การบริหารจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

An Educational Administration of Phrapariyattidhamma Pali Section in Suratthani Province

Name: พระมหาศรวุฒิ สิริวณฺโณ (จิตร์จำนงค์)

keyword: การบริหารจัดการศึกษา

; พระปริยัติธรรมแผนกบาลี

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลัก ๓ ประการคือ ๑)เพื่อศึกษาการบริหารจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๒)เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของภิกษุและสามเณรเกี่ยวกับการบริหารจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล ๓)เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะของผู้ตอบแบบสอบถาม,สัมภาษณ์ เกี่ยวกับการบริหารจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยในการศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Research) ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยเก็บข้อมูลภาคสนาม (Field Study) จากภิกษุและสามเณรที่เป็นผู้บริหาร ครูสอนและนักเรียนในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน ๙๔ รูป โดยใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) ลักษณะของแบบสอบถามเป็นทั้งปลายปิดและปลายเปิด ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้โดยหาค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบ ค่าที (t-test) และค่าเอฟ (F-test) วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way Analysis of Variance) เมื่อพบความแตกต่างจึงทำการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ่ (Scheffe) หากยังไม่พบความแตกต่างจะใช้วิธีหาค่าความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีแสดงผลต่างนัยที่สำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference: LSD) เป็นลำดับไปและการวิเคราะห์เอกสารและการสัมภาษณ์ (Interview) ผลการวิจัยพบว่า ๑. ภิกษุและสามเณรมีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้ง ๕ ด้าน คือ ด้านหลักสูตร ด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านสื่อการเรียนการสอน ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน และด้านการวัดผลและประเมินผล โดยภาพรวมอยู่ในระดับ ปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๔๕ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าภิกษุและสามเณรมีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จังหวัดสุราษฎร์ธานีในด้านหลักสูตร ด้านสื่อการเรียนการสอนและด้านกิจกรรมการเรียนการสอนอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนด้านการจัดการเรียนการสอนและด้านการวัดผลและประเมินผลอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือด้านการจัดการเรียนการสอน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๙๒ และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือด้านสื่อการเรียนการสอน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๐๖ ๒. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของภิกษุและสามเณรที่มีต่อการบริหารจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล ทดสอบสมมติฐานโดยการวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างตัวแปรได้แก่ สถานะ ตำแหน่ง/หน้าที่ อายุ พรรษา/ปีที่บรรพชา วุฒิการศึกษาทางโลกและวุฒิเปรียญธรรม พบว่าความแตกต่างของ ตำแหน่ง/หน้าที่ วุฒิการศึกษาทางโลก และด้านวุฒิเปรียญธรรมของภิกษุและสามเณรผู้ตอบแบบสอบถามไม่มีผลทำให้ความคิดเห็นที่มีต่อการบริหารจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จังหวัดสุราษฎร์ธานี แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นการปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนสถานภาพส่วนบุคคลที่แตกต่างกันในด้านอายุ และพรรษา/ปีที่บรรพชา ของภิกษุและสามเณรผู้ตอบแบบสอบถามมีผลทำให้ความคิดเห็นที่มีต่อการบริหารจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จังหวัดสุราษฎร์ธานี แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นการยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ๓. ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ ๑)ด้านหลักสูตร หลักสูตรพระปริยัติธรรมแผนกบาลีควรได้รับการปรับปรุงโดยเฉพาะด้านเนื้อหา ๒)ด้านการจัดการเรียนการสอน ควรให้ความสำคัญกับนักเรียนและครูสอนอย่างเต็มที่ ควรมีการปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอนให้มีความน่าสนใจ ดึงดูดให้ผู้เรียนมีอารมณ์ร่วมในการเรียนมากขึ้น มีการสนับสนุนด้านงบประมาณที่เพียงพอและควรมีการจัดอบรมเพื่อเพิ่มทักษะการสอนให้แก่ครูสอน ๓)ด้านสื่อการเรียนการสอน ควรจัดซื้อ จัดหา สื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยอย่างเพียงพอ สนับสนุนให้ผู้มีความรู้ความสามารถในการผลิตสื่อการสอนของวิชาแผนกนี้มีมากขึ้น มีการจัดอบรมครูสอนให้มีความรู้ความเข้าใจในการนำสื่อการเรียนการสอนมาใช้ให้เกิดประโยชน์เต็มที่และมีการจัดสรรงบประมาณในด้านสื่อการเรียนการสอนอย่างเพียงพอ ๔)ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ควรมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเห็นความสำคัญของการเรียน มีกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนกล้าแสดงออกอย่างเต็มที่และมีกิจกรรมที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสำนักเรียนกับชุมชนให้มากขึ้น ๕)ด้านการวัดผลและประเมินผล การวัดผลและประเมินผลของสนามหลวงควรมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับปัจจุบันมากยิ่งขึ้น

