A musicological analysis of Thai-advertising jingles during 1989-2000

เพลงประกอบภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ของไทยระหว่างปี 2532-2543

Name: Suvaporn Atthasook

LCSH: Advertising -- Thailand

LCSH: Musical analysis -- Thailand

Abstract: The research objectives were to study firstly the creative thinking process of advertisements and jingles on TV, and secondly the forms, characteristics, and content of TV commercial jingles, during 1989-2000. Data collection was achieved through in-depth interviews with commercially-involved people and associated parties, and through a related literature review. The study found that the creative thinking process of advertisements was often carried out by brainstorming. Basically, the creation of each commercial had to conform to the direction specified by the product owner, which included 1) target group, 2) marketing objectives, 3) advertising objectives, 4) product positioning, and 5) unique selling point. As for the creative thinking process of jingles, the study found that most of the composers composed jingles in accordance with the direction specified by the advertising agency. However, the songs composed could be categorized in term of inspiration as follows: 1) the songs composed without inspiration, 2) the songs composed with personal inspiration, and 3) the songs composed with inspiration together with other factors. The study of forms, characteristics, and content of commercial jingles during 1989-2000 found that the musical characteristics were not complicated, that the melody was easily caught by the ears, and that the lyrics contained poetic and colloquial diction. Additionally, figurative language was also found in the lyrics, this included reduplication, alliteration, simile, metaphor, and symbolization. The study of the 12 sample jingle contents found that the contents concerned 2 topics: 1) the contents used for providing details of the product and for persuading the consumer/target group to buy or use the service of the product, and 2) the contents describing, explaining events to create emotion in conformity with the commercial story without mentioning the product in the lyrics. It is concluded that the jingles awarded the Best Jingle Award during 1989-2000 have the following important characteristics as follows. 1) The jingle was in line with the advertising objective and had content and musical characteristics that conformed to the advertising pictures. 2) The jingle was able to present all contents within the fixed time frame. 3) The jingle contained simple and straightforward language. 4)The jingle contained simple musical characteristics; its lyrics and melody were easy to remember. 5) The jingle contained informal language.

Abstract: เพลงประกอบภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ของไทยระหว่างปี 2532-2543 เป็นงานวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ ในการศึกษาอยู่ 2 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษากระบวนการคิดสร้างสรรค์งานโฆษณาและเพลงโฆษณา 2) เพื่อศึกษารูปแบบ ลักษณะ และเนื้อหาในเพลงโฆษณา ช่วงระหว่างปี 2532-2543 โดยใช้วิธีการเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึก จากบุคคล ในวงการโฆษณาและผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเก็บข้อมูลจากเอกสาร จากการศึกษาพบว่า กระบวนการคิดสร้างสรรค์งานโฆษณานั้น มักปฏิบัติงานและระดมสมองร่วมกันเป็น กลุ่ม โดยการสร้างสรรค์งานโฆษณาแต่ละชิ้นต้องคำนึงถึงแนวทางที่บริษัทเจ้าของสินค้าได้กำหนดไว้เป็นหลักอันได้แก่ 1) กลุ่มเป้าหมาย 2) วัตถุประสงค์ทางการตลาด 3) วัตถุประสงค์ทางการโฆษณา 4) จุดยืนของสินค้า และ 5) จุดขายของ สินค้า ในส่วนของกระบวนการคิดสร้างสรรค์เพลงโฆษณานั้น จากการศึกษาพบว่า ผู้ประพันธ์เพลงส่วนใหญ่จะประพันธ์ เพลงให้สอดคล้องกับแนวทางที่บริษัทโฆษณากำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม จากการวิจัย สามารถจำแนกเรื่องของแรงบันดาล ใจไว้ได้ 3 ลักษณะ คือ 1) เพลงที่ประพันธ์โดยไม่อาศัยแรงบันดาลใจ 2) เพลงที่ประพันธ์โดยอาศัยแรงบันดาลใจเฉพาะตัว และ 3) เพลงที่ประพันธ์โดยอาศัยแรงบันดาลใจผสมกับปัจจัยแง่อื่นๆ จากการศึกษา รูปแบบ ลักษณะ และเนื้อหาในเพลงโฆษณา ช่วงระหว่างปี 2532-2543 นี้ พบว่า มีลักษณะทาง ดนตรีที่ไม่ซับซ้อน ใช้ท่วงทำนองที่ฟังง่ายและมีลักษณะของการใช้ภาษาคำกลอน และ ภาษาพูด อยู่ในเนื้อร้อง นอกจากนี้ ยังมีประเภทของภาษาภาพพจน์ปรากฏอยู่ในเนื้อร้อง ได้แก่ การซ้ำคำ การเล่นเสียง การอุปมา การอุปลักษณ์ และ การใช้ สัญลักษณ์ ในส่วนของเนื้อหา จากการศึกษากลุ่มตัวอย่างทั้ง 12 เพลง พบว่า มีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 2 ประเด็น คือ 1) เนื้อหา ของเพลงโฆษณาที่เป็นการให้รายละเอียดของสินค้า และ เชิญชวนให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ซื้อหรือใช้บริการของสินค้า และ 2) เนื้อหาของเพลงที่เป็นการพรรณนา อธิบายถึงเรื่องราวเหตุการณ์ เพื่อให้ได้อารมณ์สอดคล้องกับเรื่องราวในภาพ โฆษณา โดยไม่มีลักษณะของสินค้าอยู่ในเนื้อร้อง อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาตามวัตถุประสงค์ของงานวิจัยชิ้นนี้ สรุปได้ว่า เพลงโฆษณาที่ได้รับรางวัลเพลง ประกอบภาพยนตร์โฆษณายอดเยี่ยมระหว่างปี 2532-2543 นั้น มีลักษณะสำคัญดังนี้ 1) เพลงโฆษณาต้องตอบรับกับวัตถุประสงค์ทางการโฆษณา และมีเนื้อหา และลักษณะของดนตรีที่สอด คล้องกับภาพโฆษณา 2) สามารถสื่อสารเนื้อหาที่นำเสนอทั้งหมดได้ในระยะเวลาที่กำหนด 3) มีลักษณะการใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงประเด็น 4) มีลักษณะทางดนตรีที่ไม่ซับซ้อน เนื้อร้อง และทำนองสามารถจดจำได้ง่าย 5) ใช้ภาษาที่ไม่เป็นทางการ

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Anak Charanyananda

Role: Thesis Advisors

Created: 2004

Modified: 2553-03-24

Issued: 2010-02-15

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740450377

CallNumber: TH S967ms 2004

eng

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Music

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4237129.pdf	8.92 MB	210	2024-08-17 15:40:19

ใช้เวลา

0.286371 วินาที