ความตั้งใจใช้ข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตเพื่อศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา
Intention to search the internet for graduate school information
Abstract:
มหาวิทยาลัยต่างนำเสนอข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางด้านการสื่อสาร,การส่งผ่านข้อมูล นอกจากเพื่อบริการนักศึกษา ยังใช้เป็นกลยุทธ์ในการประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัย เพื่อรองรับความต้องการข้อมูลข่าวสารของผู้ที่ต้องการศึกษาต่อ ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ซึ่งมีผลต่อความตั้งใจใช้ข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตเพื่อศึกษาต่อในระดับบัณฑิต ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีไม่เกินกว่า 5 ปี อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 303 ตัวอย่าง โดยใช้การวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Method) เก็บรวบรวมข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2548 ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 54 มีอายุระหว่าง 20-29 ปี คิดเป็นร้อยละ 70 มีรายได้ระหว่าง 10,001-20,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 53 สาขาที่ผู้ตอบแบบสอบถามสนใจศึกษาต่อมากที่สุดคือ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ คิดเป็นร้อยละ 18 ส่วนใหญ่เลือกศึกษาต่อภาคพิเศษ คิดเป็นร้อยละ 59 การวัดระดับความเชื่อมั่นโดยใช้ค่าสถิติ Cronbach Alpha พบว่าตัวแปรอิสระแนวความคิดเกี่ยวกับตนเอง, รูปแบบการใช้ชีวิต,ค่านิยม, ทัศนคติที่มีต่อข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต, ตัวแปรตาม ความตั้งใจใช้ข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต ตัวแปรแทรกซ้อน ความรู้
เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตและการทุ่มเทความพยายามในการใช้ข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต มีค่าเท่ากับ 0.7711, 0.7873,0.7068,0.8057,0.7003,0.7283 และ 0.8010 ตามลำดับการวิเคราะห์ความเที่ยงตรง พบว่าตัวแปรอิสระ แนวความคิดเกี่ยวกับตนเอง,รูปแบบการใช้ชีวิต,ค่านิยม,ทัศนคติที่มีต่อข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต,ตัวแปรตาม ความตั้งใจใช้ข้อมูลข่าวสารบน ค่านิยม,ทัศนคติที่มีต่อข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต,ตัวแปรตาม ความตั้งใจใช้ข้อมูลข่าวสารบน อินเทอร์เน็ต ตัวแปรแทรกซ้อน ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต, การทุ่มเทความพยายามในการใช้ข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต มีปัจจัยที่สามารถอธิบายค่าความแปรปรวนของข้อมูลได้ร้อยละ 55.641, ร้อยละ 57.843, ร้อยละ 59.029, ร้อยละ 58.622, ร้อยละ 72.659, ร้อยละ 51.845 และร้อยละ 63.563 ตามลำดับ
ผลการทดสอบสมมติฐาน โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน (Pearson Correlation) พบว่าแนวความคิดเกี่ยวกับตนเอง รูปแบบการใช้ชีวิต ค่านิยม ทัศนคติที่มีต่อข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต มีความสัมพันธ์กับความรู้เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ, แนวความคิดเกี่ยวกับตนเอง รูปแบบการใช้ชีวิต ค่านิยม ทัศนคติที่มีต่อข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต มีความสัมพันธ์กับการทุ่มเทความพยายามในการใช้ข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และความรู้เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต, การทุ่มเทความพยายามในการใช้ข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต มีความสัมพันธ์กับความตั้งใจใช้ข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จากการวิเคราะห์ถดถอย (Multiple Regression Analysis) พบว่าแนวความคิดเกี่ยวกับตนเอง เป็นตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อความรู้เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตและการทุ่มเทความพยายามในการใช้ข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตมากที่สุดเมื่อเทียบกับตัวแปรอื่น ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตเป็นตัวแปรที่มีอิทธิพล
ต่อความตั้งใจใช้ข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตมากกว่าการทุ่มเทความพยายามในการใช้ข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต จึงควรให้ความรู้ในด้านคุณลักษณะ คุณประโยชน์และความพึงพอใจ เมื่อผู้ใช้มีความรู้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ความความตั้งใจเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ในการศึกษาวิจัยครั้งต่อไป ประการแรก ควรเพิ่มพื้นที่ในการศึกษา โดยเก็บตัวอย่างผู้ที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัดเพื่อให้กลุ่มตัวอย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ประการที่สอง ควรมีการศึกษาความตั้งใจใช้ข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตเพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี เพื่อให้ได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น เพราะปัจจัยที่ก่อให้เกิดความตั้งใจอาจไม่เหมือนกัน ประการที่สาม ควรมีการศึกษาปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติม ตัวแปรแรกคือ แรงจูงใจ (Motivation) เป็นตัวกระตุ้นต่อความตั้งใจ ซึ่งตัวกระตุ้นเข้าสู่จิตสำนึกได้ ถ้าข่าวสารนั้นตอบสนองความต้องการที่มีอยู่ตัวแปรที่สองคือ ประสบการณ์ใช้
อินเทอร์เน็ต (Internet experience) ซึ่งผู้ที่มีประสบการณ์ใช้อินเทอร์เน็ตระดับสูงสามารถใช้ประโยชน์จากการประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตช่วยในการค้นหาข้อมูล เพื่อลดความเสี่ยงในการซื้อได้
มหาวิทยาลัยศรีปทุม. สำนักหอสมุด
©copyrights มหาวิทยาลัยศรีปทุม