ความสามารถทางนวัตกรรมส่วนบุคคลเพื่อพัฒนาทักษะสู่อนาคตไทย

Personal Innovativeness for developing future skill of Thai people

Name: เสาวลักษณ์ จิตต์น้อม

Name: ปฏิมา ถนิมกาญจน์

keyword: ความสามารถเชิงนวัตกรรมส่วนบุคคล

; ความพยายามในการคาดหวัง

; การรับรู้ถึงประโยชน์

; การรับรู้ถึงความสะดวกในการใช้งาน

; ความพึงพอใจ

; ความตั้งใจในการใช้

; Personal Innovativeness

; Effort Expectancy

; Perceived of Usefulness

; Perceived Ease to Use

; Satisfaction

Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาตัวแปรที่มีมาก่อนและตัวแปรตามของตัวแปร ความสามารถเชิงนวัตกรรมส่วนบุคคลและเพื่อศึกษาตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรของตัวแปร ความสามารถเชิงนวัตกรรมส่วนบุคคล ด้วยวิธีจัดกลุ่มย่อยแบบ Custer Analysis ซึ่งตัวแปรที่มีมาก่อน ประกอบด้วย ความพยายามในการคาดหวัง และตัวแปรตามของตัวแปรความสามารถเชิงนวัตกรรมส่วนบุคคลนี้ ประกอบด้วยการรับรู้ถึงความสะดวกในการใช้ ตัวแปรการรับรู้ถึงประโยชน์ตัวแปรความพึงพอใจ และความตั้งใจในการใช้แอพพลิเคชันต่าง ๆ บนอุปกรณ์พกพา สำหรับข้อมูลเชิงประจักษ์โดยใช้กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน การศึกษาประกอบด้วยผู้ใช้แอพพลิเคชันต่าง ๆ บนอุปกรณ์พกพาในประเทศไทยจำนวน 141คน โดยใช้ แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล คิดเป็นอัตราการตอบกลับร้อยละ 35.25 หลังจากวิเคราะห์และตรวจสอบความถูกต้องพบว่าระดับความน่าเชื่อถือของ Cronbach Alpha’s Coefficent เท่ากับ 0.946 ได้รับการยืนยันโดยการวิเคราะห์ปัจจัยและความสอดคล้องของแบบจำลองที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพในการตรวจสอบการใช้แอพพลิเคชันต่าง ๆ บนอุปกรณ์พกพา ในประเทศไทย โดยได้สร้างจากข้อมูลเชิงประจักษ์ด้วยแบบจำลอง สมการเชิงโครงสร้าง ผลการตรวจสอบความสัมพันธ์เป็นไปตามที่คาดการณ์และพบว่าความสามารถเชิงนวัตกรรม เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความตั้งใจในการใช้ การรับรู้ถึงประโยชน์ และการรับรู้ถึงความสะดวกในการ ใช้งาน และการปรับตัวเพื่อความพึงพอใจของผู้บริโภค นอกจากนี้ผลของการศึกษาครั้งนี้ยังดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยเริ่มจากการมีส่วนร่วมในทฤษฎีทางการจัดการการอภิปรายข้อเสนอแนะและข้อสรุปสำหรับทิศทางการวิจัยในอนาคต

; Intention to Use

Abstract: Abstract The purpose of this study aimed to examine preexisting and dependent variables of personal innovative competence and the relationship between personal innovativeness variables by using Cluster Analysis method. The preexisting variables consistsof an effort expectancy while the dependent variable of personal innovativeness consists of perceived usefulness, perceived ease to use, satisfaction, and intention to use applications on mobile devices. For empirical data, the study sample consisted of 141 users of various mobile applications in Thailand. Questionnaires were used as a tool to collect data with a response rate of 35.25%. After analysis and validation, the reliability rating of Cronbach Alpha's Coefficent was 0.946. This was confirmed by analyzing the factors and coherence of models influencing efficiency in monitoring the usage of mobile applications in Thailand, which were built from empirical data with a structural equation model. The results of the correlation examination were as expected which revealed that innovativeness is an important tool in generating intention to use, perceived benefit and perception of ease of use and adjustment for consumer satisfaction. In addition, the results of this study were carried out effectively starting with participation in management theory where discussion, recommendations and conclusions for future research directions were considered.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: นครราชสีมา

Email: kitiya.ni@rmuti.ac.th

Created: 2565

Modified: 2566-02-11

Issued: 2566-02-11

งานวิจัย/Research report

application/pdf

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสาน

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	RMUTI_Yupawadee_Res66-08.pdf	2.5 MB	9	2025-12-04 15:42:30

ใช้เวลา

0.037755 วินาที