แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
สุคนธ์ ไปนาวะดี . สภาพและความต้องการด้านบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสตรีในสถานศึกษา : กรณีศึกษาอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ . ปริญญาโท(การบริหารการศึกษา). มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์. : มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์, .
สภาพและความต้องการด้านบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสตรีในสถานศึกษา : กรณีศึกษาอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์
The Study and Need Personnel Administration of Female School Administrators : A Case Study of Satuk District, Buriram Province
Name: สุคนธ์ ไปนาวะดี
ThaSH:
การบริหารงานบุคคล
Classification :.DDC: 688.31
Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อการศึกษา 1) สภาพการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสตรีในสถานศึกษา กรณีศึกษาอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ 2) ความต้องการด้านการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสตรีในสถานศึกษา กรณีศึกษาอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ประชากรที่ศึกษาได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษาที่เป้นสตรี จำนวน 9 คน การศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยทำการศึกษาทั้งประชากร จำนวน 9 คนและเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยวิธีการสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์แบบเจาะลึกและจัดประชุมกลุ่มย่อย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เนื้อหาแล้วใช้สถิติเชิงพรรณนาค่าร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า
สถานภาพของผู้บริหารสตรี พบว่า ผู้บริหารสตรีส่วนใหญ่จะมีอายะระหว่าง 41- 45 ปี
รองลงมาคืออายุระหว่าง 46 50 ปี ผู้บริหารสตรีมีประสบการณ์ในการบริหารงานมากที่สุดในระหว่าง 1- 5 ปี และ 6 10 ปี รองลงมาคือ 11 15 ปี จำนวนครั้งที่ผู้บริหารสตรีเคยเข้าร่วมในการฝึกอบรมการบริหารงานบุคคลมากที่สุดคือ 3- 5 ครั้ง และรองลงมาคือ 1- 2 ครั้ง
สภาพการบริหารงานบุคคล พบว่าผู้บริหารสตรีมีการบริหารงานในแต่ละด้านตามขอบข่ายการบริหารงานบุคคลดังนี้
ด้านการวางแผนอัตรากำลังและการกำหนดตำแหน่ง พบว่าผู้บริหารสตรีร้อยละ 100
มีการดำเนินการตามขั้นตอนตามบทบาทในขอบเขตของอำนาจหน้าที่ได้รับมอบหมาย เปิดโอกาสให้บุคคลกรในโรงเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษามีส่วนร่วมในการวางแผนอัตรากำลังและการกำหนดตำแหน่ง
ด้านการสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง พบว่า ผู้บริหารสตรีร้อยละ 100 มีการประกาศรับสมัครครูตามวิชาเอกที่ต้องการ แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานตามขั้นตอนและตามระเบียบถ้า
โรงเรียนรัฐบาลเป็นหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการให้ ส่วนโรงเรียนเอกชนสามารถดำเนินการได้ภายใต้กฎระเบียบที่โรงเรียนวางไว้โดยไม่ขัดต่อระเบียบของสำนักงานการศึกษาเอกชน การย้ายและการรักษาราชการแทนผู้บริหารสตรีมีการดำเนินการตามความเหมาะสมและเป็นไปตามระเบียบการย้ายและรักษาราชการแทน
ด้านการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฎิบัติราชการ ผู้บริหารสตรีร้อยละ 77 มีการมอบหมายงานให้รับผิดชอบตามความสามารถ ความถนัด มีการอบรม ปฐมนิเทศก่อนมอบหน้าที่ให้ปฎิบัติ พัฒนาบุคลากรโดยการส่งเข้าอบรม ผู้บริหารใช้ช่วงการประชุมปลูกจิตสำนึกสร้างความตระหนักให้ปฎิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย ตามคุณธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชีพส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อกระตุ้นให้ครูมีความตื่นตัวและพัฒนาวิธีการแก้ปัญหาเด็กนักเรียน มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาผลงานเพื่อเลื่อนขั้นเงินเดือน ลูกจ้างชั่วคราวจะได้รับการประเมินผลงานทุกปี โดยการประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการจ้างสำหรับโรงเรียนเอกชนการเลื่อนขั้นเงินเดือนผู้บริหารเป็นคนพิจารณาตัดสินใจด้วยตนเอง
