Performance effectiveness of dental nurse in primary care unit in the North-Eastern part of Thailand

ประสิทธิผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขในศูนย์ชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Name: Saowaluk Wijaranaphiti

LCSH: Employee motivation

LCSH: Job stress

LCSH: Stress (Psychology)

Abstract: This study was a cross–sectional survey research with the aim of finding out the relationships between job characteristics, motivation, role stress and performance effectiveness of dental nurses in primary care units in the northeastern part of Thailand. Dental nurses who were working in primary care units were taken as the study samples. Data were collected by using questionnaires. Pearson’s Product Moment Correlation was applied to test between independent and dependent variables. Results showed that the dental nurses had high performance effectiveness. Most of them understood about helping others. Dental nurses had to do their work by various means, which differed from old ways. They should not do too much work because they had stress caused by ‘Role conflict between internal standard.’ They needed motivation on ‘Self actualization’ the most because they wanted to exploit their abilities and skills to the full potential. Most of their job characteristics were concerned with ‘Dealing with others’ because their work was about giving service and dealing with community. However, ‘Motivating Potential’ was at a low level. This then negatively affected the quality of work, work satisfaction and performance effectiveness. The analysis showed that there was no relationship between job characteristics and performance effectiveness as performing dental task needed ‘Dealing with others’ and ‘Task significance.’ There was a positive relationship between motivation and performance effectiveness at a low level. It was found that performance effectiveness depended upon ‘Belongingness, Affiliation, Acceptance (Social Needs)’ and ‘Self Actualization.’ Role stress was not related to performance effectiveness; however, when the dental nurse had more stress caused by role conflict—internal standard, several roles and their performance effectiveness was reduced. From the research result, it is necessary to help construct networks of dental tasks and other public health tasks in obvious forms, for some feedback from agents. Work allocation should be precisely arranged and professional skill should be determined responsibility. Security and safety, professional advancement and participating in planning for acceptance from others should be promoted. Lastly, recruiting dental nurses with proper characteristics in primary care units in the northeastern part of Thailand is crucial as well.

Abstract: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณด้วยวิธีการสำมะโนแบบตัดขวาง (Cross – Sectional Survey Research) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรคุณลักษณะงาน แรงจูงใจในการทำงาน ความเครียดในบทบาท และประสิทธิผลการ ปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขในศูนย์สุขภาพชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มประชากรที่ใช้วิจัยเป็น เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในศูนย์สุขภาพชุมชน รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ใช้สถิติ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียรสันบอกความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระและตัวแปรตาม ผลการวิจัย พบว่าเจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข มีประสิทธิผลการปฏิบัติงานในด้านการให้บริการมากที่สุด ส่วนใหญ่ตระหนักในการช่วยเหลือผู้อื่น เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขต้องทำงานในแบบและวิธีการที่แตกต่างจากที่เคยทำ ทำงานที่ไม่ควรทำหลายอย่าง จึงมีความเครียดจากความขัดแย้งในบทบาทด้านมาตรฐานภายในตัวบุคคลมากที่สุด เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขต้องการแรงจูงใจในด้านความต้องการความสมหวังในชีวิตมากที่สุดเพราะต้องการใช้ความ สามารถ ทักษะ และศักยภาพอย่างเต็มที่ คุณลักษณะงานของเจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข ส่วนใหญ่ต้องทำงานเกี่ยวข้อง กับผู้อื่น เพราะงานทันตสาธารณสุขเป็นงานบริการและเป็นงานในชุมชน แต่เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขมีศักยภาพการ จูงใจให้ทำงานอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะทำให้คุณภาพงาน ความพึงพอใจในงาน และประสิทธิผลการปฏิบัติงานต่ำ จากการทดสอบสมมติฐาน พบว่าคุณลักษณะงานไม่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลการปฏิบัติงาน เมื่อ ทดสอบตัวแปรย่อยพบว่า ประสิทธิผลการปฏิบัติงานมีความสัมพันธ์กับ คุณลักษณะงานด้านการทำงานร่วมกับผู้อื่น และ ความสำคัญของงาน ส่วนแรงจูงใจในการทำงานมีความสัมพันธ์เชิงบวกระดับต่ำกับประสิทธิผลการปฏิบัติงาน พบว่า แรงจูงใจในด้านความต้องการทางสังคม และความต้องการความสมหวังในชีวิต มีผลต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงาน ความเครียดในบทบาทการทำงานไม่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลการปฏิบัติงาน เมื่อทดสอบตัวแปรย่อย พบว่า ประสิทธิผลการปฏิบัติงานจะเพิ่มขึ้นเมื่อความเครียดจากความขัดแย้งในบทบาทด้านมาตรฐานในตัวบุคคล และด้าน การมีหลายบทบาทในบุคคลคนเดียวกัน ลดลง ข้อเสนอแนะจากการวิจัย มีความจำเป็นที่จะต้องมีการเชื่อมโยงงานทันตสาธารณสุขกับงานสาธารณสุขอื่น ให้เป็นรูปธรรมชัดเจน โดยเฉพาะการได้รับข้อมูลสะท้อนกลับจากผู้บังคับบัญชา การแบ่งงานที่ชัดเจน และการกำหนด ความรับผิดชอบที่เหมาะสม ส่งเสริมให้มีความมั่นคงปลอดภัยในการทำงาน ความก้าวหน้าในวิชาชีพ การมีส่วนร่วม ในการวางแผนงาน เพื่อได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน และการสรรหา คัดเลือกเจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขที่มี บุคลิกภาพที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในศูนย์สุขภาพ ชุมชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Bhusita Intaraprasong

Role: Thesis Advisors

Created: 2006

Modified: 2553-06-23

Issued: 2010-06-05

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740477747

CallNumber: TH S239p 2006

eng

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Health Administration

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4536049.pdf	3.01 MB	106	2025-01-11 11:58:36

ใช้เวลา

-0.706142 วินาที