The Effects of probiotic herbal solution on porcine peripheral blood lymphocyte subsets and monocytes

ผลของน้ำสมุนไพรและโปรไบโอติกกับการตอบสนองของ lymphocyte subsets และ monocyte ในเลือดสุกร

Name: Nuttha Sirijaroenchai

LCSH: Swine -- Growth

MeSH: Flow Cytometry

MeSH: Monocytes

MeSH: Probiotics

Abstract: Presently, because of the increasing use of antimicrobial drugs in the pig industry, drug residues have begun to affect human health more and more. The use of natural products for animal immunomodulation may minimize this problem. This study was performed in nursery pigs to study the effects of probiotic herbal solution on growth performance (average weight daily gain (ADG), feed intake (FI) and feed conversion ratio (FCR)), morbidity rate, frequency of antimicrobial usage, hematology and immune cells (lymphocyte subsets and monocytes by flow cytometry, including percentage of CD3+, CD3+CD4+ and CD3+CD8+ lymphocytes, CD4+/CD8+and SWC3a+Monocytes). Thirty clinically healthy weaning pigs with a body weight of 8.5 ± 0.4 kg, and 21-28 days of age, were divided into 5 groups, with 6 pigs in each group. Group 1 received placebo; group 2 received sugar cane solution; group 3 received fermented sugar cane solution; group 4 received sugar cane plus powder herb solution; and group 5 received fermented sugar cane plus powder herb solution (probiotic herbal solution). All groups received the preparation at 7.00 a.m., once every morning for 41 days. Body weights were recorded before the experiment (day 0) and each week of the experiment. Blood was collected at days 0, 14 and 35 for hematology and immune cells analysis. Feed intakes and morbidity were observed and recorded every day. Furthermore, the level of lactic acid bacteria in the preparations was determined. There were no significant differences in ADG, FI, FCR, morbidity rate and antimicrobial drug usage among groups. Hematology parameters were not significantly different (p-value > 0.05) among groups except for the platelet counts and numbers of monocytes. Furthermore, leukocytosis and lymphocytosis were presented in all groups. At day 35, percentages of CD3+ and CD8+ T-cell lymphocytes in all groups were higher but percentages of CD4+ T-cell lymphocytes in all groups were lower, compared with day 0, subsequently, CD4+/CD8+ ratios were very low. This indicated that cytotoxic T-cell lymphocytes were stimulated more than helper T-cell lymphocytes. This may be a result of immune response against swine fever vaccine or virus infection. At day 35, the percentages of SWC3a+Monocytes of all groups were lower, compared with day 0. This may be because peripheral blood monocytes changed to tissue macrophage for non-specific immune response. Lactic acid bacterial counts were much lower than the recommended dose. These findings suggest that the probiotic herbal solution may not be useful as an immunomodulator for nursery pigs in the field because it did not minimize morbidity rate and antimicrobial drug usage.

