แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

ปัจจัยที่ทำให้ผู้ต้องขังเข้ารวมกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการ : ศึกษาเฉพาะกรณีเรือนจำกลางสมุทรปราการ
Factors Influencing Prisoners to Participate into Informal Group : A Case Study of the Prisoners of Samutprakarn Central Prison

ThaSH: เรือนจำกลางสมุทรปราการ
ThaSH: ทัณฑสถาน
ThaSH: นักโทษ
ThaSH: เรือนจำ
ThaSH: กลุ่มคน
ThaSH: พฤติกรรมรวมหมู่
Abstract: วิทยานิพนธ์เรื่องนี้ มีวัตถูประสงค์เพื่อสำรวจถึงปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลทำให้ผู้ต้องขังเข้ารวมกลุ่มกันอย่างไม่เป็นทางการ โดยได้กำหนดวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาถึง 1. ปัจจัยที่เป็นภูมิหลังโดยทั่วไป และที่เกี่ยวข้องกับการต้องโทษของผู้ต้องขัง 2. สภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำ เนื่องจากการปฏิบัติงานควบคุมกักขังผู้ต้องขัง 3. ปัจจัยที่เป็นความต้องการด้านร่างกายในเรื่องความต้องการปัจจัยการดำรงชีพที่จำเป็นต่อร่างกายของผู้ต้องขัง 4. ปัจจัยที่เป็นความต้องการด้านจิตใจของผู้ต้องขัง 5. ศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างภูมิหลังของผู้ต้องขัง ความต้องการปัจจัยการดำรงชีพที่จำเป็นต่อร่างกายความต้องการด้านจิตใจกับการเข้ารวมกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการของผู้ต้องขัง ผู้ศึกษาได้กำหนดสมมติฐานเพื่อการศึกษาไว้ 4 ประการ 1. ปัจจัยที่เป็นภูมิหลังทั่วไปของผู้ต้องขัง ได้แก่ อายุ การศึกษา สถานภาพการสมรส อาชีพเดิม มีความสัมพันธ์กับการเข้ารวมกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการ 2.ปัจจัยที่เป็นภูมิหลังเกี่ยวกับการต้องโทษของผู้ต้องขัง ได้แก่ ประเภทคดี ระยะเวลาการต้องโทษ จำนวนครั้งการต้องโทษ กิจกรรมที่เรือนจำมอบหมายให้รับผิดชอบ มีความสัมพันธ์กับการเข้ารวมกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการ 3.ความต้องการด้านร่างกายของผู้ต้องขังในเรื่อง ความต้องการปัจจัยการดำรงชีพที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ อาหารที่ชอบ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค สิ่งของเครื่องใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ฯลฯ 4.ความต้องการด้นจิตใจของผู้ต้องขังในเรื่อง ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย เป็นอิสระจากความกลัวเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำ ได้แก่ กลัวถูกทำร้าย กลัวถูกข่มขืน กลัวถูกขโมยทรัพย์สิน กลัวถูกผู้อื่นหลอกลวงเอาทรัพย์สิ่งของและความต้องการด้านจิตใจในเรื่อง ความต้องการความรัก เป็นที่ยอมรับของบุคคลอื่น เพื่อผ่อนคลายจากภาวะอึดอัด กังวลใจ เนื่องจากถูกบังคับให้อยู่แต่ภายในเรือนจำและต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานกฎระเบียบของเรือนจำอย่างเคร่งครัด มีความสัมพันธ์กับการเข้ารวมกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการ การวิเคราะห์ข้อมูลกระทำโดยการหาค่าความถี่(Frequency) ค่าร้อยละ(Percentage) ค่ามัชฌิมเลขคณิต ( X ) ค่าความแปรปรวน ( F-Test ) และค่าสัมประสิทธิ์สัมพันธ์ ของ ( Pearson ) การศึกษาครั้งนี้ ใช้กลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นผู้ต้องขังชายที่ถูกจองจำอยู่ในเรือนจำกลางสมุทรปราการมาแล้วตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปจำนวน 210 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือรวบรวมเครื่องมือ ผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติ สรุปได้ว่า 1.