An exhibition design proposal for grade 3 visually handicapped children from the Bangkok School for the Blind : a case study of the natural and environmental room, Children's Discovery museum, Bangkok

แนวทางการจัดนิทรรศการเพื่อเด็กที่มีความบกพร่องทางสายตาระดับประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพมหานคร : กรณีศึกษาเฉพาะห้องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิพิธภัณฑ์เด็ก

Name: Wasana Chokkriengkrai

keyword: Bangkok School for the Blind

LCSH: Children with visual disabilities -- Education, Elementary

LCSH: Children with visual disabilities -- Exhibitions

LCSH: Teaching -- Aids and devices

Abstract: Museums are important places of non-formal education, providing life-long learning and sociocultural learning. Museums should be accessible to all people, including the visually handicapped. Grade 3 Science teachers from the Bangkok School for the Blind use the Children’s Discovery Room as a learning resource because it has the potential to stimulate creativity and learning. At the school, these teachers are accustomed to using various media such as animal miniature models, cassette tapes, or walks around the school so the children can touch real plants and animals. However, the museum does not provide similar experiences. For visually handicapped children, the museum presents problems with inappropriate media and exhibition design, and the absence of a teaching kit designed for their learning style. This study aims to provide solutions to these problems by designing an exhibition suitable for these children, incorporating appropriate media and a computer-based teaching kit. This was a qualitative research, which used field research and data collection. Observation and in-depth interviews were used in this research. The key informants were teachers at the Bangkok School for the Blind, Ratchasuda College officers, workers in the Children’s Discovery Museum, and visually handicapped children. In addition, data was collected about exhibition design for the visually handicapped. The design had to be concerned with safety and with creating a lifelike atmosphere. Lifelike and miniature models were found to be useful for the visually handicapped and suitable for their learning style. The exhibition content had to relate to the subjects they were learning. The proposed design incorporates four zones which respond to these needs: 1) Introduction zone 2) Small-sized animal kingdom 3) Large-sized animal kingdom 4) Aquatic animals and plants. In addition, the DAISY program and Tactile Image by Tactile Image Enhancer machine was used to produce an accompanying teaching kit that teachers and children could use before going to the museum to enhance their experience. It is recommended that museums consider this design and incorporate aspects in future exhibitions.

Abstract: พิพิธภัณฑ์ถือเป็นการศึกษานอกระบบประเภทหนี่ง และยังเป็นแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเฉพาะการเรียนรู้ทางด้านสังคมและวัฒนธรรมในฐานะเป็นจุดรวมทางวัฒนธรรมและเป็นแหล่งข้อมูลทางวิชาการ พิพิธภัณฑ์จึงควรคำนึงถึงหน้าที่การให้บริการทางด้านการศึกษาให้กับคนทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัยซึ่งรวมถึงกลุ่มคนพิการทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้พิการทางด้านร่างกาย ผู้พิการที่มีความบกพร่องทางสายตา การเรียนการสอนในส่วนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ของเด็กที่มีความบกพร่องทางสายตาระดับประถมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพมหานครนั้น ครูผู้สอนได้ใช้พิพิธภัณฑ์เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือช่วยสอนการสร้างเสริมประสบการณ์ในเรื่องของธรรมชาติรอบตัวให้กับเด็กในส่วนของห้องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายในบริเวณโรงเรียนแล้วนั้น ในส่วนของห้องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิพิธภัณฑ์เด็ก ทางพิพิธภัณฑ์ได้คำนึงถึงผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตาโดยจัดป้ายอักษรเบรลล์ไว้บริการ การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพที่ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูภาคสนาม ซึ่งประกอบไปด้วยการสังเกตการณืและการสัมภาษณ์บุคคลสำคัญ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็ที่มีความบกพร่องทางสายตาเจ้าหน้าที่ผลิตสื่อ เจ้าหน้าที่ทางพิพิธภัณฑ์เด็ก รวมถึงเด็กที่มีความบกพร่องทางสายตาระดับประถมปีที่ 3 ตั้งแนวคำถามและวิธีการสัมภาษณืร่วมกับเอกสารและงานวิจัยเกี่ยวข้องกับเด็กที่มีความบกพร่องทางสายตา และการออกแบบนิทรรศการสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตา ผลการวิจัยพบว้าการออกแบบนิทรรศการในห้องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเด็กที่มีความบกพร่องทางสายตาพบว่าพิพิธภัณฑ์ควรคำนึงถึงการจัดแสดงนิทรรศการที่ฝกล้เคียงกับสภาพธรรมชาติให้มากที่สุด และคำนึงถึงความปลอดภัยการสัมผัสจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เด็เกิดการเรียนรู้ได้มากที่สุด การจัดทำแนวทางการนเทรรศการเพื่อเด็กที่มีความบกพร่องทางสายตาและสื่อการสอนสำหรับครูผู้สอน โดยนำข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมจากเอกสารและการสัมภาษณ์ นำมารวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาจัดเป็นรูแบบและเนื้อหานิทรรศการ โดยจัดแบ่งห้องนิทรรศการออกเป็น 4 โซนหลักคือ 1) ส่วนปฐมนิเทศก์ 2) ส่วนจับคลำสัตว์เล็ก 3) วนจับคลำสัตว์ใหญ่ 4) ส่วนพืชน้ำะสัตว์น้ำ นอกจากนี้ยังศึกษาแนวทางในโปรเกรมเดซี่ที่ใช้ในการผลิต ซี ด๊ พร้อมขั้นตอนการผลิตแผ่นภาพนูนด้วยเครื่องภาพนูน (Tactile Image Enhancer) เพื่อใช้ประกอบเป็นสื่อการเรียนการสอนสำหรับครู เนื้อหาการจัดแสดงควรเสริมกับการเรียนการสอนที่มีอยู่ในชั้นเรียนสำหรับสื่อการสอนสำหรับครูที่จัดทำในรูปแบบของ ซีดี รอม ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับนิทรรศการของพิพิธภัณฑ์และแผ่นภาพนูนนั้นครูควรนำมาศึกษร่วมกับเด็กนักเรียนก่อนที่จะไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Pranee Wongthes

Role: Thesis Advisors

Name: Apinya Buasuang

Role: Thesis Advisors

Name: Duangporn Kamnoonwatana

Role: Thesis Advisors

Created: 2003

Modified: 2556-11-14

Issued: 2010-01-04

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740438024

CallNumber: TH W312e 2003

eng

Spatial: Bangkok

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Cultural Studies

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4337005.pdf	8.52 MB	90	2022-05-04 00:43:40
2	4337005-eng.pdf	1.5 MB	18	2021-07-15 03:42:46
3	4337005-tha.pdf	1.47 MB	23	2022-05-04 00:46:28

ใช้เวลา

0.268256 วินาที