แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

ผลการจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธีเอสทีเออาร์ที่มีต่อความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
The Effect of Learning Management through STARStrategy Steps in Mathematics Problem Solving Ability of Prathomsuksa 4 Students

ThaSH: การจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธีเอสทีเออาร์
ThaSH: ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์
Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลัง ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธีเอสที เออาร์ 2) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธีเอสทีเออาร์ กับเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนชุมชนวัดท่าซุง (เลิศ-สิน อุปถัมภ์) อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 23 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธี เอสทีเออาร์ ซึ่งมีคุณภาพด้านความเหมาะสมในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.28 และแบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา คณิตศาสตร์ ที่มีลักษณะเป็นแบบทดสอบอัตนัย จำนวน 6 ข้อ คะแนนเต็ม 72 คะแนน มีค่าความเที่ยงตรง 1.00 มีค่าความยากอยู่ระหว่าง 0.70 – 0.77 มีค่าอำนาจจำแนก อยู่ระหว่าง 0.45 - 0.60 และมีค่า ความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีกรณีกลุ่มตัวอย่างไม่อิสระจากกัน และการทดสอบค่าทีกรณีกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียว ผลการศึกษาพบว่า 1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธีเอสทีเออาร์ มีความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ก่อนเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 54.57 ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานเท่ากับ 6.24 และหลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 65.26 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 4.71 ซึ่ง ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธีเอสทีเออาร์ มีความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์หลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 65.26 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 4.71 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Address: นครสวรรค์
Email: library@nsru.ac.th
Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์
Created: 2564
Modified: 2566-03-08
Issued: 2566-03-08
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 Kanittha Phokrai.pdf 4.2 MB18 2025-09-19 11:27:34
ใช้เวลา
0.031414 วินาที

Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 1
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 2,020
รวม 2,021 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 16,785 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 25 ครั้ง
รวม 16,810 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.133
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.46