ผู้ต้องขังกลุ่มตัวอย่างส่วนมากเป็นผู้ที่อยู่ในวัยหนุ่ม ยังเป็นโสด มีการศึกษาต่ำ ประกอบอาชีพรับจ้างใช้แรงงานทั่วไป เป็นผู้กระทำผิดประเภทคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ มีกำหนดระยะเวลาต้องโทษไม่นานนักและต้องโทษครั้งนี้เป็นครั้งแรก เมื่ออยู่ภายในเรือนจำได้รับมอบหมายให้ทำงานใช้แรงงานรับจ้าง 2.กลุ่มตัวอย่างส่วนมากเห็นว่าการปฏิบัติตามกฎระเบียบของเรือนจำทำให้นำยารักษาโรคเข้ามาใช้ภายในเรือนจำทำได้ยากมาก และภายในเรือนจำมีเหตุการณ์ผู้ต้องขังระบายออกทางเพศด้วยการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองมากที่สุด ส่วนการระบายออกทางเพศที่แสดงถึงความวิปริตทางจิตใจ และมีปรากฏอยู่น้อยในสังคมภายนอกก็เกิดขึ้นภายในเรือนจำ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นแนวทางที่ทำให้ผู้ต้องขังรวมกลุ่มกันเช่น การร่วมเพศกับกระเทย และการร่มเพศกับชายที่ไม่ใช่กระเทยเป็นต้น ภายในเรือนจำมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น คือ การข่มขืน การทำร้ายร่างกาย การขโมยทรัพย์สินสิ่งของ และการหลอกลวงเพื่อเอาทรัพย์สินสิ่งของกัน แต่มีระดับการเกิดติดต่อกัน โดยผู้ต้องขังส่วนมากเห็นว่าเหตุการณ์ขโมยทรัพย์สินสิ่งของกันเกิดขึ้นค่อนข้างมาก ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างผู้ต้องขังกับเจ้าพนักงานเรือนจำนั้นเป็นไปในทางลบ กล่าวคือ เจ้าพนักงานในเรือนจำมักไม่ให้ความเป็นกันเองกับผู้ต้องขังและแสดงตนอยู่เหนือผู้ต้องขัง 3.ผู้ต้องขังกลุ่มตัวอย่างมีความต้องการเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค สิ่งของเครื่องใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก ฯลฯ ค่อนข้างมาก 4.ผู้ต้องขังมีความรู้สึกกลัวเหตุการณ์รุนแรงต่างๆที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำ คือ กลัวถูกทำร้าย กลัวถูกข่มขืน กลัวถูกขโมยทรัพย์สิน กลัวถูกผู้อื่นหลอกลวงเอาทรัพย์แต่มีความกลัวในระดับแตกต่างกัน คือผู้ต้องขังจำนวนมากกลัวเหตุการณ์ดังกล่าวแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และผู้ต้องขังจำนวนมาดเกิดความรู้สึกอึดอัดค่อนข้างมากและมาก เพราะถูกบังคับให้อยู่แต่ภายในเรือนจำ ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎของเรือนจำคำสั่งของเจ้าพนักงานอย่างเคร่งครัด ผู้ต้องขังส่วยมากได้เข้ารวมกลุ่มกับเพื่อน เพื่อต้องการผู้ช่วยปรับทุกข์ระบายความในใจซึ่งเป็นความต้องการด้านจิตใจ เมื่อพิจารณาถึงผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ผู้ต้องขังที่มีระดับการศึกษาต่ำมีแนวโน้มเข้ารวมกลุ่มสูงกว่าผู้ต้องขังที่มีระดับการศึกษาสูง ผู้ต้องขังที่มีกำหนอระยะเวลาการต้องโทษสูง มีแนวโน้มเข้ารวมกันสูงกว่าผู้ต้องขังที่มีกำหนดระยะเวลาการต้องโทษต่ำ ผู้ต้องขังที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานในหน่วยงานรับจ้าง มีแนวโน้มเข้ารวมกันสูงกว่าผู้ต้องขังที่ได้รับมอบหมายให้เข้าวิชาชีพตามหน่วยงานฝึกวิชาชีพ ผลจากการศึกษา ผู้ศึกษามีข้อเสนอแนะว่า ก.ข้อเสนอแนะในเชิงนโยบาย กรมราชทัณฑ์ควรจะส่งเสริมให้มีการนำเอาวิทยาการสมัยใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้ในกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ต้องขังให้เหมาะสมตามสภาพการณ์จริง ข. ข้อเสนอแนะในระดับปฏิบัติการ 1. เรือนจำควรส่งเสริมให้กลุ่มของผู้ต้องขังได้ประกอบกิจกรรมในทางสร้างสรรค์ โดยการนำเอากระบวนการกลุ่มมาใช้ประโยชน์ เช่น จัดกลุ่มพูดไพเราะ หรือกลุ่มจริงใจไม่หลอกลวง เป็นต้น 2. เจ้าหน้าที่ควรให้ความสนใจคอยสอดส่องพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องขังอย่างใกล้ชิด