ความหลากชนิดของราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาในไม้ต้นวงศ์ถั่วบางชนิดและผลที่มีต่อการเติบโตของกล้าไม้

Species diversity of arbuscular mycorrhizal fungi in some fabaceous trees and their effects on growth of the seedlings

Name: เพ็ญพิชชา ชูสง่า

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์. วท.ม. (วิทยาศาสตร์ชีวภาพป่าไม้) 2560

Classification :.LCCS: QK918

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพป่าไม้ -- วิทยานิพนธ์

ThaSH: ราเวสสิคูล่าร์-อาร์บัสคูลาร์ ไมคอร์ไรซา

ThaSH: ไมคอร์ไรซา

ThaSH: พืชวงศ์ถั่ว -- การเจริญเติบโต

Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความหลากชนิดของราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาในไม้ต้นวงศ์ถั่ว ได้แก่พะยูง ประดู่ป่าและแดงและผลของราต่อการเติบโตของกล้าไม้ชนิดดังกล่าว โดยได้เก็บตัวอย่างดินในแปลงปลูกและดินในถุงเพาะชำกล้าไม้จากสถานีวนวัฒนวิจัย สะแกราช จังหวัดนครราชสีมารวมทั้งสิ้น 60 ตัวอย่างจกนั้นนำดินมาแยกสปอร์ราโดยวิธี modified wet sieving method และ sucrose centrifugation โดยสปอร์ของราที่แยกได้ถูกจำแนกโดย ใช้ลักษณะทางสัณฐานวิทยาแล้วนำมาคำนวณค่าดัชนีความหลากชนิด ความหนาแน่นของสปอร์ และจัดกลุ่มราด้วย Cluster analysis จากนั้นได้ผลิตหัวเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาบางชนิดแล้วนำไปปลูกเชื้อให้แก่กล้าไม้วงศ์ถั่ว 3 ชนิด โดยใช้ราต่างชนิดกัน ได้แก่ (1) Acaulospora sp.1 50 สปอร์, (2) Unknown sp.2 50 สปอร์ (3) Acaulospora sp.1+ Unknown sp.2 ชนิดละ 25 สปอร์ และ (4) ไม่ปลูกเชื้อ (control) หลังจากนั้นนำข้อมูลการเติบโตไปวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ ผลการศึกษาพบราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา 11 ชนิด ซึ่งจำแนกอยู่ใน 3 สกุลได้แก่ Acaulospora (3 ชนิด) Glomus (7 ชนิด) Scutellospora (1 ชนิด) และไม่สามารถระบุชนิดได้ 3 ชนิด แปลงปลูกไม้พะยูงมีความหลากชนิดของรามากที่สุด (H’=1.878) ความหนาแน่นของสปอร์ราในดินแปลงปลูกมากกว่า ดินถุงเพาะชำกล้าไม้และกลุ่มของราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาในดินแปลงปลูกยังแตกต่างจากกลุ่มของราในดินถุงเพาะชำกล้าไม้ด้วย สำหรับผลของราต่อการเติบโตของกล้าไม้พบว่า กล้าไม้อายุ 7 เดือนที่ได้รับการปลูกเชื้อมีการเข้าอยู่อาศัยของราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา 13.31 – 55.60 เปอร์เซ็นต์ซึ่งวิธีการปลูกเชื้อด้วย Acaulospora sp.1 กล้าไม้มีเปอร์เซ็นต์การเข้าอยู่อาศัยของรามากที่สุด กล้าไม้ที่ปลูกเชื้อด้วยราต่างชนิดกัน มีการเติบโตสัมพัทธ์ด้านความสูงและน้ำหนักแห้งมากกว่ากล้าไม้ที่ไม่ปลูกเชื้ออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) ซึ่งการปลูกเชื้อด้วย Acaulospora sp.1 50 สปอร์ และ Acaulospora sp.1+ Unknown sp.2 ชนิดละ 25 สปอร์ สามารถทำให้กล้าไม้มีการเติบโตสัมพัทธ์ด้านความสูงและน้ำหนักแห้งมากกว่า กล้าไม้ที่ไม่ปลูกเชื้ออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) ดังนั้นจึงสามารถใช้ทั้งสองวิธีนี้ในการเพิ่มการเติบโตให้กับกล้าไม้ได้โดยให้ผลไม่แตกต่างกัน This study aimed to investigate diversity of the arbuscular mycorrhizal fungi (AMF) of Fabaceous trees – including Dalbergia cochinchinensis, Pterocarpus macrocarpus and Xylia xylocarpa – and their effects on the seedling growth. The plantation soil samples from those tree species and soil in seedling bags were collected at Sakaerat Silvicultural Research Station, Nakhon Ratchasima province. There were 60 rhizosphere soil samples in total. Then, AMF spores were extracted using the modified wet sieving and sucrose centrifugation method. The species of all extracted spores were identified by morphology, and the fungal species diversity index, spore density and grouping by cluster analysis were calculated. Spores of some AMF species were used for producing fungal inocula, which were used to inoculate three species of Fabaceous trees. The four sets of fungal species were (1) 50 spores of Acaulospora sp.1, (2) 50 spores of Unknown sp.2, (3) 25 spores of Acaulospora sp.1 and Unknown sp.2, and (4) a non-inoculating control. After that, growth data were statistically analysed. Results revealed 11 species of AMF and could be classified in three genera, which were Acaulospora (3 species), Glomus (7 species), and Scutellospora (1 species). Meanwhile, three species remained unidentified. D. cochinchinensis plantation soils had the highest species diversity index (H’=1.878). The spore densities in plantation soils were higher than in soils from seedling bags. The groups of AMF in the plantation soils were different from in the seedling bags. AMF colonized in seven-month-oldinoculated seedlings were 13.31 – 55.60 %. The inoculation method with Acaulospora sp.1 showed the highest colonization. The inoculated seedlings with different AMF species had a higher relative growth rate (RGR) of height and total dry weight than the control seedlings (P<0.05). The inoculation method with either 50 spores of Acaulospora sp.1 or 25 spores of Acaulospora sp.1 + Unknown sp.2 could improve the RGR of seedlings and can be applied to produce a good quality of seedlings.

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: tdckulib@ku.ac.th

Name: ธารรัตน์ แก้วกระจ่าง

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก

Name: อุทัยวรรณ แสงวณิช

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม

Created: 2560

Modified: 2566-04-24

Issued: 2566-04-24

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

URL: https://kasetsart.idm.oclc.org/login?url=https://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/2560/penpitcha-cho-all.pdf

CallNumber: QK918.พ53

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิทยาศาสตร์ชีวภาพป่าไม้

Grantor: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

©copyrights มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	penpitcha-cho-all.pdf	5.56 MB	1	2025-01-12 21:16:36

ใช้เวลา

0.04157 วินาที