ศึกษาเศษรังไหมจากการสาวไหมเพื่อใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ กรณีศึกษา ชุมชนบ้านหัวสะพาน จังหวัดบุรีรัมย์

Study of waste cocoon from silk haulage to applied into product design case study Ban Hua Sa-Phan community Burirum province

Name: พรระวี ศรีสายพร

ThaSH: รังไหม -- การใช้ประโยชน์

ThaSH: ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม -- ไทย -- ชุมชนบ้านหัวสะพาน (บุรีรัมย์)

ThaSH: Cocoons -- Utilization

Abstract: งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเศษรังไหม ชุมชนบ้านหัวสะพาน จังหวัดบุรีรัมย์ 2) เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์จากเศษรังไหมของชุมชนบ้านหัวสะพาน จังหวัดบุรีรัมย์ 3) เพื่อศึกษาปัจจัยการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ชุมชน 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์จากเศษรังไหม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์ 2) แบบประเมินความคิดเห็นด้านการออกแบบ 3) แบบสอบถามปัจจัยการสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของกลุ่มผู้บริโภค ผลการศึกษาเศษรังไหมพบว่าเศษรังไหมที่นอกเหนือจากการสาวไหมสามารถนำเปลือกรังไหมชั้นนอกไปปั่นตีเกลียวได้และนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ โดยอาศัยเครื่องจักรในการปั่นตีเกลียวเศษรังไหม จากการปั่นตีเกลียวทำให้ได้เส้นไหมที่มีความแข็งแรง และคงทน มีความเหมาะสมในการในการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยการใช้รูปแบบการถักแบบนิตติ้ง ผลการศึกษาปัจจัยการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ชุมชนพบว่าชุมชนจะต้องคำนึงถึงปัจจัย 5 ด้าน คือ 1) ด้านผลิตภัณฑ์ 2) ด้านการตลาด 3) ด้านภาพลักษณ์ 4) ด้านบริการ 5) ด้านบุคลากร โดยทั้ง 5 ด้านนี้มีความสอดคล้องกันในการสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์ชุมชน ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ ผลการสรุปรูปแบบของผลิตภัณฑ์จากเศษรังไหมจากการประเมินของผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญทั้ง 12 คน จากการเสนอรูปแบบจากผลิตภัณฑ์ต้นแบบ จำนวน 3 รูปแบบ โดยรูปแบบที่ 3 ที่ได้รับการประเมินพบว่าผลรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.31, S.D. = 0.18) และผลการประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์จากเศษรังไหมโดยประเมินจากกลุ่มผู้บริโภคจำนวน 83 คน คือ กระเป๋ารูปแบบที่ 3 โดยผลรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.52, S.D. = 0.07)

Abstract: This research aims to study 1) the development of cocoon waste products Ban Hua Sa-Phan community Burirum province. 2) to design products from the waste cocoon of Ban Hua Sa-Phan community Burirum province. 3) to study the value of community products. 4) to assess consumer satisfaction with products from cocoon waste. The research tools were 1) interview form, 2) design feedback form, 3) product value creation questionnaire, 4) consumer satisfaction survey form. The study of silk residue found that silk cocoon apart from the silk can be used to exfoliate the silk outer shell and develop into a product. The machine to spin the cocoon. From the spinning, making the silk thread strong and durable is suitable and practical for application in product design. By using the knitting pattern of knitting. The results of the study on value added of community products showed that the community had to consider 5 factors: 1) Product 2) Marketing 3) Image 4) Service 5) Human resources. In creating value for community products. Product design, summary of the product form of cocoon residue from the evaluation of experts and 12 experts from the proposed model. From the 3 prototype products, the third model was evaluated. It was found that the total was at high level (x̄ = 4.31, S.D. = 0.18) and the result of consumer satisfaction evaluation on products from silkworm residue. It was estimated from 83 consumers, Is the third type of bag was the highest (x̄ = 4.52, S.D. = 0.07).

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: Lifelong@kmitl.ac.th

Name: ทรงวุฒิ เอกวุฒิวงศา

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Email : songwut.ae@kmitl.ac.th

Created: 2561

Modified: 2564-03-08

Issued: 2564-03-08

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: EThesis

tha

Spatial: ไทย (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

Spatial: บุรีรัมย์

DegreeName: ครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: เทคโนโลยีการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

Grantor: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

©copyrights สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Fulltext Pornrawee Srisaiporn.pdf	13.16 MB	13	2025-07-14 14:49:56

ใช้เวลา

0.026691 วินาที