คอยแนะนำหรือห้ามปราม หากกลุ่มมีการดำเนินงานไปในแนวทางที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานของเรือนจำ เช่น เมื่อกลุ่มจะรวมตัวกันมุ่งก่อความไม่สงบเรียบร้อยหรือเมื่อเห็นว่ากลุ่มจะกลายเป็นแหล่งบ่มเพาะนิสัยการประกอบอาชญากรรม 3. ในเรือนจำที่มีผู้ต้องขังวัยหนุ่มอยู่มาก ควรมีกิจกรรมนันทนาการต่างๆ เช่น การกีฬา การดนตรี หรือบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมในรูปแบบต่างๆ เพื่อความผ่อนคลายทางเพศ 4. เรือนจำควรจัดสวัสดิการและกิจกรรมต่างๆ โดยมุ่งผลให้ผู้ต้องขังได้พึงพาอาศัยทุกรณีเพื่อจะมีส่วนร่วมในกระบวนการกลุ่มที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำ อันจะส่งเสริมให้เกิดผลดีต่อจุดมุ่งหมายการปฏิบัติงานของเรือนจำ 5. เรือนจำควรจัดสวัสดิการเพื่อให้ผู้ต้องขังได้พึ่งพาทางด้านจิตใจ เช่น ตั้งหน่วยงานทำหน้าที่ให้คำปรึกษา( counseling ) ค. ข้อเสนอแนะในการสำหรับการศึกษาขั้นต่อไป การศึกษาครั้งนี้มีข้อจำกัดบางประการ กล่าวคือ ผู้ต้องขังกลุ่มตัวอย่างที่ดำเนินการศึกษานั้น มีความคล้ายคลึงกันหลายประการ เช่น ระดับการศึกษา ประเภทคดี ประวัติการต้องโทษและช่วงเวลาเพื่อให้เกิดประโยชน์มากขึ้น การศึกษาครั้งต่อไป ควรจะศึกษาเรื่องดั่งกล่าวจากกลุ่มผู้ต้องขัง ซึ่งมีลักษณะแตกต่างไปจากกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ The purpose of this study is to investigate the factors influencing the informal participation of Prisoners. The objectives for this study: Aim at: 1)The factors concerning general background and the penalty of prisoners. 2)The environmental events in prison concerning the practice of correctional officers. 3)The factors concerning the basic needs of prisoners. 4)The factors concerning the mental needs of prisoners. 5)Studying the relation of prisoners’ background to basic needs and mental needs influencing the informal participation of prisoners. The hypothesis of this study can be categorized as: 1)Factors concerning general background eg. Age, educational background, marriage status, former occupation influencing the informal participation of prisoners. 2)Factors concerning penalty of prisoners, duration of sentence, frequency of penalty, activities assigned officers influencing the informal participation of prisoners. 3) Basic needs of prisoners eg. Favorite food, clothing medicament, consumer products (soap, toothpaste) influencing the informal participation. 4)Mental needs of prisoners. eg. Sense of security, sense of affection, sense of recognition, fearlessness of the violence occurring in the prison such as. Fear of being assaulted, fear of being draped, fear of theft, fear of being cheated by others, this psychological mechanism help to relive the prisoners’ Frustration drug to the regulations and rules of the prison. These mental needs influence the informal participation of prisoners. For analysis and interpreting the collected data, The researcher use frequency, percentage, means, F-test and pearsonian multi-factorial Co-efficience as mathematical procedure. The samples for this study are 210 male prisoners are sentenced at least six months imprisonment or more in the Samutprakan Central Prison. Questionnaires are utilized as tool to collect data. The conclusion for this study: 1)Most of the samples for this study are; male, low-educated, manual-labor, mostly charge with larceny and first-time sentenced. Most of them are assigned to work as manual-labor by correctional officers. 