การพัฒนาสารสกัดหญ้ารีแพร์เพื่อใช้ในเครื่องสำอาง

Development of centotheca lappacea extract for application in cosmetics

Name: ธนัฎฐา สุทธิมาศ

Organization : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

Name: Thanatta Suttimas

keyword: สารสกัดหญ้ารีแพร์

ThaSH: หญ้ารีแพร์

Classification :.LCCS: QV766

ThaSH: สารสกัดจากพืช

ThaSH: เครื่องสำอางสมุนไพร

ThaSH: พืชสมุนไพร

Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนามาตรฐานสารสกัดหญ้ารีแพร์ (Centotheca lappacea L. Desv.) เพื่อใช้ในเครื่องสาอาง การสกัดทาได้โดยใช้คลื่นเสียงช่วย ที่อุณหภูมิห้อง ใช้เวลาในช่วง 1-24 ชั่วโมง โดยเปรียบเทียบตัวทาละลาย 2 ชนิด คือ เอทานอลร้อยละ 95 และน้าปราศจากไอออน สารสกัดหญ้ารีแพร์ ส่วนใบ ที่สกัดด้วยน้าปราศจากไอออนให้ผลผลิตสารสกัดสูงสุด โดยสกัดที่เวลา 6 ชั่วโมง ให้ปริมาณเท่ากับร้อยละ 25.30 โดยน้าหนัก ในขณะที่สารสกัดเอทานอลของหญ้ารีแพร์ส่วนราก ที่เวลา 24 ชั่วโมง ให้ผลผลิตต่าสุด คือร้อยละ 9.40 โดยน้าหนัก สารสกัดเอทานอลของใบ มีสารประกอบฟีนอลิกรวมมากที่สุดคืออยู่ในช่วง 30.33-49.63 mg GAE/g ในขณะที่สารสกัดเอทานอลของราก มีสารประกอบฟีนอลิกรวมน้อยที่สุด คืออยู่ในช่วง 11.98-34.22mg GAE/g การทดสอบฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระ ของสารสกัดหญ้ารีแพร์ พบว่า สารสกัดหญ้ารีแพร์ส่วนใบให้ฤทธิ์สูงสุด โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 0.088 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ตามด้วยสารสกัดหญ้ารีแพร์ส่วนก้านและส่วนราก โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 0.177, 0.218 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ตามลาดับ เมื่อเปรียบเทียบกับสารมาตรฐานโทรลอกซ์ พบว่า มีค่า IC50 เท่ากับ 0.102 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร การทดสอบฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส พบว่า สารสกัดหญ้ารีแพร์ส่วนก้าน ให้ฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสสูงกว่าใบและราก ตามลาดับ โดยให้ค่า IC50 ต่าสุดคือ 0.145 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ซึ่งใกล้เคียงกับฤทธิ์ของสารมาตรฐานกรดโคจิก ซึ่งมีค่า 0.095 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตรการวิเคราะห์สารองค์ประกอบในสาร สกัดด้วยวิธี HPLC พบว่าสารสกัดหญ้ารีแพร์ส่วนใหญ่มี Catechin, Catechin gallate, Rosemarinic acid และ Epigallocatechin gallate เป็นองค์ประกอบ

Abstract: This research was purposed to develop the Cenththeca lappaceaL.standard extract for cosmetic application. Cosmetic active compounds from the plant were extracted by using sonication at room temperature to assist the extraction efficiency and the extraction was carried out between 1-24 h. Two solvents of 95% ethanol and DI water were compared in their extraction capacity. Water extract of leave at 6 h duration provided the highest yield at 25.30 % w/w, while the least recovery of 9.40% w/w was obtained from water extract of root at 24 h duration. The highest phenolic content was found in the ethanolic extract of the leave showing the values between 30.33-49.63 mg GAE/g. The lowest phenolic content was found in the root extract which appeared the values in ranges of 11.98-34.22 mg GAE/g. Radical scavenging capacity assay revealed that the leave extract exhibited the highest activity with the IC50 of 0.088 mg/mL, followed by those of the stalk and root extracts of 0.177 and 0.218 mg/mL, respectively. In comparison with the standard trolox, it showed the IC50 of 0.102mg/mL. Tyrosinase inhibitory activity assay showed the stalk extract gave superior activity to those of the leave and root. The IC50 of ethanolic stalk extract was found to be 0.145 mg/mL which was comparable to that of standard kojic acid (0.095 mg/mL). HPLC analysis demonstrated that the C. lappacea extracts contained several types of phenolic compounds. Besides the known of catechin, catechin gallate, apicatechin gallate and rosemarinic acid, there were a lot of unknown active components.

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง. ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา

Address: เชียงราย

Email: library@mfu.ac.th

Name: ภาณุพงษ์ ใจวุฒิ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2558

Issued: 2016

Modified: 2020-04-20

Issued: 2559-11-11

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ. QV766 ธ211ก 2558

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง

Grantor: มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

©copyrights มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Thanatta Suttimas.pdf	4.59 MB	81	2025-02-24 15:42:08

ใช้เวลา

0.0266 วินาที