การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชาพระพุทธศาสนา โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี

Name: พระมหากิตติวัฒน์ กิตฺติวฑฺฒโน (อัมสารัมย์)

Organization : ผู้วิจัย

keyword: หลักอิทธิบาท 4

; วิชาพระพุทธศาสนา

Abstract: การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ 2 รายวิชาพระพุทธศาสนา โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี 2) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชาพระพุทธศาสนา โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี 3) เพื่อนำเสนอแนะข้อมูลการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชาพระพุทธศาสนา โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแผนบทเรียนและแบบทดสอนก่อนและหลัง กลุ่มประชากรที่ใช้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 26 คน โดยใช้วิธีเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ผลการวิจัยพบว่า 1. ผลการวิเคราะห์การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชาพระพุทธศาสนา โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี พบว่า โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.54, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.85) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 1 ด้าน คือ ด้านวิริยะ (ค่าเฉลี่ย = 3.58, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.86) รองลงมา คือ ด้านฉันทะ (ค่าเฉลี่ย = 3.55, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.94) และด้านวิมังสา (ค่าเฉลี่ย = 3.51, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.81) ส่วนข้อที่นักเรียนมีความคิดเห็นน้อยที่สุด คือ ด้านจิตตะ (ค่าเฉลี่ย = 3.51, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.79) เมื่อพิจารณาโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน 2. ผลการเปรียบเทียบการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชาพระพุทธศาสนา โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี จำแนกตามแบบทดสอบก่อนเรียน และแบบทดสอบหลังเรียน โดยการทดสอบค่าที (t - test) พบว่า นักเรียนที่มีนักเรียนมีผลคะแนนจากแบบทดสอบก่อนเรียน และแบบทดสอบหลังเรียนต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติน้อยกว่า 0.05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 3. เสนอแนะแนวทางการจัดการเรียนการสอนตามหลักอิทธิบาท 4 ในการจัดการเรียน การสอน ครูผู้สอนควรกระชับเนื้อหาสาระให้สอดคล้องกับระยะเวลา สร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียน เกิดความสนใจในการเรียนรู้ มีสื่อการเรียนการสอนที่หลากหลายและเหมาะสมกับพื้นฐานความรู้ ความสามารถของผู้เรียน มีกระบวนการ วิธีการสอนที่หลากหลายเน้นให้ผู้เรียนเกิดการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ตามหลักการและเหตุผล ด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดประสบการณ์ด้านทักษะการเรียนรู้ และสามารถนำประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

Abstract: The thesis applied the experimental research approach consisting of the following objectives: 1) to study the development of learning activity arrangement according to Iddhipāda in Buddhism subject for the 2nd secondary school students, Phrapariyattidhamma Wat Pikul Thong school, Singburi province; 2) to study the comparison of learning activity arrangement according to Iddhipāda between pretest and posttest of the 2nd secondary school students, Phrapariyattidhamma Wat Pikul Thong school, Singburi province; and 3) to propose suggestions for developing learning activity arrangement according to Iddhipāda in Buddhism subject for the 2nd secondary school students, Phrapariyattidhamma Wat Pikul Thong school, Singburi province. The research instruments consisted of lesson plans as well as the pretest and posttest. The population used were 26 students of the 2nd secondary school students by means of purposive sampling. The results of the research are found as follows: 1) The results from analyzing the development of learning activity arrangement according to Iddhipāda in Buddhism subject for the 2nd secondary school students, Phrapariyattidhamma Wat Pikul Thong school, Singburi province are found overall at a high level (x̄ = 3.54, S.D. = 0.85). When considering each aspect, it is found that Viriya or Effort is at the highest level (x̄ = 3.58, S.D. = 0.86). Followed by Chanda or Aspiration (x̄ = 3.55, S.D. = 0.96) and Vīmaṃsā or Investigation (x̄ = 3.51, S.D. = 0.81). The last one that students have the least opinions on is Citta or Consciousness (x̄ = 3.51, S.D. = 0.79). When considering the overall, it is at a high level in all aspects. 2) The comparative results of learning activity arrangement according to Iddhipāda in Buddhism subject for the 2nd secondary school students, Phrapariyattidhamma Wat Pikul Thong school, Singburi province when classifying by pretest and posttest through a t-test, it is found that students have different scores in pretest and posttest with a statistical significance at 0.05 level, according to the set assumption. 3) The suggestions for the teaching and learning arrangement according to Iddhipāda found that teachers should provide comprehensive content that is in line with the duration, build motivation for the students to have an interest in learning, provide various teaching materials that are appropriate to the basic knowledge and ability of students, provide teaching methods and processes for students to have analytical and synthetic thinking skills according to principles and reasons. All of which will result in the experiences on learning skills upon the students so that they can apply the obtained benefits in daily life.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ส่วนหอสมุดกลาง

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: ผศ.ดร.นิเวศน์ วงศ์สุวรรณ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: รศ.ดร.สมชัย ศรีนอก

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2563

Modified: 2023-06-11

Issued: 2566-05-08

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Inff1sV2PLxehytKVhwG0msfQdat6SsydILhAwi6.pdf	5.35 MB

ใช้เวลา

0.034058 วินาที