แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

สมณสารูปของพระสงฆ์ไทยในมุมมองของพุทธปรัชญา

Organization : ผู้วิจัย

Organization : ผู้วิจัย
keyword: สมณะ
; สงฆ์
; พุทธปรัชญา
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สามประการ คือ 1) เพื่อศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับสมณสารูปในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา 2) เพื่อวิเคราะห์สมณสารูปตามแนวคิดของพุทธปรัชญา 3) เพื่อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาสมณสารูปของพระสงฆ์ไทย จากการศึกษาพบว่าในคัมภีร์ทางพุทธศาสนาในส่วนของพระวินัยและพระสุดตันตปิฎก ไม่ปรากฏคำว่าสมณสารูป หากแต่จะพบได้บ้างในส่วนของพระอรรถกถาและพระอภิธรรมปีฎก ดังนั้น การเข้าใจคำว่า "สมณสารูป" จึงต้องอาศัยมโนทัศน์เกี่ยวกับ "สมณะ" เป็นสำคัญ ซึ่งจากการศึกษาพบว่า พระพุทธเจ้าทรงใช้คำว่า "สมณะ" ในสองความหมาย ได้แก่ 2) ผู้กำลังปฏิบัติสมณธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ (สมมติสมณะ) และ 2) ผู้ที่สามารถดับกิเลสได้อย่างน้อยสังโยชน์สามข้อแรก (อริยสมณะ) ซึ่งก็คือ พระอริยบุคคล 4 กลุ่ม อัน ได้แก่ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ นอกจากนี้ คำว่า "สมณะ" หมายถึง ผู้สงบกาย วาจา และใจ ดังนั้น การพิจารณาสมณสารูปจึงแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1) สมณสารูปกายนอก ซึ่งพิจารณาโคยใช้บทบัญญัติแห่งศีลและอภิสมาจารต่างๆ เป็นเกณฑ์ แต่ในบางกรณี ที่เป็นการกระ ทำที่ซับซ้อนอาจต้องใช้ความสอดคล้องกับเป้าหมายสูงสุดทางพระพุทธศาสนา และเกณฑ์พื้นฐานที่พระพุทธเจ้าทรงใช้ประเมินสมณสารูป ของพระสงฆ์ในยุคก่อนมีบทบัญญัติแห่งศีลแต่ละข้อ ได้แก่ ความเป็นคนเลี้ยงง่าย บำรุงง่าย ความเป็นคนมักน้อย สันโดษ ไม่สะสม การเป็นผู้ขัดเกลา กำจัด มีอาการน่าเลื่อมใส การเป็นผู้ไม่คลุกคลีและปรารภความเพียร และ 2) สมณสารูปภายใน ซึ่งพิจารณาจากความเป็นอิสระจากกิเลสของจิต อย่างไรก็ตาม สัญลักษณ์สำคัญของการปฏิบัติสมณธรรมตามแนวทางของพระพุทธศาสนานั้นต่างจากศาสนาอื่นๆ ก็คือ เป็นวิถีทางที่สามารถทำให้มรรคแปดเกิดขึ้นอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งถือเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา (นิพพาน) ได้ ถ้าผู้ปฏิบัติ กำลังปฏิบัติในแนวทางอื่นใดที่ไม่อาจทำให้มรรคแปดเกิดขึ้นได้ ก็มิอาจเข้าถึงความเป็นสมณะที่แท้จริงในพระพุทธศาสนา ทั้งนี้ ในการวิพากษัวิจารณ์สมณสารูปของพระสงฆั บุคคลทั่วไปมักจะพิจารณาได้แค่เพียงสมณสารูปภายนอกของพระสงฆ์เท่านั้น ไม่สามารถพิจารณาสมณสารูปภายในของท่านได้ จึงทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่าพระสงฆ์รูปใดเป็นอริยสมณะ หรือเป็นอริยสมณะระดับใด อีกทั้งบุคคล โดยทั่วไปมักไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับศีลและธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ ของพระสงฆ์ ด้วยเหตุนี้การวิพากษ์วิจารณ์จึงควรเป็นไปอย่างระมัดระวัง โดขตั้งอยู่บนหลักการพื้นฐาน 3 ประการ คือ 1) บุคคลควรตระหนักในขอบเขตความรู้ของตน 2) บุคคลควรมีเจตนาที่ดีในการวิพากษ์วิจารณ์ และ 3) บุคคลควรเลือกใช้วิธีการวิพากษ์วิจารณ์ที่สร้างสรรค์สำหรับข้อเสนอแนะ ในการพัฒนาสมณสารูปของพระสงฆ์ไทยนั้น ผู้ทรงคุณวุฒิส่วนใหญ่ต่างเห็นตรงกันว่า 1) ควรสร้างความตระหนักในความเป็นพระสงฆ์หรือสมณสัญญาของตัวพระสงฆ์เองเป็นสำคัญ 2) พระสงฆ์ในชุมชนสงฆ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าอาวาส พระอุปัชฌาย์ และพระวิปัสสนาจารย์ ควรเอาใจใส่ดูแลและเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งในเรื่องการปฏิบัติดนในสังคมและการปฏิบัติภาวนาอย่างถูกวิธี 3) พุทธศาสนิกชนก็ถือเป็นบุคคลสำคัญในการร่วมกันสอดส่องดูแลการประพฤติปฏิบัติตนของพระสงฆ์ และเอื้ออำนวยให้พระสงฆ์มี โอกาสได้ปฏิบัติภาวนาและเป็นพระสงฆ์ที่ดี นอกจากนี้ ยังมืองค์ประกอบค้านอื่นๆ ที่มีผลต่อการพัฒนาสมณสารูปของพระสงฆ์ เช่น การปฏิรูปด้านการศึกษา และการออกกฎระเบียบในการ ใช้เทคใน โลยีการสื่อสารอย่างเหมาะสม เป็นต้น
Abstract: The objectives of the study are: 1) to study the monk's proper behavior of Buddhist priest in Buddhist Scriptures, 2) to analyze critically for the monk's proper behavior of Buddhist priest in Buddhist philosophy, and 3) to propose the ways to develop Thai monk's proper behavior of Buddhist priest. It was found that the word "'samanasaruppa", the monk's proper bebavior, was appeared in At tbagatha and Abhidhammapitaka, not in Vinayapitaka and Suttantapitaka. This should be understood this word mainly through the concept of"samana" and "saruppa". The Buddha uses the word "samana" in two meanings: 1) a person who is practicing samanadhamma in order to liberate from suffering (Ssammatisamana), and 2) a person who liberates from at least three fetters (ariyasamana), namely; sotapanna; sakadagami; anagami; and arabanta. Besides, samana is one who performs acts of austerity and liberates his mind from defilements. There are two kinds of samanasaruppa; 1) External samanasaruppa, good practice, is evaluated by criteria of precepts and suitable manners of Buddhist monks. In the case of the complex actions, we should use basic criteria of being a good monk, namely; being easy to support, wanting little, contentment, having no hoard, being fond of solitude, getting rid of defilements, being respectable, seclusion, and exertion. 2) Internal samanasaruppa, mental development, which is evaluated by a criterion of defilement disposal of mind. The important symbol of practicing samanadhamma in Buddhism is an occurring of the Eightfold Paths which leads us to achieve in the ultimate goal of Buddhism (Nirvana). Thus, the Eightfold Paths makes Buddhism differ from other religions. If a man practices in other ways which cannot create the Eightfold Paths, he cannot attain the real samana in Buddhism. Besides, a layman has limitations of criticism to the Buddhist monk's proper behavior. He can observe only bodily and verbal qualities of a Buddhist monk's proper behavior, but not mental qualities of a Buddhist monk's proper behavior. He cannot know whether Noble monk (ariyasamana) is and at which level. He cannot understand each precept and practical tradition of the Buddhist monk thoroughly. Therefore, people should criticize a Buddhist monk' s proper behavior carefully based on three principles; 1) They should realize the limitations of their knowledge; 2) They should criticize based on their goodwill; and 3) They should choose the creative ways to criticize. There are three crucial suggestions to develop samanasaruppa for Thai monks. 1) Most Buddhist thinkers think that encouragement those monks to be aware of their priesthood and samaasarna. 2) Monks in the community, especially preceptors; abbots; and insight meditation teachers, should take care of a new monk and become a good example for him in both external performances and meditation practice. 3) AIl Buddhists should look after behaviors of monks and facilitate them to practice in the right way and to be the good monks. Besides, to develop samanasaruppa, there are other components such as the educational reformation and establishing of regulations for using the communicative technology appropriately.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ส่วนหอสมุดกลาง
Address: พระนครศรีอยุธยา
Email: library@mcu.ac.th
Role: ผู้ให้ทุน
Created: 2559
Modified: 2566-04-04
Issued: 2566-04-04
งานวิจัย/Research report
application/pdf
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 2559-016 อัญชลี ปิยปัญญาวงศ์.pdf 6.41 MB
ใช้เวลา
0.044929 วินาที

