาก เล็กไปหาใหญ โดยอาศัยโครงการสรางความปรองดองสมานฉันท์โดยใชหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหมู่บ้านรักษาศีล 5 เป็นฐาน ทั้งนี้ “เครือขายครอบครัวสุจริตวิถีพุทธ” มีวิสัยทัศน์ คือ “เสริมสร้างคานิยมและวิถีชีวิตสุจริตแนวพุทธ” และมีพันธกิจ คือ “การเสริมสรางคานิยมสุจริตแกเด็กและ เยาวชน และสนับสนุนการทำกิจกรรมทางสังคมที่มีคุณภาพ” และมีภารกิจหลัก คือ (1) สงเสริมสร้างความปรองดองสามัคคีอยางตอเนื่องดวยกิจกรรมจิตสาธารณะ (2) สงเสริมการดำเนินชีวิตตาม ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและสรางภูมิคุมกันสังคมอยูเย็นเป็นสุขปราศจากทุจริต (3) ส งเสริมการสรางภูมิคุมกันครอบครัวอบอุนโดยกระบวนการมีสวนรวมของสมาชิกในครอบครัว (4) ส่งเสริมการเผยแพรองค์ความรูการคิดวิเคราะห์วิธีใชคำพูดในเชิงบวก และ (5) ส่งเสริมการรักษาสุขภาวะและภูมิคุมกันยาเสพติดด้วยวิถีครอบครัวอบอุน

Abstract: The purposes of this research are (1) to study the current condition of honesty value of family institution, (2) to analyze ways to promote honest values of family institution in accordance with Buddhist principle consistent with the context of Thai sodety, and (3) to propose a model to promote honest values of family institution in accordance with the principle of Buddhism. The research methodology was the mixed method research, that the quantitative research used the questionnaire as the tool to collect the data in the field study from the representatives of 400 households in Ratchaburi province and analyzed the data using software packages for sodal science research. Whereas the qualitative research used in -depth inteview with 8 key informants and focus group discussions with experts on specific random sampling, consisting of 8 people these are covering 4 related groups; Religious Organizations, Govemment Organizations, Educational Organizations and Local Organizations and analyzed the data through the content analysis technique. The findings of this research were as following: 1. The honest values of family institution in general were at a high level with an average of 4.25. When considering in each aspect, it was found that the aspect with the highest mean was the forbearance of the adultery at the highest level, with a mean of 4.51. The second was the high level of refrain from stealing, with an average of 4.41. The aspect with the least mean was the abstaining from lying, which was at the high level of 4.21. 2. The results of the analysis of the ways to enhanding honest values of family institution in accordance with Buddhist prindple consistent with the context of Thai sodiety found that (1) in refraining from kiluing animals include promoting public mental activities, promoting activities to continually create harmony and unity, and promoting the establishment of the Fund for the Development of the Quality of Life for the Poor or the Underprivileged. (2) In the aspect of refrain from stealing, such as promating the lifestyle according to the sufficiency economy philasophy continuously, promoting the development of household economy and supplementary careers, and monitoring and creating peaceful social immunity in accordance with the Buddhist way of life. (3) In the aspect of forbearance of the adultery such as creating a warm family immunity, promoting participation in joint social activities of family members and promating family contests preserving the five precepts in order to honor the model family as social concrete. (4) In the aspect of abstaining from lying such as creating a beneficial environment for society, organizing social activities at the community level that promoted unity and peaceful coexistence, and promating analytical methods of using positive words. (5) Regarding the abstention af alcohd, indluding health insurance in the family by having a good behavior-based model, a social activity campaign that continuously encouraged communities to be free from vices and drugs, and establish a family club to maintain health and immunity from drugs. 3. The model to promote honest values of family institutions in accordance with Buddhism principles, found that the model suitable an and consistent with the current situation was a form of sodial relationship network called the "Family Faithful Network", a Buddhist way that aimed to work between all the stakeholders at the local level from small to large scale by using the project to recancile according to the Buddhist principles, that was, the Village Keeping 5 Precepts Program as a base. In this regard, the "Family Faithful Network of Buddhist Ways" had a vision that was 'strengthening Buddhist values and honest ways of life'. The mission was 'promoting honest values for children and youth and supporting quality social activities . Moreaver, it had a primary missions which were (1) promating continuaus recondliation vith public mental activities (2) promoting living according to the suffiency economy philosophy and creating peaceful social. immunity (3) promoting wamm family immunity through the participation process (4) promoting the dissemination of knowledge, analytical thinking, and positive speech techniques, and (5) promoting the health and immunity treatment of drugs with a warm famnily lifestyle.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ส่วนหอสมุดกลาง

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย MCU RS 610760258

Role: ผู้ให้ทุน

Created: 2560

Modified: 2566-05-09

Issued: 2566-05-09

งานวิจัย/Research report

application/pdf

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	2560-258พระพรหมเวที (สุเทพ ผุสฺสธมฺโม).pdf	2.61 MB	8	2024-08-03 12:11:55

ใช้เวลา

0.018687 วินาที