การพัฒนาและทดสอบประสิทธิภาพการควบคุมความมันของแป้งฝุ่นทาหน้าที่มีไคโตซาน

Development and efficiency test of oil control powder with chitosan

Name: อุรารัตน์ อำคาศักดิ์

Name: Urarat Amkasak

Organization : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

keyword: แป้งฝุ่นทาหน้าที่

ThaSH: แป้งฝุ่น (เครื่องสำอาง)

Classification :.LCCS: WA744

ThaSH: ไคโตแซน

ThaSH: เครื่องสำอาง

Abstract: การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเตรียมสูตรแป้งฝุ่นทาหน้าที่มีไคโตซาน และทดสอบประสิทธิภาพในการควบคุมความมันบนใบหน้าของแป้งฝุ่นที่มีไคโตซานในอาสาสมัครโดยการเตรียมแป้งฝุ่นทาหน้าสูตรมาตรฐานให้มีคุณสมบัติที่เหมาะสม และนำไปพัฒนาเติมไคโตซานที่ความเข้มข้น 10, 20, 30, 40, และ 50% ทำการทดสอบคุณสมบัติทางกายภาพของแป้งฝุ่น และทำการคัดเลือกหาปริมาณของไคโตซานที่มีในแป้งฝุ่นทาหน้าที่เหมาะสม ผลการศึกษาพบว่า แป้งฝุ่นทาหน้าที่มีไคโตซาน เหมาะสมที่สุดคือ 40% จากนั้นนำไปศึกษาประสิทธิภาพในการควบคุมความมันบนใบหน้าในอาสาสมัคร จำนวน 20 คน โดยที่ฝั่งขวาทาแป้งมาตรฐาน และฝั่งซ้ายทาแป้งที่มีไคโตซาน ทำการทดสอบประสิทธิภาพในการควบคุมความมันโดยใช้เครื่อง Sebumeter เป็นตัววัดค่าน้ำมัน ทำการบริเวณหน้าผากที่เวลา 30, แก้มที่เวลา 120 และคางที่เวลา 240 นาที ผลการทดสอบประสิทธิภาพในการควบคุมความมันบนใบหน้าเปรียบเทียบระหว่างแป้งฝุ่นทาหน้ามาตรฐาน และแป้งฝุ่นทาหน้าที่มีไคโตซานในอาสาสมัครที่มีผิวหน้ามัน พบว่าแป้งฝุ่นทาหน้าที่มีไคโตซานมีผลในการควบคุมความมันบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างมีนัยสำคัญ ที่เวลา 30 นาทีหน้าผากซ้ายทาแป้งที่มีไคโตซาน มีค่าเท่ากับ 29.50 ± 10.96 (p = 0.007) เทียบกับฝั่งขวาทาที่ไม่มีไคโตซาน มีค่าเท่ากับ 39.50 ± 10.10 ที่ 120 นาทีบริเวณแก้มซ้าย มีค่าเท่ากับ 49.50 ± 22.45 (p = 0.038) เทียบกับฝั่งขวา มีค่าเท่ากับ 66.20 ± 26.48 และที่ 240 นาทีบริเวณคางซ้าย มีค่าเท่ากับ 95.55 ± 52.72 (p = 0.048) เทียบกับฝั่งขวา มีค่าเท่ากับ 132.15 ± 60.09 ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่ามีความสัมพันธ์กันระหว่างแป้งฝุ่นทาหน้าที่มีไคโตซานในการคุมควบความมันบนใบหน้า

Abstract: This research aimes to study the preparation of chitosan-added face powder and to test its efficiency against an oily face among the volunteer. Research methodology started with preparation of standard formula face powder with required properties and then added chitosan of various concentrations ranging from 10, 20, 30, 40, and 50%. Physical properties of the face powder were evaluated in order to choose appropriate quantities of chitosan to be added to face powder for further testing on its efficiency against an oily face. It was found that chitosan-added face powder at 40% concentration appeared to be the most suitable formula. The sample group consisted of 20 volunteers. In particular; standard face powder was applied on the right side and chitosan-added face powder on the left of the face and then Sebumeter was applied to measure oil value at 30, 120 and 240 minutes. The test results on oil control efficiency among the volunteers with an oily face were compared between standard face powder and chitosan-added face powder and it appeared that chitosan-added face powder could render efficient oil control action with statistical significance of left applied chitosan-added forehead at 30 minute 29.50 ± 10.96 (p = 0.007) compare with right applied standard 39.50 ± 10.10, left check at 120 minute 49.50 ± 22.45 (p = 0.38) compare with right side 66.20 ± 26.48 and left chin at 240 minute 95.55 ± 52.72 (p = 0.048) compare with right side 132.15 ± 60.09 Therefore, it can be concluded that there has relation between chitosan-added face powder and face oil control.

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

Address: เชียงราย

Email: library@mfu.ac.th

Name: อำภา จิมไธสง

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2560

Issued: 2561

Modified: 2561-09-21

Issued: 2561-09-20

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ. WA744 อ855ก 2560

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง

Grantor: มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

©copyrights มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Urarat Amkasak.pdf	3.79 MB	13	2025-05-10 15:01:42

ใช้เวลา

0.018687 วินาที