ผลการใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

EFFECTS OF THE MATHEMATICS PROBLEMS SOLVING EXERCISES ENTITLED FRACTIONS AND DECIMALS BY USING COOPERATIVE LEANING FOR MATTAYOMSUKSA 1 STUDENTS

Name: วันนิดา เทียนเจษฎา

ThaSH: เศษส่วน -- วิจัย

Classification :.DDC: 510.704

ThaSH: ทศนิยม -- วิจัย

ThaSH: คณิตศาสตร์ -- การศึกษาและการสอน -- วิจัย

ThaSH: คณิตศาสตร์ -- แบบฝึกหัด -- วิจัย

ThaSH: วิทยานิพนธ์มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1)ศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2)เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยมโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3)ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ4)ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนบ้านโคกยางหนองตาสี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1)แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนแลละทศนิยม โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 8 ชุด 2)แผนการจัดการเรียนรู้การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม โดยใช้การเรียนรุ้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 8 แผน 3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาเศษส่วนและทศนิยม ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากตั้งแต่0.47-0.65 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.43-0.60 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 และ4)แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 12 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานโดยใช้ Dependent Samples t-tedt E1/E2 และ E.I. ผลการวิจัยพบว่า 1.แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.09/81.98 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้ 2.นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เสษส่วนและทศนิยม โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยฒศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 0.5386 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 53.86 4.นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด

มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. ศูนย์วิทยบริการ

Address: บุรีรัมย์

Email: library@bru.ac.th

Name: ผจญ โกจารย์ศรี

Role: ที่ปรึกษาหลัก

Name: สุเทียบ ละอองทอง

Role: ที่ปรึกษาร่วม

Created: 2556

Modified: 2557-07-16

Issued: 2557-05-30

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

วพ 510.704 ว433ผ 2556

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: หลักสูตรและการสอน

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	1. titlepage.pdf	210.2 KB	815	2024-09-28 14:20:16
2	2. abstract.pdf	521.68 KB	947	2023-12-31 19:17:01
3	3. acknowledgement.pdf	150.4 KB	359	2022-01-04 11:45:19
4	4. content.pdf	451.84 KB	418	2022-08-14 12:50:17
5	5. chapter 1.pdf	1.69 MB	1026	2023-06-30 14:26:53
6	6. chapter 2.pdf	16.63 MB	1697	2025-08-25 21:35:54
7	7.chapter 3.pdf	1.87 MB	744	2023-06-30 14:27:16
8	8. chapter 4.pdf	862.44 KB	631	2023-06-30 14:27:25
9	9. chapter 5.pdf	1.91 MB	839	2024-03-21 17:44:20
10	10. bibliography.pdf	1.42 MB	1028	2023-06-30 14:27:38
11	11.appendix.pdf	5.99 MB	798	2023-06-30 14:27:46
12	12 appendix_1.pdf	6.49 MB	904	2023-06-30 14:27:55
13	13. biodata.pdf	116.18 KB	375	2023-06-30 14:28:03

ใช้เวลา

0.09878 วินาที