การปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิต กรณีศึกษา บริษัท สุราษฎร์สิริพิริยะ (1999) จำกัด

Improving Efficiency of the Production Process : A Case Study of Surat Siripiriya (1999) Company Limited

Name: พลาธิป วิกรัยศักดา

Abstract: การศึกษาอิสระ เรื่องการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิต กรณีศึกษา บริษัท สุราษฎร์สิริพิริยะ (1999) จำกัด มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพกระบวนการผลิต รวมถึงการวิเคราะห์หาสาเหตุและแนวทางในการแก้ไขปัญหากระบวนการผลิตของบริษัทกรณีศึกษา จากการศึกษาข้อมูลด้านผลการดำเนินงาน พบว่า บริษัทกรณีศึกษามีค่าประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร (OEE) โดยเฉลี่ยในปี พ.ศ. 2558 อยู่ที่ร้อยละ 61.55 และในเดือนมกราคม ถึง เดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2559 อยู่ที่ร้อยละ 67.50 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานระดับโลกที่กำหนดไว้ที่อยู่ที่ ร้อยละ 85.00 ค่อนข้างมาก โดยมีสาเหตุมาจากค่าอัตราการเดินเครื่องจักรต่ำ เนื่องจากมีเวลาสูญเสียจากเครื่องจักรหยุดสูง ผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์หาสาเหตุของเวลาสูญเสียที่มีผลค่าอัตราการเดินเครื่องจักร เพื่อคัดเลือกปัญหา พบว่ามีสาเหตุที่สำคัญอยู่ 4 ประการคือ การทำซ้ำในกระบวนการนำเก๊ะยางเข้า เตาอบ กลุ่มเครื่องจักรโรงบดย่อยขัดข้อง ระบบ PLC ควบคุมเครื่องจักรขัดข้อง และเครื่องจักรกลุ่ม Dryer ขัดข้อง จากการระดมสมองกับผู้ที่เกี่ยวข้องโดยประยุกต์ใช้การวิเคราะห์ 5M1E ในการวิเคราะห์หาสาเหตุหลัก สาเหตุรอง และสาเหตุย่อยที่เป็นไปได้ เพื่อนำไปประเมินค่าระดับความเสี่ยง (RPN ; Risk Priority Number) ผ่านตาราง FMEA (Failure Mode Effect Analysis) พบว่าสาเหตุของปัญหา ที่กล่าวมาข้างต้น มาจากสาเหตุย่อยได้แก่ พนักงานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ขาดความรู้ความเข้าใจในงาน วิธีการปฏิบัติงานไม่ถูกต้อง เครื่องจักรมีการหยุดการทำงานบ่อย และคุณลักษณะของวัตถุดิบไม่เหมาะสม ผู้วิจัยได้ประยุกต์ใช้แผนภูมิวงรอบสาเหตุและผล (Casual Loop Diagram) เพื่อนำเสนอภาพรวมในการแก้ไขและปรับปรุงสาเหตุของเวลาสูญเสียที่มีผลต่อค่าอัตราการเดินเครื่องจักร และ ประยุกต์ใช้เทคนิค ECRS เพื่อนำเสนอแนวทางในการแก้ไขและปรับปรุงปัญหา ได้แก่ ทำการอบรมและให้ความรู้กับพนักงานเกี่ยวกับวิธีการทำงานและการดูแลรักษาเครื่องจักร กำหนดมาตรฐานการจัดการวัตถุดิบ การทำคู่มือการทำงานเพื่อสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับวิธีการทำงาน อีกทั้งทำการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการทำงานเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน โดยหลังการแก้ไขและปรับปรุงปัญหาพบว่า ค่า OEE ในโดยเฉลี่ยในเดือนมิถุนายน ถึง เดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2559 อยู่ที่ร้อยละ 76.32 เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปี พ.ศ. 2558 ร้อยละ 17.10 ซึ่งเป็นผลมาจากค่าอัตราการเดินเครื่องจักรที่เพิ่มขึ้น เพราะเวลาสูญเสียจากเครื่องจักรหยุดลดลง

Abstract: The aim of this independent study was to analyse the efficiency of the production process at Surat Siripirya (1999) Co., Ltd. The study included an analysis of the causes and solutions to the problems of the production process of the company. Based on the study of performance data, it was found that the company’s Overall Equipment Effectiveness (OEE) in 2015 was 61.55% and 67.50% in January-March 2016, which was significantly lower than the world standard at 85.00% due to the low rate of operation as a result of high lost time from the machinery breakdown. The causes of lost time loss affecting the availability rate were examined. There were four main reasons, namely repeating the process of bringing the rubber into the oven, a dysfunction of the grinding machines, a dysfunction of the Programmable Logic Controller (PLC), and a dysfunction of the dryers. From the brainstorming session among the person concerned by applying the 5M1E (Man, Material, Method, Machine, Measurement, and Environment) analysis to identify the main causes, secondary causes and other possible causes to assess the risk level (Risk Priority Number – RPN) according to the FMEA (Failure Mode Effect Analysis) table, it was found that the root of the problems mentioned above lied in the other possible causes, namely negligence of employees, employees’ lack of the job knowledge, incorrect operation methods, the frequent machinery breakdown, and inappropriate raw materials. The casual loop diagram was applied to provide an overview of correcting and improving the cause of the lost time affecting the availability rate. The ECRS (Eliminate, Combine, Rearrange and Simplify) techniques were also adapted to offer solutions to the problems, such as training staff on machine operation and maintenance, setting the standard for raw material management, creating a handbook to form the job knowledge as well as installing more work facilities to improve work efficiency. After the improvement, the average OEE in June-December 2016 was 76.32%, which was 17.10% higher than that of the same period in 2015, as a result of the higher availability rate because of the decline in lost time from the machinery breakdown.

WALAILAK UNIVERSITY. CENTER FOR LIBRARY RESOURCES AND EDUCATIONAL MEDIA

Address: NAKON SI THAMMARAT

Email: clm@wu.ac.th

Name: พนิดา แช่มช้าง

Created: 2560

Modified: 2560-10-20

Issued: 2560-10-20

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

Spatial: สุราษฎร์ธานี

DegreeName: Master of Business Administration (Business Administration)

Level: Master's Degree

Descipline: Business Administration

Grantor: Walailak University

©copyrights มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	front page.pdf	271.43 KB	27	2024-06-02 05:58:55
2	Abstract.pdf	170.62 KB	22	2024-06-02 05:58:52
3	Chapter 1.pdf	342.77 KB	26	2025-08-07 13:14:11
4	Chapter 2.pdf	550.53 KB	32	2024-06-02 05:58:45
5	Chapter 3.pdf	241.88 KB	23	2024-06-02 05:58:41
6	Chapter 4.pdf	1.82 MB	17	2024-06-02 05:58:37
7	Chapter 5.pdf	373.07 KB	12	2024-06-02 05:58:33
8	bibliography.pdf	286.36 KB	21	2024-06-02 05:58:29
9	appendix.pdf	441.41 KB	19	2024-06-02 05:58:25
10	cv.pdf	144.65 KB	13	2024-06-02 05:58:22

ใช้เวลา

0.060475 วินาที