อัญชลี ปิยปัญญาวงศ์
Title Contributor Type
มโนทัศน์เรื่องเหตุการณ์อัศจรรย์ของเดวิด ฮูม
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อัญชลี ปิยปัญญาวงศ์
สุวรรณา สถาอานันท์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ผลของกลุ่มการเจริญส่วนบุคคลตามรูปแบบของทรอตเซอร์ ที่มีต่อความกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมของนักศึกษาพยาบาล
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อัญชลี ปิยปัญญาวงศ์

โสรีช์ โพธิแก้ว
วิทยานิพนธ์/Thesis
สมณสารูปของพระสงฆ์ไทยในมุมมองของพุทธปรัชญา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
อัญชลี ปิยปัญญาวงศ์;สุปรียส์ กาญจนพิศศาล
ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย MCU RS 610759016
งานวิจัย/Research report
สุปรียส์ กาญจนพิศศาล
Title Contributor Type
การบ่มเพาะผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ของชุมชนแอโก๋-แสนคำลือ ด้วยกระบวนการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงแนวจิตตปัญญาศึกษา
มหาวิทยาลัยบูรพา
สมสิทธิ์ อัสดรนิธี;สุปรียส์ กาญจนพิศศาล

บทความ/Article
สมณสารูปของพระสงฆ์ไทยในมุมมองของพุทธปรัชญา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
อัญชลี ปิยปัญญาวงศ์;สุปรียส์ กาญจนพิศศาล
ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย MCU RS 610759016
งานวิจัย/Research report
ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย MCU RS 610759016
Title Creator Type and Date Create
สมณสารูปของพระสงฆ์ไทยในมุมมองของพุทธปรัชญา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย MCU RS 610759016
อัญชลี ปิยปัญญาวงศ์
สุปรียส์ กาญจนพิศศาล
งานวิจัย/Research report
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 88
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 3,090
รวม 3,178 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 207,739 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 530 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 463 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล = 119 ครั้ง
หน่วยงานอื่น = 67 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเอกชน = 9 ครั้ง
สถาบันพระบรมราชชนก = 2 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสงฆ์ = 1 ครั้ง
มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ = 1 ครั้ง
รวม 208,931 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.214