Abstract: อุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรในปัจจุบันมีการใช้ยาต้านจุลชีพกันมาก ทำให้เกิดปัญหายาตกค้างในเนื้อสัตว์ และเป็นอันตรายต่อมนุษย์ การใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อปรับสมดุลภูมิคุ้มกันสัตว์ ให้สัตว์มีภูมิคุ้มกันที่ดี อาจจะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ จึงได้ทำการศึกษาน้ำสมุนไพร และ โปรไบโอติกในสุกรอนุบาลในฟาร์ม ต่อการ เจริญเติบโต (การเพิ่มขึ้นของน้ำ หนักตัวเฉลี่ยต่อวัน ปริมาณอาหารที่กินได้ อัตราการแลกเนื้อ) อัตราการป่วย ความถี่การใช้ยาต้านจุลชีพ ค่าโลหิตวิทยา และ ค่าเซลล์ภูมิคุ้มกัน ( lymphocyte subset และ monocytes ได้แก่ เปอร์เซ็นต์ CD3+ CD3+CD4+ และ CD3+CD8+ lymphocytes อัตราส่วน CD4+/CD8+ และ เปอร์เซ็นต์ SWC3aMonocyte โดย Flow cytometry ใช้ลูกสุกรหย่านมที่อายุ 21-28 วัน มีสุขภาพดี จำนวน 30 ตัว หนัก 8.5 ± 0.4 กิโลกรัมแบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ตัว กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มควบคุมให้กินยาหลอก (น้ำเปล่า) กลุ่มที่ 2 ให้กินสารละลายน้ำตาลทรายแดงที่ เตรียมใหม่ กลุ่มที่ 3 ให้ กินสารละลายน้ำตาลทรายแดงหมักไว้ 3 วัน กลุ่มที่ 4 ให้กินสารละลายน้ำตาลแดง ผสม ผงสมุนไพรเตรียม ใหม่ กลุ่มที่ 5 ให้กินสารละลายน้ำตาลแดง ผสมผงสมุนไพรหมักไว้ 3 วัน ให้กินทุกวัน วันละ 1 ครั้ง เวลา 7.00 น. แล้วชั่งน้ำหนักทุกสัปดาห์ เก็บตัวอย่างเลือดในวันที่ 0 14 และ 35 ของการทดลอง เพื่อตรวจค่า โลหิตวิทยา และค่าเซลล์ภูมิคุ้มกัน บันทึกปริมาณอาหารที่กิน และการเจ็บป่วยทุกวัน และตรวจหาปริมาณแลก ติกแอซิดแบคทีเรียในสารเหลวดังกล่าว ผลการทดลองพบว่า ลูกสุกรทุกกลุ่ม มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นต่อวัน (ADG) ปริมาณอาหารที่กินได้ (FI) อัตราการแลกเนื้อ(FCR) อัตราการป่วย และความถี่การใช้ยาต้านจุลชีพไม่ต่างกัน ค่าทางโลหิตวิทยา ไม่แตกต่างกัน ยก เว้น platelets และ monocytes ต่างกันระหว่างกลุ่ม อย่างมีนัยสำคัญ (p-value < 0.05) นอกจากนี้พบ leukocytosis และ lymphocytosisในทุกกลุ่ม ในวันที่35 ของการทดลอง ทุกกลุ่มมี เปอร์เซ็นต์ CD3+ lymphocytes และCD3+ CD8+ T- cell lymphocytes สูงกว่า วันที่ 0 ของการทดลอง แต่ มี เปอร์เซ็นต์ CD3+CD4+ T- cell lymphocytes ต่ำกว่า ทำให้อัตราส่วน CD4+/CD8+ ต่ำมากในทุกกลุ่ม ซึ่งแสดงถึง cytotoxic T-cell lymphocyte ถูกกระตุ้นการทำงานได้ดีกว่า helper T-cell lymphocytes ทั้งนี้อาจเป็นผลจากลูกสุกรมีการตอบสนอง ทางภูมิคุ้มกันต่อการทำวัคซีนอหิวาต์สุกรหรือการติดเชื้อไวรัส สำหรับเปอร์เซ็นต์ SWC3aMonocytes ที่ต่ำลงในทุก กลุ่มในวันที่ 35 นั้นอาจเนื่องจาก monocytes ในกระแสเลือดเปลี่ยนไปทำหน้าที่ macrophages ในเนื้อเยื่อ เพื่อตอบสนอง ภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะ ปริมาณแลคติกแอซิด แบคทีเรียที่ตรวจวัดพบว่ามีปริมาณต่ำกว่าปริมาณที่ใช้ได้ผล น้ำสมุนไพรและโปรไบโอติกอาจจะยังไม่เหมาะใช้เป็นสารปรับสมดุลภูมิคุ้มกันในลูกสุกรอนุบาลใน ฟาร์ม เพราะไม่สามารถลดอัตราการเจ็บป่วยและการใช้ยาต้านจุลชีพในลูกสุกรอนุบาลที่ทดลองในฟาร์ม

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Songsak srianujata

Role: Thesis Advisors

Created: 2007

Modified: 2553-06-19

Issued: 2010-06-09

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH N976e 2007

eng

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Nutrition

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4536919.pdf	1.82 MB	60	2021-10-07 12:16:09

ใช้เวลา

0.233211 วินาที