แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
ศักดิ์สถิตย์ กมลบูรณ์. สภาพการดำเนินงานตามตัวบ่งชี้ในมาตรฐานที่ 13 ของมาตรฐานการศึกษาเพื่อการประเมินคุณภาพภายนอก ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน : กรณีศึกษาโรงเรียนแกนนำอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์. ปริญญาโท(การบริหารการศึกษา). มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. ศูนย์วิทยบริการ. : มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์, 2546-05.
สภาพการดำเนินงานตามตัวบ่งชี้ในมาตรฐานที่ 13 ของมาตรฐานการศึกษาเพื่อการประเมินคุณภาพภายนอก ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน : กรณีศึกษาโรงเรียนแกนนำอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
The state of implementing the indicators of Standard 13th for external audit at the basic education level : A case study of leading schools in Amphur Sangka, Surin
Name: ศักดิ์สถิตย์ กมลบูรณ์
Classification :.DDC: 371.26
ThaSH:
การศึกษาขั้นพื้นฐาน
-- การประเมิน
ThaSH:
การประเมินคุณภาพภายนอก.
Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาสภาพการดำเนินงานตามตัวบ่งชี้ในมาตรฐานที่ 13 ของมาตรฐานการศึกษาเพื่อการประเมินคุณภาพภายนอก ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของสถานศึกษาที่เป็นโรงเรียนแกนนำ สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ กลุ่มเป้าหมายจำนวน 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านพระแก้ว โรงเรียนบ้านพรหมสะอาด และโรงเรียนสุขพรหมมีศัทธาญาติ กลุ่มเป้าหมาย คือคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานแต่ละสถานศึกษา ประกอบไปด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา สถานศึกษาละ 1 คน รวม 3 คน ครูผู้สอน สถานศึกษาละ 1 คน รวม 3 คน ผู้ปกครองนักเรียน สถานศึกษาละ 1 คน รวม 3 คน สมาชิกองค์การบริการส่วนท้องถิ่น สถานศึกษาละ 1 คน รวม 3 คนรวมทั้งหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอสังขะ และหัวหน้าหน่วยศึกษานิเทศก์สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอสังขะ รวมทั้งสิ้น 14 คน เครื่องมือที่ใช้คือ แบบสังเกต และแบบสัมภาษณ์ที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งผลการวิจัยพบว่า 1. การวางแผนปฏิบัติงานของทั้ง 3 โรงเรียน พบว่า มีการจัดองค์กรหรือโครงสร้างการบริหารอย่างชัดเจน มีการกำหนดปรัชญา จัดธรรมนูญสถานศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี และตัวชี้วัดความสำเร็จของสถานศึกษาไว้ชัดเจนด้วยเช่นกัน ปัญหาที่พบคือ ความเชื่อของชุมชน ความเกรงใจ การให้เกียรติผู้มีตำแหน่งหน้าที่และการศึกษาสูง ทำให้ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นในเวลาประชุมวางแผนปฏิบัติการ 2. การปฏิบัติตามแผน พบว่า โรงเรียนทั้ง 3 แห่ง ได้ส่งเสริมสนับสนุน จัดสิ่งอำนวยความสะดวก สนับสนุนทรัพยากรในการดำเนินงานตามแผน ตลอดทั้งกำกับ ติดตาม ให้การนิเทศก์เป็นอย่างดี ปัญหาที่พบ คือ บุคลากรไม่ตระหนักในบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย การปฏิบัติงานไม่ต่อเนื่อง ชุมชนไม่มีบทบาทที่ชัดเจน 3. การตรวจสอบประเมินผล พบวา โรงเรียนทั้ง 3 แห่ง ได้จัดทำกรอบหรือคู่มือการประเมินผล มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบประเมินผลจากทุกฝ่ายเพื่อรายงานให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทราบ ปัญหาที่พบ คือบุคลากรไม่มีความรู้ในการประเมินผล ไม่มีทักษะในการปฏิบัติตามแผน ปฏิบัติงานไม่ต่อเนื่อง การจัดทำเอกสารรายงานตนเองล่าช้า และมีเวลาจำกัด 4. การนำผลการประเมินมาปรับปรุงงาน พบว่า โรงเรียนทั้ง 3 แห่ง โดยเฉพาะผู้รับผิดชอบแต่ละฝ่าย ได้รวบรวมผลการประเมินมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ แปลผล รายงานผลให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ และนำผลที่ได้ไปปรับปรุงงาน ปัญหาที่พบ คือ บุคลากรขาดความรู้ ทักษะ ไม่มีประสบการณ์ในการจัดทำข้อมูลสารสนเทศเพื่อนำมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ปรับปรุงงาน แนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้แก่ 1) สถานศึกษาต้องวางรูปแบบประชาสัมพันธ์ให้บุคลากรที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครู ผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีความรู้ความเข้าในในกระบวนการทำงานของสถานศึกษา 2) เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาทุกขั้นตอน 3) สถานศึกษาต้องระดมทรัพยากร ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่มีอยู่อย่างจำกัดมาพัฒนาคุณภาพการศึกษา 4) สถานศึกษาต้องสร้างความตระหนัก ต้องกำกับ ติดตาม ประเมินผลที่เอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และ 5) สถานศึกษาต้องส่งเสริมบุคลากรให้เข้ารับการอบรมเพิ่มความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดจนผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีภาวะผู้นำสูง และบริหารงานโดยยึดหลักการมีส่วนร่วม
