ศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ธรรมศึกษาทุกระดับชั้น อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์

Name: พระพิศาล ปภสฺสโร (อนัตย์)

keyword: ธรรมศึกษา

; ปัญหาการจัดการเรียนรู้

; อำเภอบรรพตพิสัย

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ธรรมศึกษาทุกระดับชั้น อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ 2) ศึกษาเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นต่อสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ธรรมศึกษาทุกระดับชั้น อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3) ศึกษาปัญหาอุปสรรคและนำเสนอแนวทางการปรับปรุงแก้ไขสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ธรรมศึกษาทุกระดับชั้น อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัย คือ นักเรียนที่กำลังเรียนธรรมศึกษาทุกระดับชั้น อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ประจำปีการศึกษา 2555 จำนวน 462 คน ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) เก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้เครื่องมือ คือ แบบสอบถาม (Questionnaire) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบโดยการทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที (t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way ANOVA) หากพบว่ามีความแตกต่างกันจึงทำการเปรียบเทียบรายคู่โดยมีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD) และสรุปข้อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงแก้ไขการจัดการเรียนรู้โดยการสังเคราะห์ข้อมูลที่ได้ ผลการวิจัย พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นต่อสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ธรรมศึกษาทุกระดับชั้น อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ โดยภาพรวม มีสภาพปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง (X̅ = 3.41) เมื่อพิจารณารายละเอียดแต่ละด้านพบว่า มีสภาพปัญหาอยู่ในระดับมาก ได้แก่ ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน (X̅ = 3.57) ส่วนด้านที่เหลือมีสภาพปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง นักเรียนที่มีเพศต่างกัน มีความคิดเห็นต่อสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ธรรมศึกษาทุกระดับชั้น โดยภาพรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (t = -3.697, Sig = 0.000) ซึ่งตรงตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ นักเรียนที่มีอายุต่างกัน มีความคิดเห็นต่อสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ธรรมศึกษาทุกระดับชั้น โดยภาพรวม ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จึงปฎิเสธสมมติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้ นักเรียนที่มีระดับชั้นธรรมศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นต่อสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ธรรมศึกษาทุกระดับชั้น โดยภาพรวม ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จึงปฎิเสธสมมติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้ ข้อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงแก้ไข 1. ผู้บริหารสถานศึกษา ควรจัดหาตำราเรียนในแต่ละวิชาให้เพียงพอกับความต้องการของนักเรียน และจัดหาสื่อการเรียนการสอนใหม่ๆที่มีความเหมาะสมเพื่อให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น 2. ผู้บริหารสถานศึกษา ควรตระหนักถึงความสำคัญในการจัดสรรเวลาสำหรับการจัดการเรียนการสอนธรรมศึกษาโดยเฉพาะ 3. พระภิกษุผู้สอนควรมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ในการเข้าสอนหลักสูตรธรรมศึกษาให้มากขึ้น 4. หน่วยงานที่รับผิดชอบควรจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาศักยภาพพระภิกษุผู้สอนอย่างต่อเนื่อง 5. ควรจัดให้มีการอบรมพระภิกษุผู้สอนในด้านการใช้หลักสูตร ตลอดจนการวิเคราะห์หลักสูตร เพื่อนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 6. ควรสนับสนุนส่งเสริมให้พระภิกษุผู้สอนได้รับการอบรมวิธีการสอนและเทคนิคใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับจุดประสงค์และศักยภาพของผู้เรียน 7. ควรจัดให้มีการอบรมเกี่ยวกับการผลิตสื่อการสอน ขั้นตอนการใช้สื่อการสอน และควรใช้สื่อการเรียนการสอนที่มีความหลากหลาย เหมาะสมกับความสนใจผู้เรียน 8. ควรจัดอบรมให้พระภิกษุผู้สอนให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการวัดและประเมินผล รวมทั้งการสร้างและพัฒนาเครื่องมือในการวัดและประเมินผลเพื่อให้การวัดและประเมินผลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Abstract: The purposes of this research were as follows : 1) To study the circumstances and problems toward Dhamma Suksa students in all level. 2) To compare the circumstances and problems of Dhamma Suksa Students toward the study of Tripitaka (Dhamma Section) in Banphotphisai District, Nakhonsawan Province classifying by gender,age and Dhamma level. 3) To study the problems obstacles and advices to the ways which could be solved to all aspects of Dhamma Suksa. The sample of this study was Dhamma Suksa Students in all Dhamma Suksa level of the academic year (2555 B.E.). The sample of the research consisted of 462 Dhamma Suksa Students.The method of this study was Survey Research collecting data by the questionnaire.The Data Analysis have been done by frequency,mean and standard deviation. The test of hypotheses have been performed by t-test and One Way ANOVA. The results of the study have been found that Dhamma Suksa Students' opinions towards the study of Tripitaka (Dhamma Section) as a whole had the medium mean (X̅=3.14). Considering learning and teaching dimension if was found that the mean score was high (X̅=3.57). The researcher was found that the Dhamma Suksa Students toward the study of Tripitaka as a whole by gender having significant difference at .01 level. (t = -3.697). Futhermore ; the hypothesis has been accepted. The Dhamma Suksa Students classified by age toward the study of Tripitaka as a whole having no statistical difference so that hypothesis has been rejected. The Dhamma Suksa Students’ opinions with different level were not statistical significance. Therefore the hypothesis has been rejected . The researcher had the following suggestions and advices as bellows : The school administrators should prepare the textbooks and manuals covering for all students. The school administrators should be realized the importance of time for Dhamma Suksa Teaching. The monks who have taught the morality should be responsible for their schedules and duties. The government should arrange the sufficient budget for the morality monks Continuously. The monks who have taught the morality should be trained about the new learning and teaching method. The monks should have been trained about measurement and evaluation technic. The monks should have been trained about instructional media and Euducational Technology. The monks should develop themselves for curriculum and instructional media.

Mahachulalongkornrajavidyalaya University

Address: BANGKOK

Email: library@mcu.ac.th

Name: พระเทพปริยัติเมธี

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: วรกฤต เถื่อนช้าง

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Modified: 2568-10-16

Created: 2556

Issued: 2556-09-27

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชาการบริหารการศึกษา

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	พระพิศาล ปภสฺสโร (อนัตย์).pdf	6.97 MB

ใช้เวลา

0.047245 วินาที