2)Most of the samples have ideas toward the situation in prison that because of tough rules and regulations, difficulties with medicament delivery take place among their relation. Masterbation appear common among prisoners to release their sexual drive. Sodomy, a kind of sexual deviation appears more prevalent than external society. Raping, theft duress, cheating are common violent phenomena in the prison. The interrelationship among the samples and correctional officers appears negative because of sense of authoritarianism of correctional officers toward the samples. 3)Consumer products (Soap, toothpaste, detergents). Are mostly stipulated by the samples. 4)Violent phenomeana which Irritate the samples are fear of being raped, fear of being assaulted, fear of theft, fear of being raped, fear of being assaulted, fear of theft, rear of being cheated. Strict rules and regulations effect negatively to the samples, Participation as social-interaction among the samples helps to release the sample’s frustration. The results for the hypothesis of this study. -The informal participation occurs among cow-educated prisoner more than well-educated prisoners. -The informal participation occurs among prisoners with long-term sentence imprisonment more than those with short-term imprisonment. -The informal participation occurs among prisoners with manual labor more than prisoner with draftsmanship. The researcher’s suggestion for this study. A. Suggestion for the policy of the Department of Correction. The Department of Correction should introduce innovations and current tecnologies to improve prisoner’s behavior and practical pattern of correctional officers in globerized phenomena . B. suggestion for practical level 1) The constructive activities among prisoners and group therapy eg. Sweet-words group, non-liar group, should be introduced by correctional officers. 2) Correctional officers should pay more attention to prisoners’ behavior. When correctional officers observe the tendency of unpleasant behavior of prisoners eg. Riot-forming act, that unpleasant behavior should be terminated and advised to improve by correctional officers. Punishment be force should not be introduced. 3) Recreational activities eg. Music, sport should be available to prisoners when routine task is finished. Up. In order to release prisoner’s frustration. 4) To raise prisoners’ standard of living, welfare and activities should be introduced in order to 5) Counseling department should be established in each prison in order to release prisoner’s frustration or tension Suggestion for continuing study: Some constraints for this study are the resemblance of the samples eg. Educational background criminal background, range of age. The variations of prisoners’ backgrounds should be sought for discernment.