ด้านวินัยและการรักษาวินัย ผู้บริหารสตรีร้อยละ 100 คิดเห็นตรงกันว่า ต้องดำเนินการทุกอย่างด้วยความรอบคอบตามลำดับขั้นตอน การรักษาวินัยผู้บริหารสตรีจะปฎิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี กระตุ้นเตือนบุคลากรตามความเหมาะสม ส่งเสริมการศึกษาเอกสารกฎหมายระเบียบวินัยของข้าราชการเพิ่มเติม
ด้านการออกจากราชการ ผู้บริหารสตรีส่วนใหญ่มีความละเอียดรอบคอบพิจารณาไตร่ตรองเหตุผลของการออกจากราชการ เพื่อให้ชัดเจนในการออกจากราชการเพื่อมิให้เกิดความผิดพลาด จึงดำเนินการตามลำดับขั้นตอนของราชการ
ความต้องการด้านการสรรหาและการบรรจุแต่งตั้ง ร้อยละ 100 ต้องการมีความอิสระในการสรรหาและการบรรจุแต่งตั้ง เพื่อให้ทันต่อความต้องการและตรงตามวิชาเอกที่สถานศึกษาต้องการ เพื่อให้ปฎิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีตามมาตรฐานการจัดการศึกษา
ความต้องการด้านการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฎิบัติราชการ ร้อยละ 100 ต้องการปฎิบัติให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ร้อยละ 77 ต้องการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับการอบรมเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถ
ความต้องการด้านวินัยและการรักษาวินัย ร้อยละ 100 ต้องการให้มีการจัดอบรมเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัยอย่างสม่ำเสมอ ร้อยละ 67 ต้องการให้มีการออกวารสารเกี่ยวกับกรณีตัวอย่างด้านการดำเนินการทางวินัยของหน่วยงานต่างๆเป็นรายเดือน
ความต้องการด้านการออกจากราชการ ร้อยละ 77 มีความต้องการให้ทดแทนตำแหน่งที่ออกจากราชการโดยเร็ว เพื่อให้สถานศึกษาสามารถจัดการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"
มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์
Address:
บุรีรัมย์
Name: ปิยาภรณ์ ศิริภานุมาศ
Role:
ประธานกรรมการ
Name: วิศิษฐ์ นาจำปา
Role:
กรรมการ
Name: พงศ์เพชร สังข์ศักดา
Role:
กรรมการ
Issued:
2009-10-29
Modified:
2554-01-14
Issued:
2552-10-29
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
วพ 658.31 ส748ส 2549
tha
Spatial:
สตึก บุรีรัมย์
DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Level: ปริญญาโท
Descipline: การบริหารการศึกษา
Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
RightsAccess:
ใช้เวลา
0.089458 วินาที
สุคนธ์ ไปนาวะดี
| Title | Contributor | Type |
|---|---|---|
| สภาพและความต้องการด้านบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสตรีในสถานศึกษา : กรณีศึกษาอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สุคนธ์ ไปนาวะดี | ปิยาภรณ์ ศิริภานุมาศ วิศิษฐ์ นาจำปา พงศ์เพชร สังข์ศักดา | วิทยานิพนธ์/Thesis |
ปิยาภรณ์ ศิริภานุมาศ
วิศิษฐ์ นาจำปา
| Title | Creator | Type and Date Create |
|---|---|---|
| สภาพและความต้องการด้านบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสตรีในสถานศึกษา : กรณีศึกษาอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ปิยาภรณ์ ศิริภานุมาศ;วิศิษฐ์ นาจำปา;พงศ์เพชร สังข์ศักดา | สุคนธ์ ไปนาวะดี | วิทยานิพนธ์/Thesis |
| สภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนแกนนำจัดการเรียนร่วม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ปิยาภรณ์ ศิริภานุมาศ;วิศิษฐ์ นาจำปา;พงศ์เพชร สังข์ศักดา | วลัยทิพย์ สิริจงวัฒนา | วิทยานิพนธ์/Thesis |
| การศึกษาโครงการที่สอดคล้องกับการพัฒนาวิชาชีพครูในจังหวัดบุรีรัมย์
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ อนันต์ชัย พงศ์สุวรรณ;วิศิษฐ์ นาจำปา;วันทนีย์ นามสวัสดิ์ | เปริยญ พรมไธสง | วิทยานิพนธ์/Thesis |
พงศ์เพชร สังข์ศักดา