การวิเคราะห์ความเค้นและระยะยุบตัวของสปริงแบบจาน โดยวิธีไฟไนท์เอเลเมนต์

Investigatioo of stress and deflection in Belleville spring by using finite element method

Name: สำรวจ อินแบน

keyword: วิธีไฟไนท์เอเลเมนต์

Abstract: จุดประสงค์ของวิทยานิพนธ์นี้เพื่อศึกษาพฤติกรรมของจานสปริงที่อยู่ภายใต้แรงกด ในแนวแกนอย่างสมมาตรโดยใช้วิธีไฟไนท์เอเลเมนต์และเปรียบเทียบค่าระยะยุบตัว และค่า ความเค้นสัมผัสที่ได้จากไฟไนท์เอเลเมนต์กับค่าที่ได้จากสมการของอาลเมน/ลาสโล และค่า ที่ได้จากสมการของทฤษฎีเพลทบาง จากนสปริงทีวิเคราะห์มีทั้งชนิดแบนราบ และชนิดยกขอบ ด้านในให้สูงขึ้น *) 0.5 เท่าของความหนา ระยะยุบตัวของจานสปริงสูงสุดที่ใช้ในการวิเคราะห์ เท่ากับ 0.5 เท่าของความหนา โครงข่ายไฟไนท์เอเลเมนต์ที่ใช้จำลองแบบจานสปริงประกอบด้วยเอเลเมนต์ สามเหลี่ยมชนิดที่มีความเครียดคงที่ 256 เอเลเมนต์, 165 โนด และมีจำนวนดีกรีความเป็น อิสระเท่ากับ 330 โปรแกรมไฟไนท์เอเลเมนต์ที่ใช้นั้นเป็นภาษาเอ็มเบสิค ผลการเปรียบเทียบค่าต่างๆ จากสมการอาลเมน/ลาสโล และผลจากวิธีไฟไนท์ เอเลเมนต์พบว่า จานสปริงที่มีอัตราส่วนเส้นผ่าศูนย์กลางนอกต่อเส้นผ่าศูนย์กลางในเท่ากับ 4.0 และ หนา 0.04 นิ้ว ให้ค่าแตกต่าง ของระยะยุบตัวต่ำสุด คือ มีค่าเท่ากับ 0.35 % และ -5.22% สำหรับกรณีจานสปริงแบนราบ และจานสปริงที่ยกขอบด้านในให้สูงขึ้นตามลำดับ และผลจากการวิเคราะห์ความเค้นในจานสปริงแบนราบแสดงให้เห็นว่าค่าแตกต่างของความ เค้นสัมผัสต่ำสุดเท่ากับ 3.6% สำหรับกรณีของจานสปริงที่มีค่าอัตราส่วนเส้นผ่าศูนย์กลาง นอกต่อเส้นผ่าศูนย์กลางในเท่ากับ 2.5 และมีความหนาเท่ากับ 0.02 นิ้วและ 0.04 นิ้ว *) มอก- 260 -2521 เรียกว่า จานสปริงกรวยตัด

Abstract: The purpose of this thesis was to study the behavior of belleville spring under axisynmetric axial canpression by using the finite element method and compare it with the results from Almen and Laszlo's equation and thin plate theory equation. The spring under investigation consists of flat type and tilted type with internal cone height equals to half of its thickness. The finite element map used in modelling the belleville spring utilized 256 constant strain triangular finite elements, which have 165 nodes and. 330 degrees of freedan. The finite element program was written in M-Basic language. Comparing the results from Almen and Laszlo equations with the results from finite element method it was found that the belleville spring with the ratio of outside diameter to inside dianeter equals to 4.0 and 0.04 inch thick gave lowest error in spring deflection. They were 0.35% and -5.22% for the case of flat-spring and. tilted -spring respectiveiy. And results from the stress investigation in the flat spring showed that the lowest error in tangential stress was 3 .6% for the bellevillve spring with the ratio of outside dianeter to inside diameter equals to 2.5 and 0.02 inch and 0 .04 inch thick.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: info.lib@mail.kmutt.ac.th

Name: จำลอง ลิ้มตระกูล

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2555

Modified: 2555-02-01

Issued: 2555-02-01

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: MEE174

tha

DegreeName: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิศวกรรมเครื่องกล

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	MEE174.pdf	1.42 MB	51	2024-01-31 18:07:25
2	MEE174ab.pdf	59.18 KB	13	2019-07-02 14:16:31

ใช้เวลา

0.036498 วินาที