Abstract: The purpose of this study is to investigate the factors influencing the informal participation of Prisoners. The objectives for this study: Aim at: 1)The factors concerning general background and the penalty of prisoners. 2)The environmental events in prison concerning the practice of correctional officers. 3)The factors concerning the basic needs of prisoners. 4)The factors concerning the mental needs of prisoners. 5)Studying the relation of prisoners’ background to basic needs and mental needs influencing the informal participation of prisoners. The hypothesis of this study can be categorized as: 1)Factors concerning general background eg. Age, educational background, marriage status, former occupation influencing the informal participation of prisoners. 2)Factors concerning penalty of prisoners, duration of sentence, frequency of penalty, activities assigned officers influencing the informal participation of prisoners. 3) Basic needs of prisoners eg. Favorite food, clothing medicament, consumer products (soap, toothpaste) influencing the informal participation. 4)Mental needs of prisoners. eg. Sense of security, sense of affection, sense of recognition, fearlessness of the violence occurring in the prison such as. Fear of being assaulted, fear of being draped, fear of theft, fear of being cheated by others, this psychological mechanism help to relive the prisoners’ Frustration drug to the regulations and rules of the prison. These mental needs influence the informal participation of prisoners. For analysis and interpreting the collected data, The researcher use frequency, percentage, means, F-test and pearsonian multi-factorial Co-efficience as mathematical procedure. The samples for this study are 210 male prisoners are sentenced at least six months imprisonment or more in the Samutprakan Central Prison. Questionnaires are utilized as tool to collect data. The conclusion for this study: 1)Most of the samples for this study are; male, low-educated, manual-labor, mostly charge with larceny and first-time sentenced. Most of them are assigned to work as manual-labor by correctional officers. 2)Most of the samples have ideas toward the situation in prison that because of tough rules and regulations, difficulties with medicament delivery take place among their relation. Masterbation appear common among prisoners to release their sexual drive. Sodomy, a kind of sexual deviation appears more prevalent than external society. Raping, theft duress, cheating are common violent phenomena in the prison. The interrelationship among the samples and correctional officers appears negative because of sense of authoritarianism of correctional officers toward the samples. 3)Consumer products (Soap, toothpaste, detergents). Are mostly stipulated by the samples. 4)Violent phenomeana which Irritate the samples are fear of being raped, fear of being assaulted, fear of theft, fear of being raped, fear of being assaulted, fear of theft, rear of being cheated. Strict rules and regulations effect negatively to the samples, Participation as social-interaction among the samples helps to release the sample’s frustration. The results for the hypothesis of this study. -The informal participation occurs among cow-educated prisoner more than well-educated prisoners. -The informal participation occurs among prisoners with long-term sentence imprisonment more than those with short-term imprisonment. -The informal participation occurs among prisoners with manual labor more than prisoner with draftsmanship. The researcher’s suggestion for this study. A. Suggestion for the policy of the Department of Correction. The Department of Correction should introduce innovations and current tecnologies to improve prisoner’s behavior and practical pattern of correctional officers in globerized phenomena . B. suggestion for practical level 1) The constructive activities among prisoners and group therapy eg. Sweet-words group, non-liar group, should be introduced by correctional officers. 2) Correctional officers should pay more attention to prisoners’ behavior. When correctional officers observe the tendency of unpleasant behavior of prisoners eg. Riot-forming act, that unpleasant behavior should be terminated and advised to improve by correctional officers. Punishment be force should not be introduced. 3) Recreational activities eg. Music, sport should be available to prisoners when routine task is finished. Up. In order to release prisoner’s frustration. 4) To raise prisoners’ standard of living, welfare and activities should be introduced in order to 5) Counseling department should be established in each prison in order to release prisoner’s frustration or tension Suggestion for continuing study: Some constraints for this study are the resemblance of the samples eg. Educational background criminal background, range of age. The variations of prisoners’ backgrounds should be sought for discernment.
