กลยุทธ์การปรับตัวทางการตลาดของร้านค้าปลีกไทยแบบดั้งเดิม (โชวห่วย)

Adaptation of marketing strategy for thai traditional retailing

Name: ชีวรรณ เจริญสุข

keyword: ดั้งเดิม

; โชวห่วย

ThaSH: ร้านค้าปลีก

ThaSH: การตลาด

Abstract: การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งศึกษาถึง “กลยุทธ์การปรับตัวทางการตลาดของร้านค้าปลีกไทยแบบดั้งเดิม (โชวห่วย)” ดังนี้ (1) เพื่อศึกษาถึงความสัมพันธ์ของสภาพการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีก กับกลยุทธ์การปรับตัวทางการตลาดของร้านค้าปลีกไทยแบบดั้งเดิม (โชวห่วย) และ (2) เพื่อศึกษาถึงผลกระทบของความต้องการของลูกค้าหรือผู้บริโภคที่มีต่อกลยุทธ์การปรับตัวทางการตลาด ของร้านค้าปลีกไทยแบบดั้งเดิม (โชวห่วย) ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษามี 2 ตัวแปรคือ (1) ตัวแปรอิสระด้าน สภาพการแข่งขัน และความต้องการของลูกค้า และ (2) ตัวแปรตาม ด้านกลยุทธ์การปรับตัวทาง การตลาด จากกลุ่มตัวอย่างของผู้บริโภคหรือลูกค้า จำนวน 300 ตัวอย่าง และเจ้าของกิจการร้านค้าปลีก จำนวน 100 ตัวอย่าง โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลผลจากการวิจัยสรุปได้ดังนี้ (ผู้บริโภคหรือลูกค้า) ในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่เป็นเพศ หญิง อายุระหว่าง 20-29 ปี มีระดับการศึกษาปริญญาตรี ชอบไปซื้อสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ดิสเคาท์สโตร์ ในสภาพการแข่งขันที่รุนแรงเจ้าของร้านค้าปลีกต้องมีการปรับปรุงหรือปรับตัวอย่างมากคุณภาพการให้บริการที่ดีสามารถทำให้ร้านค้าปลีกมีลูกค้าประจำ และมีระดับความคิดเห็นด้านสภาพการแข่งขันคือ ลูกค้าให้ความสำคัญจากคู่แข่งขันรายใหม่ที่จะเข้ามาลงทุน ส่วนด้านความต้องการของลูกค้า ลูกค้าให้ความสำคัญด้านความต้องการความปลอดภัย และกลยุทธ์การปรับตัวทางการตลาดลูกค้าอยากให้มีการปรับตัวมากที่สุดคือกลยุทธ์การปรับตัวทางด้านคุณภาพการให้บริการส่วนผลจากการวิจัยด้านร้านค้าปลีก (เจ้าของกิจการร้านค้าปลีก)ในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการคนเดียว เพศหญิง มีอายุระหว่าง 50-59 มีระดับการศึกษาต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนต้น ร่ายได้เฉลี่ยต่อปี 200,000-250,000 บาท เปิดกิจการร้านค้าปลีกมาแล้ว 16-20 ปี ขนาดของกิจการร้านค้าปลีกมี 1 คูหา / แบบไม่ติดแอร์ สินค้าที่จำหน่ายหรือขายดีมากที่สุดเป็นสินค้าประเภทเครื่องดื่มเป็นลูกค้าขาประจำซื้อเงินสด สั่งซื้อสินค้าจากพ่อค้าส่ง (ยี่นิ้ว) / ซัพพลายเออร์ ร้านที่อยู่ใกล้กับร้านค้าปลีกโชวห่วยมากที่สุดคือร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่นั้นมีผลกระทบกับยอดขายมาก ร้านค้าปลีกสมัยใหม่เกิดขึ้นทำให้ยอดขายลดลงมาก เจ้าของกิจการร้านค้าปลีกมีแนวคิดที่จะปรับปรุงหรือปรับตัวอย่างมาก และต้องการให้หน่วยงานราชการช่วยเหลือด้านการควบคุมกฎหมายการขยายตัวของร้านค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ และมีระดับความคิดเห็นด้านสภาพการแข่งขันคือ เจ้าของกิจการร้านค้าปลีกให้ความสำคัญจากคู่แข่งขันรายใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนมากที่สุด