รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวคิดซิกซ์ซิกม่า สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
Model of school administration according to Six Sigma concept, under the Primary Educational Service Area Office
Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) เพื่อศึกษาสภาพความเป็นจริงและสภาพที่พึงประสงค์ ของการบริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษา ตามแนวคิดซิกซ์ ซิกม่า สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ 3) เพื่อตรวจสอบรูปแบบการบริหารสถานศึกษา ตามแนวคิดซิกซ์ ซิกม่า สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เป็นวิจัยประเภทวิจัยและพัฒนาโดยใช้แนวทางการวิจัยแบบผสมผสานระหว่างวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงปริมาณ วิธีดำเนินการวิจัยมี 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดกรอบแนวคิดในการวิจัย โดยการศึกษาเอกสาร เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่แบบศึกษาเอกสาร มีค่าดัชนีความสอดคล้อง ระหว่าง 0.80-1.00 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบ ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนย่อย ดังนี้ ขั้นตอนย่อยที่ 1 การศึกษาสภาพความเป็นจริงและสภาพที่พึงประสงค์ ของการบริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 380 คน โดยเปิดตารางการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของเครจซี่และมอร์แกน โดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือ ได้แก่ แบบสอบถามที่มีดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.80-1.00 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์หาความต้องการจำเป็น และการทดสอบค่าที่ ขั้นตอนย่อยที่ 2 การศึกษาภาคสนามในสถานศึกษาปฏิบัติที่ดี 3 แห่ง โดยเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ที่มีค่าดัชนีความสอดคล้อง ระหว่าง 0.80-1.00 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ขั้นตอนย่อยที่ 3 การยกร่างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวคิดซิกซ์ ซิกม่า สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขั้นตอนที่ 3 การตรวจสอบรูปแบบ แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การตรวจสอบเชิงคุณลักษณะ ด้วยการสนทนากลุ่ม โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือได้แก่ แบบสัมภาษณ์ มีความค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.80-1.00 2) การตรวจสอบเชิงปริมาณ ด้วยวิธีการประเมินรูปแบบ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 380 คน โดยเปิดตารางการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของเครจซี่และมอร์แกน โดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือ ได้แก่ แบบประเมินรูปแบบมีดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.80-1.00 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และขั้นตอนที่ 4 แก้ไขปรับปรุงและพัฒนาเป็นรูปแบบฉบับสมบูรณ์ ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพความเป็นจริงและสภาพที่พึงประสงค์ ของการบริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พบว่า 1.1) สภาพความเป็นจริงของการบริหารสถานศึกษา ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.89, S.D. = 0.77) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดได้แก่ ระบบย่อยด้านคน อยู่ในระดับมาก ( =4.19, S.D. = 0.75) รองลงมา ระบบย่อยด้านสิ่งแวดล้อมขององค์การ อยู่ในระดับมาก ( = 4.16, S.D. = 0.74) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านการวิเคราะห์ อยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.57, S.D. = 0.78) 1.2) สภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารสถานศึกษา ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.83, S.D. = 0.42) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ แนวทางการนำรูปแบบไปใช้ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.93, S.D. = 0.26) รอลงมา ได้แก่ ระบบย่อยด้านโครงสร้าง อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.92, S.D. = 0.65) และ ด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านการวัดและรวบรวมข้อมูล อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.65, S.D. = 0.55) 1.3) การเปรียบเทียบสภาพความเป็นจริงและสภาพที่พึงประสงค์การบริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พบว่า สภาพที่พึงประสงค์สูงกว่าสภาพที่เป็นจริงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ทุกด้านทุกรายการ 1.4) ความต้องการจำเป็นของการบริหารสถานศึกษาตามแนวคิดซิกซ์ ซิกม่า พบว่า รายการที่มีค่า PNI สูงสุด ได้แก่ ด้านการวัดและรวบรวมข้อมูล (0.37) รองลงมา คือ การวิเคราะห์ (0.33) และรายการที่มีค่า PNI ต่ำที่สุด ได้แก่ ระบบย่อยด้านเป้าประสงค์ขององค์การ (0.17) 2) รูปแบบการบริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประกอบด้วย 4 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 ส่วนนำ ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ของการบริหารแบบซิกซ์ ซิกม่า หลักการของการบริหารแบบซิกซ์ ซิกม่า และบริบทของสถานศึกษา ส่วนที่ 2 ตัวแบบการบริหารแบบซิกซ์ ซิกม่า ประกอบด้วย 2 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 ขั้นตอนการบริหารแบบซิกซ์ ซิกม่ามี 5 ขั้นตอน 1) การกำหนดขอบเขตของปัญหา 2) การวัดและรวบรวมข้อมูล 3) การวิเคราะห์ 4) การปรับปรุง 5) การควบคุมขยายผล มิติที่ 2 ระบบองค์การมี 5 ระบบย่อย1) ระบบย่อยด้านเป้าประสงค์ขององค์การ 2) ระบบย่อยด้านสิ่งแวดล้อมขององค์การ 3) ระบบย่อยด้านคน 4) ระบบย่อยด้านโครงสร้าง 5) ระบบย่อยด้านเทคโนโลยี ส่วนที่ 3 แนวทางการนำรูปแบบไปใช้ ประกอบด้วย 1) การเตรียมการ 2) การนำแผนไปปฏิบัติ 3) การประเมินผล และส่วนที่ 4 เงื่อนไขและข้อจำกัด ประกอบด้วย 1) เงื่อนไขความสำเร็จ 2) เงื่อนไขที่เป็นอุปสรรค 3) การตรวจสอบรูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวคิด ซิกซ์ ซิกม่า สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พบว่า 3.1) การตรวจสอบเชิงคุณลักษณะ พบว่า รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวคิด ซิกซ์ ซิกม่าสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประกอบด้วย 4 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 ส่วนนำ ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ของการบริหารแบบซิกซ์ ซิกม่า หลักการของการบริหารแบบซิกซ์ ซิกม่า และบริบทของสถานศึกษา ส่วนที่ 2 ตัวแบบการบริหารแบบซิกซ์ ซิกม่า ประกอบด้วย 2 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 ขั้นตอนการบริหารแบบซิกซ์ ซิกม่ามี 5 ขั้นตอน1) การกำหนดขอบเขตของปัญหา 2) การวัดและรวบรวมข้อมูล 3) การวิเคราะห์ 4) การปรับปรุง 5) การควบคุมขยายผล มิติที่ 2 ระบบองค์การมี 5 ระบบย่อย 1) ระบบย่อยด้านเป้าประสงค์ขององค์การ 2) ระบบย่อยด้านสิ่งแวดล้อมขององค์การ 3) ระบบย่อยด้านคน 4) ระบบย่อยด้านโครงสร้าง 5) ระบบย่อยด้านเทคโนโลยี ส่วนที่ 3 แนวทางการนำรูปแบบไปใช้ประกอบด้วย 1) การเตรียมการ 2) การวางแผน 3) การนำแผนไปปฏิบัติ 4) การประเมินผล และส่วนที่ 4 เงื่อนไขและข้อจำกัด ประกอบด้วย 1) เงื่อนไขความสำเร็จ 2) เงื่อนไขที่เป็นอุปสรรค 3.2) การตรวจสอบเชิงปริมาณ พบว่า รูปแบบการบริหารสถานศึกษา ตามแนวคิด ซิกซ์ ซิกม่า สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา มีความถูกต้องอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.88, S.D. =0.34) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.79, S.D. =0.42) มีความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.73, S.D. = 0.46) และมีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.57, S.D. = 0.51)
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Role:
ประธานที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์.
CallNumber:
วพ 372.1 น276ร 2560
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