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ. ศูนย์บรรณสารสนเทศ
Address: สมุทรปราการ
Email: cenoflb@hcu.ac.th
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Created: 2539
Modified: 2022-01-28
Issued: 2551-11-11
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
HV9800.55 ส826ป 2539
tha
Spatial: ไทย
©copyrights มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 abstract.pdf 645.96 KB29 2022-05-02 15:42:41
2 tableofcontent.pdf 210.72 KB28 2022-05-02 15:43:22
3 chaphter1.pdf 510.93 KB41 2022-05-02 15:43:31
4 chaphter2.pdf 3.49 MB66 2022-05-02 15:43:42
5 chaphter3.pdf 656.09 KB37 2022-05-02 15:43:52
6 chaphter4.pdf 1.4 MB40 2022-05-02 15:44:01
7 chaphter5.pdf 1.24 MB39 2022-05-02 15:44:11
8 Reference.pdf 1.07 MB44 2022-05-02 15:44:19
ใช้เวลา
0.080212 วินาที

ขัตติยา กรรณสูต
Title Creator Type and Date Create
การพัฒนานโยบายเกี่ยวกับชุมชนแออัด
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
ปราณี พนมเริงไชย.
วิทยานิพนธ์/Thesis
การประเมินผลโครงการนันทนาการเด็ก ณ สถานฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิง บ้านปราณี
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
แม้นเดือน เอี่ยมบรรณพงษ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การประเมินผลโครงการพัฒนาการให้บริการตรวจสุขภาพเด็กระยะที่ 2 (2531-2533) ใน 28 จังหวัด
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
ยุทธนา วิปุลากร
วิทยานิพนธ์/Thesis
องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในระดับปริญญาโทของนักศึกษาภาคพิเศษ กทม. คณะพัฒนาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
กุลวดี ตริยานนท์
วิทยานิพนธ์/Thesis
สตรีชนบทกับการเข้ารับบริการการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาสตรี
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
วาณี ทัพพะปุรณะ
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาการขายบริการทางเพศของเด็กและเยาวชนชายเร่ร่อน : ศึกษาเฉพาะกรณีสีลมและพัทยา
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
ทวีคูณ มาลยาภรณ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การยอมรับการใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในงานสอบสวนของพนักงานสอบสวน : ศึกษากรณีพนักงานสอบสวนระดับรองสารวัตรสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
สมญัติ คำปาละ
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาโครงสร้างหน่วยงานและการบริหารงานบุคคลของสถาบันการบินพลเรือน
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
วรินทร เลี่ยมนาค
วิทยานิพนธ์/Thesis
ผลกระทบจากการกำหนดพื้นที่สีเขียวต่อประชาชนบริเวณพื้นที่ด้านตะวันตกของกรุงเทพมหานคร
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
สุจิตรา ชโลดม
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเปรียบเทียบการบริหารงานบุคลากรสาธารณสุขระดับจังหวัดและระดับอำเภอในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศึกษาเฉพาะกรณี : จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
ทิพยา เผื่อนพิภพ
วิทยานิพนธ์/Thesis
คุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานระดับกลางในอุตสาหกรรมขนาดกลางเขตกรุงเทพมหานคร
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
กัลยา ดิษเจริญ
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกระทำผิดซ้ำของเด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกลาง
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
อุษา คงสาย
วิทยานิพนธ์/Thesis
การบริหารงานในหน้าที่ของพนักงานกสิกรรมและพนักงานข้าวจังหวัดและอำเภอ
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
ผสม เพชรจำรัส
วิทยานิพนธ์/Thesis
การบริหารงานตามโครงการพัฒนาการศึกษาของกรมการฝึกหัดครู
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
สุริยัน นนทศักดิ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การบริหารงานระดับมัธยมศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
