การบริหารการศึกษาวิชาพระพุทธศาสนา ในโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยฉะเชิงเทรา

Name: พระครูโอภาสปัญญาวรคุณ (พิน โอภาโส)

keyword: รียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยฉะเชิงเทรา

Abstract: บทคัดย่อ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษา การบริหารการศึกษาวิชาพระพุทธศาสนาในโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ฉะเชิงเทรา ๒) เพื่อศึกษา ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะการบริหารการศึกษาวิชาพระพุทธศาสนา ในโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ฉะเชิงเทรา ระเบียบวิธีวิจัย ใช้การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research) โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากประชากร ทั้งหมด จำนวน ๖๕ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์ ความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๘๘ และทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้ คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ๑) การบริหารการศึกษาวิชาพระพุทธศาสนาในโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ฉะเชิงเทรา โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =๔.๐๗) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า การบริหารการ ศึกษาวิชาพระพุทธศาสนาในโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ฉะเชิงเทรา อยู่ในระดับมาก ทุกด้าน โดยมีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยดังนี้ ด้านหลักสูตร ( =๔.๒๔) ด้านการจัดการเรียนการสอน ( =๔.๑๒) ด้านการวัดผลประเมินผล ( =๔.๐๓) และด้านการนิเทศการสอน ( =๓.๘๗) ตามลำดับ ๒) ข้อเสนอแนะ ต่อการบริหารการศึกษาวิชาพระพุทธศาสนา ในโรงเรียนกาญจนาภิเษก วิทยาลัย ฉะเชิงเทรา ด้านหลักสูตร โดยรวมควรปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน โดยผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์การสอน และควรมีการศึกษาวิจัยหลักสูตร ก่อนการนำมาใช้จริง ด้านการเรียนการสอน จัดอบรมเสริมความรู้ให้แก่บุคลากร ในเรื่องกระบวนการเรียนการสอน โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เน้นการสร้างบรรยากาศ และแรงจูงใจให้ผู้เรียนมีความ สนใจใฝ่รู้ ส่งเสริมให้ครูผู้สอนในรายวิชา ได้มีโอกาสออกไปศึกษาดูงาน หรือฝึกปฏิบัติธรรม เพื่อให้ครูได้รับประสบการณ์ตรง ด้านการนิเทศการสอน ส่งเสริมให้ครูพัฒนาตนเอง รักษามาตรฐานการสอนของตน และควรมีการใช้ทรัพยากรบุคคลอย่างคุ้มค่า โดยมีโครงการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างสถานศึกษา ด้านการวัดและประเมินผล ควรกำหนดหลักการ และวิธีการวัดผลให้ชัดเจน และเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยยึดถือปฏิบัติเหมือนกัน ทั้งในภาคทฤษฎี และปฏิบัติ เพื่อให้สามารถใช้ข้อสอบมาตรฐานร่วมกันได้ระหว่างสถานศึกษา

Abstract: Abstract The main objectives of this study were : 1) to study buddhism study administration at Kanjanapisekvidyalaya School Chachoengsao. 2) to study problems, obstacles and suggestions from the people towards buddhism study administration at Kanjanapisekvidyalaya School Chachoengsao. The research methodology was quantitative research carried out on this study. 65 people in Kanjanapisekvidyalaya School Chachoengsao, constituted the total population. Tool used in this study was questionnaire with the coefficient of reliability value equal to 0.88 Data analysis was conducted by the statistical software program for social science research. Statistics used in the analysis consisted of frequency, mean, percentage and standard deviation (S.D.) for describing data from independent variables or personal characteristics. Findings : 1. Buddhism Study Administration at Kanjanapisekvidyalaya School Chachoengsao, in general were found at the high level ( = 4.07). When considered by each aspect, it was rated at the high level in every aspects ranking from the most to the least in terms of means such as course administration ( =4.24), learning and teaching ( =4.12), measurement and evaluation ( =4.03) and Supervision ( =3.87), respectively. 2. Recommendations for Buddhism Study Administration at Kanjanapisek -vidyalaya School Chachoengsao, were that, for the aspect of course administration, the course should be consistent with current conditions by those who have knowledge, specialization, teaching experienced. Should be study course before actual implementation. Learning and teaching aspect, focus on creating an atmosphere knowledge and training personnel. In the teaching process by the students is important have the opportunity to study. Encourages teachers in the course or practice training so that teachers receive experiences. For measurement and evaluation aspect, encourage teachers to develop their own. Maintain the standard their own teaching and human resources should be used efficiently by an exchange program between the school personnel. For Supervision aspect, should be the principle and measure clearly the same standard. To abide by the same. All in theory and practice to be able to test the compatibility between the schools.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@mcu.ac.th

Name: รศ.ดร. สมาน งามสนิท B.A., M.A., Ph.D. (Pub. Admin.)

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: อาจารย์ พระครูวิทิตปัญญาภรณ์ พธ.บ., พธ.ม., Ph.D. (Socail. Dev.)

Issued: 2556-09-27

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ใช้เวลา

0.015618 วินาที