การศึกษาแนวทางการส่งเสริมพฤติกรรมการถวายอาหาร บิณฑบาต : กรณีศึกษาพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในการไฟฟ้า นครหลวง สำนักงานใหญ่ เพลินจิต กรุงเทพมหานคร

The study of the ways to the promotion of Almsgiving Behaviors: A case study of the officers working at the Metropolitant Electricity Authority Head office plearncit District , Bangkok.

Name: ภัสสรณ์ ศิริวสุพันธ์

keyword: ส่งเสริม

; พฤติกรรม

; บิณฑบาต

; การไฟฟ้า

; พนักงาน

Abstract: การศึกษาแนวทางการส่งเสริมพฤติกรรมการถวายอาหารบิณฑบาต : กรณีศึกษาพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เพลินจิต กรุงเทพมหานคร การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ ๓ อย่างเพื่อ ๑) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการถวายอาหารบิณฑบาตของพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เพลินจิตกรุงเทพมหานคร ๒) เพื่อศึกษาปัจจัยจูงใจที่ทำให้ตัดสินใจในการถวายอาหารบิณฑบาตของพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เพลินจิต กรุงเทพมหานคร ๓) เพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมพฤติกรรมการถวายอาหารบิณฑบาตของพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เพลินจิตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ผู้วิจัยศึกษา เป็นพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เพลินจิตกรุงเทพมหานครจำนวน ๓๐๙ คน และผู้ให้การสัมภาษณ์จำนวน ๖ คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามปลายเปิด และ การสัมภาษณ์ ได้ถูกนำมาวิเคราะห์เกี่ยวกับการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า ๑. พฤติกรรมการถวายอาหารบิณฑบาตของพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เพลินจิต กรุงเทพมหานคร มีพฤติกรรมการถวายอาหารไม่บ่อยมาก จำนวนครั้งโดยเฉลี่ยต่อปีมากกว่า ๒๕ ครั้ง สถานที่ที่ถวายอาหารส่วนใหญ่เป็นบริเวณหน้าบ้านพักอาศัย และวันที่ถวายอาหารบิณฑบาตส่วนใหญ่เป็นวันเกิด อาหารที่ถวายบิณฑบาต เป็นอาหารคาว งบประมาณที่ใช้ในการเตรียมอาหารประมาณ ๕๑ - ๑๐๐ บาท หลังจากถวายอาหารบิณฑบาตแล้วมีการกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เกี่ยวกับอาหารที่ใช้ถวาย เป็นอาหารสำเร็จที่ซื้อจากตลาด ๒. ปัจจัยจูงใจที่ทำให้ตัดสินใจในการถวายอาหารบิณฑบาตของพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เพลินจิต กรุงเทพมหานคร มีการถวายอาหารบิณฑบาต โดยแบ่งเป็น ๒ ด้าน คือ ด้านจุดมุ่งหมาย เพื่อเป็นการสร้างบุญกุศลให้ตนเองและผู้อื่น และด้านความเชื่อส่วนบุคคล โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก นอกจากนี้เพศชายและเพศหญิง มีความเชื่อส่วนบุคคลแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยที่เพศหญิงมีความเชื่อมากกว่าเพศชาย สำหรับพนักงานที่มีสถานภาพสมรส อายุ ระดับการศึกษา หน่วยงานที่สังกัดและรายได้ต่อเดือนต่างกันมีความเชื่อส่วนบุคคลโดยรวมไม่แตกต่างกัน ๓. แนวทางการส่งเสริมพฤติกรรมการถวายอาหารบิณฑบาตมี ๓ ด้าน คือ ด้านอัตตัตถประโยชน์ เป็นการรักตัวเอง พัฒนาตัวเอง แบ่งปันอาหารซึ่งเป็นสมบัติของตัวเอง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการ ลดละ การทำประโยชน์ส่วนตน การทำตนให้เป็นที่พึ่งได้ การฝึกตนในกุศลความดี การเรียนรู้ การบากบั่นพากเพียร ด้านปรัตถประโยชน์ การสร้างความรู้สึกให้เห็น คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งมีค่า เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา หลังจากได้ถวายอาหารแก่พระสงฆ์เป็นการส่งเสริมการบำเพ็ญประโยชน์คือเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า ด้านศาสนประโยชน์ เป็นการส่งเสริมความคิดในด้านจิตใจให้มีคุณธรรม โดยมี พระสงฆ์ เป็นผู้สื่อกลาง หรือหมายถึง ศาสนาวัตถุ โบสถ์ วิหาร เจดีย์ และพระธาตุ จิตกรรม ปติมากรรม สถานปฏิบัติธรรม การประชาสัมพันธ์ซึ่งได้แก่ การส่งเสริมสนับสนุนให้มีการถวายบิณฑบาต

Abstract: This study has three objectives to: 1) study of the behavior of Metropolitan Electricity Authority (MEA) staff at Pleonchit Head Office in Bangkok, who make food offering for alms collection; 2) study the influence factor for making the food offering of the MEA staff at Pleonchit Head Office in Bangkok; and 3) study of how to encourage the MEA staff at Pleonchit Head Office in Bangkok, to make food offering for alms collection. In the experimental research, a group of the 309 MEA staff at Pleonchit Head Office in Bangkok, as well as six other random individuals were interviewed. All data collected were from questionnaires and interviews. The statistical data using frequency, average, mean and standard deviation were analyzed. However, the content analysis was used to analyze the data from the open-ended questions and interviews. From the study, it was found that: 1) The behavior of the MEA staff at Pleonchit Head Office in Bangkok, who make food offering for alms collection, showed that they do not frequently make an offer. They actually make the offer in an average of 25 times per year. The location of offering is normally in front of their residence. Typically, the birthday will be the most important day to make the offer. As far as the type of food offering, the meat dish will be commonly chosen. Basically, the budget for food preparation is between 51 to 100 baht. After the offering, they will pour ceremonial water for transference of merits to their departed relatives. The staff usually buy the delicatessen from the market for convenience. 2) The influence factor for making the food offering of the MEA staff at Pleonchit Head Office in Bangkok divides into two aspects. One is for an objective goal. Ones make merits for themselves as well as others. Another is for their personal belief which is considered as a substantial level of belief. In addition, male and female have different level of beliefs, at the .05 statistical point. Female has higher level of belief than male does. Although marital status, age, education, job title and salary may differ, their beliefs in general are not different. 3) There are three ways to encourage food offering for alms collection: benefit of self or egoism (Attatha), welfare or benefit of others or altruism (Parattha) and religious benefit. Benefit of self or egoism (Attatha) is a sense of self-importance (self-interest) or self-development. Sharing foods under one’s own possession is an ideal. This is a beginning of self-sacrifice. It is one way to benefit self, depend on self, train for committing good deeds, educate self and persevere for hard work, for instance. Welfare or benefit of others or Altruism (Parattha) is a sense of giving. It is to arouse one’s own interest to believe how valuable Buddha’s teaching is. This is one way to propagate the religion. By offering foods to the monks, one is encouraged a way to perform religious practice which is a way to propagate Buddha’s teaching. Religious benefit is a way to instill virtue in one’s mind having the monks or other religious materials such as temple, vihara (hall of a temple), pagoda, Buddha’s relics, painting, sculpture, meditation centers as well as public relation as a medium to encourage food offerings.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: อยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: พระมหาทวี มหาปญฺโญ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: วีระ วงศ์สรรค์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2558

Modified: 2561-07-08

Issued: 2561-07-08

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชาพระพุทธศาสนา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	MCU580202007.pdf	4.33 MB	37	2025-01-11 16:04:41

ใช้เวลา

0.021782 วินาที