The Operational Performance to Agree with the Teachers Professional Standard criteria of the Special skilled Teachers of Ubon Ratchathani Education Service Area Office 3.
Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการปฏิบัติงานตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครูของข้าราชการครูที่มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูผู้สอนตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครูจำนวน 12 มาตรฐาน และเปรียบเทียบการปฏิบัติงานตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครูของข้าราชการครูที่มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 จำแนกตามสถานภาพ และระดับการจัดการศึกษาของโรงเรียน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหาร จำนวน 92 คน และครูผู้สอนจำนวน 92 คน รวมจำนวน 184 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิอย่างเป็นสัดส่วนตามระดับการจัดการศึกษา เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า ชนิด 5 ตัวเลือก ตามแบบของ Likert มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .8214 และแบบสัมภาษณ์ปลายเปิด สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าเฉลี่ย t การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่โดยใช้วิธีการของ Scheffe
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการปฏิบัติงานตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครูของข้าราชการที่มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายมาตรฐานอยู่ในระดับมาก 8 มาตรฐาน ที่เหลืออีก 4 มาตรฐาน อยู่ในระดับปานกลาง
2. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน ที่มีต่อการปฏิบัติงานตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครูของข้าราชการครูที่มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 จำแนกตามสถานภาพเป็นผู้บริหารกับครูผู้สอน พบว่า ในภาพรวมมีความคิดเห็นแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และในมาตรฐานการตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ โดยคำนึงถึงผลที่จะเกิดแก่ผู้เรียน มาตรฐานการมุ่งมั่นพัฒนาผู้เรียน
ให้เต็มตามศักยภาพ มาตรฐานการพัฒนาการเรียนการสอนโดยเน้นผลถาวรที่เกิดแก่ผู้เรียน มาตรฐานการสร้างโอกาสให้แก่ผู้เรียนได้เรียนรู้ในทุกสถานการณ์ มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนมาตรฐานอื่นๆ มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน
3.ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอนที่มีการติดต่อการปฏิบัติงานตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครูของข้าราชการครูที่มีวิทยาฐานะชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 3 จำแนกตามระดับการจัดการศึกษาของโรงเรียน พบว่า ในภาพรวมมีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน แต่ผู้บริหารและครูผู้สอนที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนที่สอนระดับอนุบาลกับโรงเรียนที่สอนมัธยมศึกษา มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในมาตรฐานการปฏิบัติในกิจกรรมต่างๆ โดยคำนึงถึงผลที่จะเกิดแก่ผู้เรียน และมาตรฐานการแสวงหาและใช้ข้อมูลข่าวสารในการพัฒนา ส่วนผู้บริหารและครูผู้สอนที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงเรียนที่สอนระดับประถมศึกษาและโรงเรียนที่สอนระดับมัธยมศึกษา มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในมาตรฐานการแสวงหาและใช่ข้อมูลข่าวสารในการพัฒนา
The study was aimed at investigation opinions of 92 administrators and 92 teachers related to their operational performance that agree with twelve teachers standard criteria of the special skilled teachers of Ubon Ratchathani Education Service Area Office 3. The also made a comparison of their opinion of the standard criteria based on status, year of work experience, and utilized level of education and the statistics used for data analysis included mean, standard deviation, t- test, one way analysis of variance, and F test.
The findings were as follows:
1.The administrators and the teachers opinion of the performance of the eight standard criterions were found to be at a high level and the other four were at the average.
2.The result of the study based of status indicated that the administrators and the teachers opinion overall differed at .05 level of significance. The also showed there was significance difference at .05 on the criteria of decision making, determination on developing the students to full capacity, developing teacher plans, activity practice and opening up to learning opportunity. There was on significant difference in other in other aspects. Differed at .05 level of significance between the small kindergarten level of education. And the secondary school level of education, no activity practice and on retrieving information. There was also significance on retrieving information between the elementary level and the secondary level education.