มนัส บ่างสมบูรณ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การบริหารงานเกี่ยวกับการสงเคราะห์ทหารและครอบครัวทหารที่ไปช่วยสหประชาชาติทำการรบ ณ ประเทศเกาหลี
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ขัตติยา กรรณสูต
ทิพย์สุดา ศรลัมพ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาความเข้มแข็งของชุมชนโดยผ่านกองทุนชุมชนเมืองในจังหวัดสมุทรปราการ
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ขัตติยา กรรณสูต
ขจรพัฒน์ เกษตระชนม์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การเตรียมตัวเข้าสู่วัยสูงอายุการมองเห็นคุณค่าตนเองและพฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุในชุมชนแออัดเขตกรุงเทพมหานคร
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ทิพาภรณ์ โพธิ์ถวิล;ขัตติยา กรรณสูต;เสาวนิจ รัตนวิจิตร
สุภาวดี สว่างจิตต์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความต้องการด้านกิจกรรมของผู้สูงอายุในจังหวัดสมุทรปราการ
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ขัตติยา กรรณสูต;สุภรัฐ หงษ์มณี;นิภา ส.ตุมรสุนทร
แสงเดือน มุสิกรรมณี
วิทยานิพนธ์/Thesis
สัมพันธภาพในครอบครัวและการตัดสินใจเข้ารับการสงเคราะห์ในสถานสงเคราะห์ : กรณีศึกษาสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางละมุง จังหวัดชลบุรีและในพื้นที่ตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
สุภรัฐ หงษ์มณี;ขัตติยา กรรณสูต;ณัฏฐ์ษา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
อรนุช โล้อุนลุม
วิทยานิพนธ์/Thesis
การเตรียมตัวก่อนเกษียณของผู้สูงอายุในจังหวัดสมุทรปราการ
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ธัญญา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา;ขัตติยา กรรณสูตร;สุภรัฐ หงษ์มณี
ลลิลญา ลอยลม
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเป็นโสด รูปแบบการเป็นโสดและปัจจัยสนับสนุนการใช้ชีวิตโสด : ศึกษาเฉพาะสตรีโสดวัย 25-50 ปี ในกรุงเทพมหานคร
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ธัญญา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา;ขัตติยา กรรณสูต;สุพจน์ ธรรมา
ชัชทอง ธุระทอง
วิทยานิพนธ์/Thesis
คุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานรักษาความปลอดภัยศึกษาเฉพาะกรณี: พนักงานรักษาความปลอดภัยในบริษัทเอกชน
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
โชคชัย สุทธาเวศ;ขัตติยา กรรณสูต;สุภรัฐ หงษ์มณี
ธนวัฒน์ เรืองเดช
วิทยานิพนธ์/Thesis
บรรยากาศองค์การกับความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรโรงพยาบาลตำรวจ
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ทิพาภรณ์ โพธิ์ถวิล;ขัตติยา กรรณสูต;ธัญญา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
ธนพร จงวิทยาดี
วิทยานิพนธ์/Thesis
บทบาทผู้นำหญิงชายในงานสวัสดิการแรงงาน
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
โสภา อ่อนโอภาส;ขัตติยา กรรณสูต;จตุรงค์ บุณยรัตนสุนทร
จีรพร แผ้วกิ่ง
วิทยานิพนธ์/Thesis
เด็กเร่ร่อนกับการใช้ยาเสพติดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
เสาวนิจ นิจอนันต์ชัย;ขัตติยา กรรณสูต;ทิพาภรณ์ โพธิ์ถวิล
วันเพ็ญ อื้อฉาว
วิทยานิพนธ์/Thesis
อิทธิพลของครอบครัว ชุมชน สังคม และสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุในภาวะปกติในชุมชนแออัดกรุงเทพมหานคร
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
เสาวนิจ นิจอนันต์ชัย;ขัตติยา กรรณสูต;ณัฏฐ์ษา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ;นิภา ส.ตุมรสุนทร
มาลี สันติถิรศักดิ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการมีวินัยในตนเองของวัยรุ่น : ศึกษาเฉพาะลูกของข้าราชการตำรวจในกรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ธัญญา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา;ขัตติยา กรรณสูต;สุภรัฐ หงษ์มณี;นิภา ส.ตุมรสุนทร
ไชยา พรหมวิชิตกุล
วิทยานิพนธ์/Thesis
แนวทางการส่งเสริมอาชีพคนพิการ
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
จตุรงค์ บุญรัตนสุนทร;ขัตติยา กรรณสูต;ทิพาภรณ์ โพธิ์ถวิล
สุภรธรรม มงคลสวัสดิ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
คุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงานในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม : ศึกษาเปรียบเทียบในสถานประกอบการธุรกิจที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 9000 กับบริษัทที่ไม่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 9000
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
โชคชัย สุทธาเวศ;ธัญญา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา;ขัตติยา กรรณสูตร
บุบผา สุกแก้ว
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกระทำความผิดของผู้ต้องขังหญิงที่เป็นผู้ใช้แรงงาน : ศึกษาเฉพาะกรณีเรือนจำกลาง จังหวัดสมุทรปราการ
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
จตุรงค์ บุญรัตนสุนทร;ขัตติยา กรรณสูต;โชคชัย สุทธาเวศ
ชัยพร บุญเจริญ
วิทยานิพนธ์/Thesis
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของประชาชนในเขตชั้นนอกของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล : ด้านการมีส่วนร่วมทางการเมือง และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ขัตติยา กรรณสูต;จตุรงค์ บุณยรัตนสุนทร
อารีรัตน์ วชิรเสรีชัย
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความพึงพอใจในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน : ศึกษาเฉพาะกรณีในเขตจังหวัดสมุทรปราการ
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
สุภรัฐ หงษ์มณี;ขัตติยา กรรณสูต;ธัญญา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
วรทา กิจวารี
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัจจัยที่ทำให้ผู้ต้องขังเข้ารวมกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการ : ศึกษาเฉพาะกรณีเรือนจำกลางสมุทรปราการ
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ขัตติยา กรรณสูต;จตุรงค์ บุณยรัตนสุนทร;สุวัจฉรา เปี่ยมญาติ
สุพจน์ สุทธา
วิทยานิพนธ์/Thesis
คุณภาพชีวิตของเด็กหญิงที่เคยถูกละเมิดทางเพศในจังหวัดชลบุรี
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
เสาวนิจ นิจอนันต์ชัย;ขัตติยา กรรณสูต;นุชนาฎ ยูฮันเงาะ
วรรณี ประทิศ
วิทยานิพนธ์/Thesis
ประสิทธิผลของการนำนโยบายแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าไปปฏิบัติในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
มหาวิทยาลัยบูรพา
ศรุติ สกุลรัตน์;ขัตติยา กรรณสูต;วิชัย รูปขำดี
ลือชัย วงษ์ทอง
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาเครื่องมือวัดคุณภาพชีวิตในมิติความสุข
มหาวิทยาลัยบูรพา
จักรกฤษณ์ นรนิติผดุงการ;ขัตติยา กรรณสูตร;วิชัย รูปขำดี
บุญสม หรรษาศิริพจน์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่มีผลต่อบทบาทการป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชันของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
มหาวิทยาลัยบูรพา
ฤทธิกร ศิริประเสริฐโชค;ขัตติยา กรรณสูต;วิชัย รูปขำดี
กฤษฎา นันทเพ็ชร
วิทยานิพนธ์/Thesis
รูปแบบการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุในพื้นที่อุตสาหกรรม
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ขัตติยา กรรณสูต
กฤตวรรณ สาหร่าย
วิทยานิพนธ์/Thesis
กิจกรรมเสริมคุณค่าและความสุขให้ผู้สูงอายุในโรงเรียนผู้สูงอายุ
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ขัตติยา กรรณสูต
วิลาสินี โยธิการ
วิทยานิพนธ์/Thesis
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 15
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 4,672
รวม 4,687 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 268,448 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 1,256 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 89 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล = 20 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเอกชน = 8 ครั้ง
หน่วยงานอื่น = 5 ครั้ง
สถาบันพระบรมราชชนก = 4 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสงฆ์ = 1 ครั้ง
รวม 269,831 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.132
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.33