Abstract: The three main objectives of this research are 1) to study the educational administration of Phrapariyattidhamma Pali Section in Suratthani Province, 2) to compare the monks’ and novices’ opinion of the educational administration of Phrapariyattidhamma Pali Section in Suratthani Province, being divided as an individual status, 3) to study problems, obstacles and suggestions of those who have answered the questionnaire and interview of educational administration of Phrapariyattidhamma Pali Section in Suratthani Province. This is a mixed research which is mixed among quantitative research and qualitative research. On the field study, the data are collected from 94 monks and novices who are administrators, teachers and the students of Phrapariyattidhamma schools, Pali Section, Suratthani province, by applying the questionnaire of open ending and closed ending. The derived data are analyzed to find out the value of frequency, percentage, mean, standard deviation. Testing the hypothesis is made by t-test, F-test and One Way Analysis of Variance. After finding the difference, comparing the difference of mean in pair is made by the way of Scheffe. If the difference is not found, finding out the difference in pair by the way of Least Significant Difference; LSD will be made, and the qualitative research is to analyze the documents and interview. On the result of research, it is found that; 1. the monks’ and novices’ ideas of the educational administration of Phrapariyattidhamma Pali Section in Suratthani Province, in 5 aspects; aspect of curriculum, aspect of learning and teaching management, aspect of educational media, aspect of educational activities and aspect of measurement and assessment, in whole, are at the medium level 3.45. Considering as an aspect, it is found that monks’ and novices’ ideas of the educational administration of Phrapariyattidhamma Pali Section in Suratthani Province in the aspect of curriculum, educational media and educational activity are at the medium level, but in the aspect of learning and teaching management and in the aspect of measurement and assessment, their ideas are at the higher level. The highest mean that equals 3.92 is in the aspect of learning and teaching management and the lowest mean that equals 3.06 is in the aspect of educational media. 2. On the result of comparing monks’ and novices’ ideas of the educational administration of Phrapariyattidhamma Pali Section in Suratthani Province, being divided as an individual status, with hypothesis test made by analyzing the difference between variables ;- status, position/duty, age, rains-retreat/ year of ordination, general educational qualification and religious study qualification, it is found that the ideas of the educational administration of Phrapariyattidhamma Pali Section in Suratthani Province of monks and novices who answer the questionnaire and whose individual status is different in the aspect of position/duty, general educational qualification and religious educational qualification, are not different with statistical significance at 0.05, it is negative to the hypothesis set up. The difference of individual status, in the aspect of age and rains-retreat/ years of ordination, of monks and novices who answer the questionnaire, makes the ideas of the educational administration of Phrapariyattidhamma Pali Section in Suratthani different with statistical significance at 0.05, it is acceptable to the hypothesis set up. 3. The suggestions of the educational administration of Phrapariyattidhamma Pali Section in Suratthani are 1) in the aspect of curriculum, the curriculum of Phrapariyattidhamma, Pali Section should be improved, especially in the aspect of substance, 2) in the aspect of learning and teaching management, the importance should be given to students and teachers fully, the style of learning and teaching should be improved to make it interesting, to attract students to pay more joining emotion in learning, it should be supported with enough budget and training for increasing the teachers’ skills should be held, 3) in the aspect of educational media, the modern educational media should be supplied sufficiently, supporting those who are possessing the knowledge and ability to produce more educational media of the subjects in this division should be done, training the teachers in order to know and understand how to apply the educational media beneficially, the budget for educational media should be allocated sufficiently, 4) in the aspect of educational activity, the educational activity should be held in order to motivate students in considering the importance of learning, the activities supporting students’ courage of showing fully and those supporting relationship between students and community should be held additionally, 5) in the aspect of measurement and assessment, the measurement and assessment of the royal exam should be adjusted in order to be more suitable for the present conditions.

Mahachulalongkornrajavidyalaya University. Center Library

Address: AYUTTHAYA

Email: library@mcu.ac.th

Name: อินถา ศิริวรรณ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: สมชัย ศรีนอก

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2014

Modified: 2561-08-18

Issued: 2561-08-18

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	MCU570211016.pdf	7.5 MB	11	2025-02-13 21:33:00

ใช้เวลา

0.019357 วินาที