ส่วนด้านความต้องการของลูกค้าเจ้าของกิจการร้านค้าปลีกให้ความสำคัญกับความต้องการความปลอดภัยมากที่สุด ส่วนด้านกลยุทธ์การปรับตัวทางการตลาดเจ้าของกิจการร้านค้าปลีกอยากให้มีการปรับตัวมากที่สุดคือกลยุทธ์การปรับตัวทางด้านคุณภาพการให้บริการ การวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือ (Reliability) และความถูกต้อง (Validity) พบว่าความน่าเชื่อถือในส่วนของลูกค้าหรือผู้บริโภคอยู่ในช่วง 0.7647-0.8767 และความมาเชื่อถือในส่วนของเจ้าของกิจการร้านค้าปลีกอยู่ในช่วง 0.7709-0.9331 และค่าความถูกต้องสามารถอธิบายค่าความแปรปรวนในส่วนของลูกค้าหรือผู้บริโภคได้ร้อยละ 68.122-75.456 และค่าความถูกต้องในส่วนของเจ้าของกิจการร้านค้าปลีกสามารถอธิบายค่าความแปรปรวนได้ร้อยละ 69.760-78.807 และผลที่ได้พบว่าสภาพการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยมีความสัมพันธ์กับกลยุทธ์การปรับตัวทางการตลาดของร้านค้าปลีกไทยแบบดั้งเดิม (โชวห่วย) อย่างมีนัยสำคัญ ความต้องการของลูกค้าหรือผู้บริโภคมีความสัมพันธ์กับกลยุทธ์การปรับตัวทางการตลาดของร้านค้าปลีกไทยแบบดั้งเดิม (โชวห่วย) อย่างมีนัย สำคัญ และสภาพการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย และความต้องการของลูกค้าหรือผู้บริโภค มีความสัมพันธ์กับกลยุทธ์การปรับตัวทางการตลาด ของร้านค้าปลีกไทยแบบดั้งเดิม (โชวห่วย) อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตามเจ้าของกิจการร้านค้าปลีกไม่ควรให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การปรับตัวทางการตลาดเพียงอย่างเดียวควรให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลักด้วย เนื่องจากว่า ความต้องการของลูกค้าที่มีเพิ่มมากขึ้นจะทำให้ร้านค้าปลีกมีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้นและเมื่อร้านค้าปลีกมีสภาพการแข่งขันเพิ่มมากขึ้นจะทำให้ร้านค้าปลีกมีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน สำหรับข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไปควรทำการศึกษาเพิ่มเติมในส่วนของตัวแปรทางด้านสภาพการแข่งขัน และความต้องการของลูกค้า เนื่องจากการศึกษาวิจัยที่ผ่านมามีกรอบแนวคิดในเรื่องของสภาพการแข่งขัน และความต้องการของลูกค้าไม่มากนัก และควรศึกษาถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดกลยุทธ์การปรับตัวทางการตลาดในธุรกิจค้าปลีกอย่างร้านค้าสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า และดิสเคานท์สโตร์ เป็นต้น

มหาวิทยาลัยศรีปทุม. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@spu.ac.th

Name: ระพีพร ศรีจำปา

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2547

Modified: 2025-04-29

Issued: 2562-07-26

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต

Descipline: บริหารธุรกิจ

Grantor: มหาวิทยาลัยศรีปทุม

Descipline: การตลาด

©copyrights มหาวิทยาลัยศรีปทุม

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Sheewan Charoensook.pdf	85.4 MB	89	2025-09-09 10:24:59

ใช้เวลา

0.031665 วินาที