รูปแบบที่เหมาะสมในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูง โดยประชาชน

The proper take off take incumbent high-level political by the people

Name: ชายชาญ อุทธสิงห์

ThaSH: การถอดถอนจากตำแหน่ง -- วิจัย

ThaSH: การถอดถอนจากตำแหน่ง -- การมีส่วนร่วมของประชาชน -- วิจัย

Abstract: วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาถึงการกำหนดรูปแบบที่เหมาะสมในการถอดถอดผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงหรือระดับชาติโดยประชาชนในประเทศไทย และวิเคราะห์ถึงสภาพการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงหรือระดับชาติในฐานะผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ตลอดจนกระบวนการถอดถอน ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นที่นำมาใช้ในประเทศไทย โดยเปรียบเทียบกับกระบวนการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยประชาชน (Recall) ในต่างประเทศ เพื่อหาแนวทางในการกำหนดรูปแบบที่เหมาะสมในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงหรือระดับชาติโดยประชาชนในประเทศไทยต่อไป จากการศึกษาพบว่าในประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐเวเนซูเอลา มีการเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถที่จะใช้สิทธิในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงหรือระดับชาติโดยประชาชนได้ โดยกระบวนการดังกล่าวถูกพัฒนาและนำมาใช้กับสภาพการเมืองการปกครองของทั้ง 3 ประเทศดังกล่าว จนสามารถที่จะถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ประพฤติตนไม่สมควรหรือกระทำการขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชนได้จำนวนหนึ่ง ในส่วนของกระบวนการในการถอดถอนของทั้ง 3 ประเทศ จะมีรูปแบบ กระบวนและเงื่อนไขในการถอดถอนที่ค่อนข้างแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพการเมืองการปกครองของแต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทย ได้นำกระบวนการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยประชาชน (Recall) มาใช้กับการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในระดับท้องถิ่นเท่านั้น สำหรับการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงหรือระดับชาติ กลับไม่ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ใช้สิทธิในการถอดถอน ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยประชาชนแต่อย่างใด การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงหรือระดับชาติกลับถูกกำหนดให้เป็นหน้าที่ของวุฒิสภาในการตรวจสอบและถอดถอน ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในระดับดังกล่าว โดยกระบวนการอิมพีชเม้นท์ (Impeachment) แต่กระบวนการถอดถอนนี้ ก็ไม่สามารถที่จะถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เข้าสู่กระบวนการถอดถอนได้แม้รายเดียว จึงทำให้เกิดข้อพิจารณาว่าเมื่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ทำการเลือกผู้แทนเข้าไปปฏิบัติหน้าที่แล้ว แม้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเหล่านั้น จะประพฤติผิดไปจากที่ได้เคยให้คำมั่นสัญญากับประชาชนไว้ในคราวที่ได้มีการหาเสียงเลือกตั้งหรือกระทำการใด ๆ ที่ทำให้ประชาชนเกิดความไม่พึงพอใจแล้วก็ตาม ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ก็ไม่สามารถที่จะกระทำการใดเพื่อตัดสินชี้ขาดต่อตัวผู้แทนดังกล่าว ว่าสมควรอยู่ในตำแหน่งนั้น ๆ อีกต่อไปแล้วหรือไม่ ระหว่างที่ผู้ดำรงตำแหน่งคนดังกล่าวอยู่ในวาระการดำรงตำแหน่งด้วย แต่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลับจะต้องรอคอยให้มีการเลือกตั้งครั้งถัดไป จึงจะสามารถใช้สิทธิของประชาชนในการลงคะแนนเสียงเพื่อตัดสินชี้ขาดได้ ทั้งนี้ หากปรากฏว่าการเลือกตั้งครั้งถัดไปนั้น มีระยะเวลาที่ยาวนาน ก็อาจทำให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคนดังกล่าว กระทำการฝ่าฝืนเจตนารมณ์ของประชาชนหรือประพฤติตนจนทำให้ที่ประชาชนไม่พึงพอใจเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมก็เป็นไปได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการมีความส่วนร่วมในทางการเมืองการปกครองของประชาชนด้วยการเข้าไปควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงหรือระดับชาติ โดยการนำแนวคิดประชาธิปไตยทางตรง (Direct Democracy) มาปรับใช้ ด้วยการเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ใช้สิทธิถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงหรือระดับชาติได้ ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติหน้าที่หรือการตัดสินใจใดๆ ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาจากประชาชน จะต้องคำนึงถึงความต้องการของประชาชนที่ได้เลือกผู้แทนเหล่านั้นเข้าสู่ตำแหน่งมากยิ่งขึ้น หากผู้แทนกระทำการหรือตัดสินใจในเรื่องใดไปแล้ว จนก่อให้เกิดความไม่พอใจต่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งแล้ว ก็อาจนำไปสู่การที่ประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จะร้องขอให้มีการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าวออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระได้ ตลอดจนเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ใช้สิทธิในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงหรือระดับชาติโดยประชาชน ยังถือว่าเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญของมีส่วนร่วมในทางการเมืองการปกครองมากขึ้น และทำให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้เห็นคุณค่าของคะแนนเสียงที่ได้เลือกผู้แทนเข้าไปทำหน้าที่แทนตนเองมากยิ่งด้วย อนึ่ง ผลการศึกษาการกำหนดรูปแบบที่เหมาะสมในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงโดยประชาชนจากวิทยานิพนธ์ฉบับนี้ อาจเป็นประโยชน์ต่อการที่สภาปฏิรูปแห่งชาติที่จะได้นำวิทยานิพนธ์ฉบับนี้ ไปพิจารณาเพื่อปรับใช้กับการเมืองการปกครองของประเทศที่อยู่ระหว่างการดำเนินการปฏิรูปอยู่ด้วย

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. ศูนย์เรียนรู้และหอสมุด.

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@dpu.ac.th

Name: วีระ โลจายะ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Modified: 2563-01-28

Created: 2557

Issued: 2562-12-16

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: 342.068 ช523ร

tha

DegreeName: นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: นิติศาสตร์

Grantor: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

©copyrights มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Chaychan.Oot.pdf	4.79 MB	23	2024-11-19 22:46:51

ใช้เวลา

-0.601227 วินาที