The impact of the insurgency at the Southern Border of Thailand on the Muslims in Bangkok

การวิจัยผลกระทบจากความไม่สงบในเขตชายแดนภาคใต้ที่มีต่อมุสลิมในกรุงเทพมหานคร

Name: Daranee Waraseth

LCSH: Muslim -- Bangkok

LCSH: Islam and politics -- Thailand Southern

Abstract: This quantitative and qualitative research aims (1) to study the difference between Muslims in Bangkok and Muslims in the southern part of Thailand, and how the insurgency from the southern border provinces of Thailand, socially, physically, and mentally affects Muslims in Bangkok; and (2) to help Non-Muslims learn more about the historical context, culture and civilization of Islam. The interviews were used as primary data collection method (20 Muslims and 10 Non- Muslims) and questionnaire were used as secondary tools for exploring general attitudes of Muslims and Non-Muslims (200 Muslims, and 100 Buddhists and 100 Christians). Data were collected between May, 2007 and April 2008, and were analyzed by content analysis and descriptive statistics. The results of the interviews reveal that the insurgency in the southern border has had direct impacts on the lives of the local people. However, these incidents are extensive violence which also has a great impact on the majority of Muslims. Muslims in Bangkok include people who come from different professions, educations, religions and cultures. They have to face with pressure from people outside the Muslim community. The field research reveals that, 46.4% of Muslims in Bangkok agree that they are affected by the insurgencies and 59.6% of Muslims agree that the insurgencies in the Southern Part of Thailand affect to Muslims all over the country. Moreover, the media have presented the image of Muslims negatively and which has had a great mental and physical impact on Muslims. It has made them feel that they were treated unequally when compared to other groups of people in Thai society due to the misperceptions, lack of knowledge and misunderstandings. Therefore, Thai society should be better educated about Muslims and Muslim studies should be provided in schools. The insurgencies are like a wake up call for Thai society to create social awareness. People need to be concerned about the value of life. These findings suggest that religious understanding needs to be taught more in Thai society. Government and religious institutions should be concerned about religion studies. And interfaith dialogue is a tool for every religion to share knowledge with each other.

Abstract: การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพและปริมาณโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความแตกต่างระหว่างมุสลิม ในกรุงเทพมหานครและมุสลิมในภาคใต้และเพื่อศึกษาเหตุการณ์ความไม่สงบในเขตชายแดนภาคใต้มี ผลกระทบทางด้านสังคม, ร่างกายและจิตใจอย่างไรต่อมุสลิมในกรุงเทพมหานคร และเพื่อช่วยให้ผู้ที่ไม่ใช่ มุสลิมได้เรียนรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามมากขึ้น ดังนั้นในการศึกษานี้จึงได้อธิบายเกี่ยวกับบริบททางด้าน ประวัติศาสตร์ของมุสลิมในประเทศไทยและวัฒนธรรมและอารยธรรมอิสลาม การวิจัยภาคสนามศึกษาถูก ออกแบบเพื่อการวิจัยเชิงคุณภาพและปริมาณ ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ใช้เป็นข้อมูลหลัก โดยการสัมภาษณ์ มุสลิมจำนวน 20 คน และผู้ไม่ใช่มุสลิมจำนวน 10 คน การเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามใช้เป็นข้อมูลรอง เพื่อ สำรวจทัศนคติของมุสลิมและผู้ไม่ใช่มุสลิม โดยเก็บแบบสอบถาม 200 คนที่เป็นมุสลิม 100 คนที่เป็น พุทธศาสนิกชน และ 100 คนที่เป็นคริสต์ศาสนิกชน การรวบรวมข้อมูลทั้งด้านการสัมภาษณ์และการเก็บ แบบสอบถามในระหว่างเดือนพฤษภาคม ปี 2550 ถึง เดือนเมษายน 2551 และถูกวิเคราะห์ด้วยการพรรณนา และสถิติพรรณนา ผลจากการสัมภาษณ์ปรากฏว่าความไม่สงบที่เกิดขึ้นแม้ว่าจะเกิดขึ้นในเขตชายแดนภาคใต้ แต่ผลกระทบ ของเหตุการณ์นี้มีผลทางด้านสังคม ร่างกาย และจิตใจต่อมุสลิมในเขตกรุงเทพมหานครเช่นเดียวกับกับมุสลิม ทั่วประเทศ ทัศนคติในเชิงลบเป็นเหตุผลอันสำคัญและมีผลอย่างมากในด้านจิตใจต่อมุสลิมทั้งหลาย เหตุการณ์ เหล่านี้ทำให้ภาพของศาสนาอิสลามถูกมองในเชิงลบ จากการวิจัยในภาคสนามพบว่า 46.4% ของมุสลิมใน กรุงเทพฯเห็นด้วยว่าเขาได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบและ 59.6%ของมุสลิมเห็นด้วยว่ามุสลิมทั่ว ประเทศต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน 42.3%ของมุสลิมเห็นด้วยว่าการดำเนินชีวิตในกรุงเทพฯมีความระมัดระวัง มากขึ้นภายหลังเหตุการณ์ที่ความสงบในเขตชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทยนั้น มาจากการขาดความรู้ ความเข้าใจ ดังนั้น สังคมไทยควรได้รับการศึกษาเกี่ยวกับอิสลามมากขึ้น และควรมีการ จัดการเรียนการสอนในโรงเรียน เหตุการณ์ความไม่สงบเป็นเหมือนการปลุกให้สังคมไทยตื่นตัวและมีความ สร้างสังคมที่มีการเอาใจใส่ซึ่งกับและกัน ผู้คนควรจะใส่ใจกับคุณค่าแห่งชีวิต การวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า ความเข้าใจศาสนาเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรได้รับการศึกษามากขึ้นในสังคมไทย รัฐบาลและสถาบันทางศาสนาควรให้ความใส่ใจเกี่ยวกับการศึกษาศาสนา และการทำเสวนาระหว่างศาสนาจะ เป็นเครื่องมือที่ทำให้ทุกศาสนาได้แบ่งปันองค์ความรู้ต่อกัน

Mahidol University

Address: NAKHONPATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Pagorn Singsuriya

Role: Thesis Advisors

Created: 2008

Modified: 2553-06-21

Issued: 2010-06-21

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH D213i 2008

eng

Spatial: Bangkok

Spatial: Thailand Southern

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Comparative Religion

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4737795.pdf	1.53 MB	56	2023-03-08 14:58:45

ใช้เวลา

0.277972 วินาที