สัมฤทธิผลการบริหารขององค์การบริหารส่วนตำบลในกลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัดภาคกลางตอนบน 1

The administrative acievements of subdistrict administrative organization in the country's country's upper central provinces of strategic group 1 / ศิรินทร พุ่มวัน

Name: ศิรินทร พุ่มวัน

keyword: การบริหารแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์

ThaSH: การบริหารแบบมุ่งคุณภาพทั้งองค์การ

Classification :.DDC: 352.14

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสัมฤทธิผลการบริหารจัดการองค์การบริหารส่วนตำบลในกลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัดภาคกลางตอนบน 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อสัมฤทธิผลการบริหารจัดการขององค์การบริหารส่วนตำบลในกลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัดภาคกลางตอนบน และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางที่เหมาะสมในการบริหารจัดการขององค์การบริหารส่วนตำบลในกลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัดภาคกลางตอนบน การวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธีประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ การวิจัยเชิงปริมาณดำเนินการโดยเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 4 ระดับจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 400 คน ที่เลือกจากประชากร 23,825 คน ที่ประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และผู้นำชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี โดยเลือกมาด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างด้วยการคำนวณตามสูตร ทาโร่ ยามาเน่ และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานด้วยการวิเคราะห์ถดถอยแบบขั้นตอนการวิจัย เชิงคุณภาพดำเนินการโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 24 คน จาก 4 จังหวัดข้างต้น ประกอบด้วย ท้องถิ่นจังหวัด จำนวน 4 คน นายกองค์กรบริหารส่วนตำบล จำนวน 4 คน รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 8 คน ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 4 คน และปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 4 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีอุปมานวิเคราะห์และการตีความ ผลการวิจัย พบว่า 1) สัมฤทธิผลการบริหารจัดการองค์การบริหารส่วนตำบลในกลุ่มยุทธศาสตร์ จังหวัด ภาคกลางตอนบน 1 มีผลการปฏิบัติโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.10, S.D. = 0.74) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่นอยู่ในระดับสูงสุด ( = 3.11, S.D. = 0.73) รองลงมา คือ ด้านการบริหารแบบมืออาชีพ ( = 3.10, S.D. = 0.75) ด้านความพึงพอใจของประชาชน ( = 3.10, S.D. = 0.73) และด้านการบริหารจัดการ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ( = 3.07, S.D. = 0.76) ตามลำดับ 2) ปัจจัยที่มีผลต่อสัมฤทธิผลการบริหารจัดการขององค์การบริหารส่วนตำบลในกลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัดภาคกลางตอนบน มี 3 ปัจจัย คือ (1) ปัจจัยนโยบายสาธารณะ มี 2 ตัวแปร ได้แก่ วัตถุประสงค์ที่ชัดเจน (β = 0.172) และนำไปปฏิบัติได้จริง (β = 0.132) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 โดยสามารถอธิบายความแปรปรวนของสัมฤทธิผลการบริหารจัดการขององค์การบริหารส่วนตำบล ได้ร้อยละ 15.50 (R2 = 0.155) (2) ปัจจัยโครงสร้างองค์กร มี 3 ตัวแปร ได้แก่ การกระจายอำนาจ (β = 0.266) อำนาจหน้าที่ (β = 0.087) การควบคุม (β = 0.064) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 โดยสามารถทำนายสัมฤทธิผลการบริหารจัดการขององค์การบริหารส่วนตำบลได้ร้อยละ 50.50 (R2 = 0.505) และ (3) ปัจจัยการบริหารจัดการองค์กร มี 4 ตัวแปร ได้แก่ ทุนมนุษย์ที่เหมาะสม (β = 0.197) การมีส่วนร่วมของประชาชน (β = 0.176) ภาวะผู้นำที่เหมาะสม (β = 0.151) และการมีธรรมาภิบาล (β = 0.103) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 โดยสามารถอธิบายสัมฤทธิผลการบริหารจัดการขององค์การบริหารส่วนตำบลได้ร้อยละ 48.40 (R2 = 0.484) นอกจากนี้ ผลจากการศึกษาเชิงคุณภาพ พบว่า สัมฤทธิผล การบริหารขององค์การบริหารส่วนตำบลให้ประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย (1) นโยบายการบริหารที่ชัดเจน (2) หลักธรรมาภิบาลและ (3) ศักยภาพของผู้นำ 3) แนวทางที่เหมาะสมในการบริหารจัดการขององค์การบริหารส่วนตำบลในกลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัด ซึ่งได้จากการสังเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณและข้อมูลเชิงคุณภาพการสนทนากลุ่ม แนวทางการบริหารที่สำคัญ 4 องค์ประกอบ คือ (1) ให้มีระบบการตรวจสอบที่เหมาะสมกับภารกิจของหน่วยงานโดยการเน้นความสำคัญ 3 ประเภท คือ การใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส การเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประเมิน และการนำผลการประเมินไปปรับปรุงหน่วยงาน (2) แนวทางการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรองค์การบริหารส่วนตำบลโดยเน้นความสำคัญ 3 ประการ คือ การสร้างภาวะผู้นำที่เหมาะสมให้แก่ผู้บริหาร การสร้างคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่บุคลากร ทุกระดับ และเสริมสร้างจิตสำนึกเพื่อประโยชน์ส่วนรวมแก่บุคลากรทุกระดับ (3) ส่งเสริมและสนับสนุนการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยให้ยึดมั่นใน หลักธรรมาภิบาล มากขึ้น และ (4) การวางแผนยุทธศาสตร์ การพัฒนาท้องถิ่นควรเน้นความสำคัญ 3 ด้าน คือ ด้านคุณภาพชีวิต ด้านโครงสร้างพื้นฐาน และด้านการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน

Abstract: The objectives of this research were 1) to study the administrative achievements of the Subdistrict Administrative Organizations in the upper Central provinces, 2) to study the factors affecting the administrative achievements of the Subdistrict Administrative Organizations in the upper central provinces, and 3) to determine appropriate approaches leading to improve administrative achievements of the Subdistrict Administrative Organizations in the upper central provinces. This research combined quantitative and qualitative approaches. The quantitative research was conducted by collecting data through a 4-level rating scale questionnaire from a sample consisting of 400 respondents, which was increased for the population of 23,825 people who were subdistrict headmen, village headmen, members of Subdistrict Administrative Organization councils and community leaders living in the provinces of Nonthaburi, Pathum Thani, Phra Nakhon Si Ayutthaya and Saraburi. They were selected by stratified random sampling technique. The sample size was obtained using Taro Yamane’s formula. The data were analyzed by mean and standard deviation and the hypotheses were tested by stepwise regression analysis. The qualitative research was conducted by in-depth interviews of 24 key informants, from 4 provinces, which consisted of 4 Heads of Provincial Local Administrations, 4 Chief executives of Provincial Administrative Organizations, 8 Deputy Chief Executives of Subdistrict Administrative Organizations, 4 Chairmen of Subdistrict Administrative Organization Councils, and 4 Chief Administrators of Subdistrict Administrative Organizations. The data were analyzed by analytic induction and interpretation. The research results were as follows: 1) The administrative achievements of the Subdistrict Administrative Organizations in the country’s upper central provinces of strategic group 1 were, overall of practices, at a high level ( = 3.10, S.D. = 0.74). Considering each aspect individually, it was found that all of four aspects were at high levels. Ranked in each aspect, the aspect of art and traditional culture and local wisdom was at the highest ( =3.11, S.D. = 0.73), followed by the aspect of professional management ( = 3.10, S.D. = 0.75), the aspect of people satisfaction ( = 3.10, S.D. = 0.73) and the aspect of natural resource and environmental preservation management ( = 3.07, S.D. = 0.76), respectively. 2) Three factors were found to affect the administrative achievement of Subdistrict Administrative Organizations in the upper central provinces: (1) the public policy, composed of two variables namely clear objectives (β = 0.172), and practical ability (β = 0.132), both significant at the significance level of 0.05. They explained 15.50 percent (R2 = 0.155) of the variation of the administrative achievements, (2) the organizational structure, composed of three variables, namely decentralization (β = 0.266), authority (β = 0.087), and controlling (β = 0.064). They explained 50.50 percent (R2= 0.505) of the variation of administrative achievement at the statistical significance level of 0.05 and (3) the organizational management, composed of four variables, namely appropriate human capital (β = 0.197), people participation, (β = 0.176) appropriate leadership (β = 0.151) and governance (β = 0.103). They explained 48.40 percent (R2 = 0.484) of the variation of administrative achievements at the statistical significance level of 0.05. Moreover, the qualitative research findings revealed that the effective administration of Subdistrict Administrative Organizations consisted of (1) a clear administration policy (2) good governance and (3) the potential of leaders. 3) The appropriate approaches for better administrative achievements were synthesized using the quantitative data and the qualitative data from the focus group discussions. They consisted of four major components: (1) implementing a monitoring system which would cope with the agency’s mission by focusing on three major activities comprising of efficiency and transparency in budgeting management, the empowerment of the evaluators and utilization of the evaluation results to make improvements, (2) developing the potential of the Subdistrict Administrative Organization’s personnel by emphasizing 3 main aspects: the proper leadership of the administrators, moral and ethical promotion for staff at all levels and awareness building for the benefit of all staff, (3) promoting and supporting the local government to be more efficient at complying with the principles of good governance, and (4) planning a local development strategy by focusing on 3 key aspects comprising of quality of life, infrastructure and education, and religion and culture to achieve sustainable development.

มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: ปทุมธานี

Email: arit@vru.ac.th

Name: เกษมชาติ นเรศเสนีย์.

Role: ประธานที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์.

Name: ทรงศักดิ์ เกียรติสุข

Role: กรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์.

Name: บุญเรือง ศรีเหรัญ.

Role: กรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2561

Modified: 2561-11-22

Issued: 2561-11-22

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ 352.14 ศ456ส 2558

tha

DegreeName: รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต

Level: Doctoral Degree

Descipline: รัฐประศาสนศาสตร์

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	8597055.pdf	5.03 MB	80	2025-02-15 10:32:47

ใช้เวลา

0.023667 วินาที