Abstract:
The purpose of this research was to study the state of implementing the indicators of Standard 13 for external audit at the basic education level in three schools in Sangka, Surin : Baan Prakaoe School. Baan Promsa ad School, and Sookprommeesatthayard School. The focused group was 12 basic education committee members in each school which consisted of a school principal, a teacher representative, a parent representative, and a member of the local administration organization. In addition, the Director of the School and the Director of the Educational Supervisory Unit of Sangka were interviewed as well, which made a focused group of fourteen. There were two types of instruments used, the observation form and the in depth interview questions, which were locally developed. It was revealed that the state of the implementation was satisfactory. Nevertheless, minor development was still needed, as in the following details:
1. Plan. Focused schools had developed the clear organization or school structure, school philosophy, school charter, yearly operational plan, and school success indicators. The problems found were the cultural barriers such as communitys beliefs, consideration for others, honor and respect for people with higher education levels and positions, witch led to their seldom expression of ideas during the meetings.
2. Do. It was found that the school had satisfactory encouraged, supported, and provided school facilities and resources. They monitored, followed, and supervised the implementation process satisfactorily, as well. The problems found were the need of awareness in the roles and duties of school personnel, the discontinuity of the work, and the unclear role of the community.
3. Check. The scope or a handbook of evaluation was development. The committee from all those concerned was set up to all participants. The problems found were the need for knowledge in evaluation, the skills in implementing the job assigned, the discontinuity of the work, tardiness in developing the self-assessed report (SAR), and time constraint.
4. Act. After the evaluation the results were brought for analysis, synthesis, and interpretation. The problems found were the need for the personnels knowledge and skill and the experience in the management of the information technology (MIT) for work improvement.
It was suggested that the operation of all these were imperative: 1) the public relations for the Basic Education Committee, teachers, the community, the local administration organization, so that they could gain knowledge of educational implementation, 2) the opportunity for all in educational administration, 3) the brainstorming for gaining additional educational resources and local intelligence for education, 4) the needs to create the awareness of quality by means of continuous school improvement, monitoring, follow up, and evaluation, and 5) the needs for staff development and strong school leadership and participation.
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. ศูนย์วิทยบริการ
Address:
บุรีรัมย์
Name: อนันต์ชัย พงศ์สุวรรณ
Role:
ประธานกรรมการ
Name: วิศิษฐ์ นาจำปา
Role:
กรรมการ
Name: รื่นรมย์ วัชรินทรางกูร
Role:
กรรมการ
Modified:
2553-11-24
Issued:
2548-09-07
Created:
2546-05
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
ISBN:
9746921207
CallNumber:
วพ 371.26 ศ329ส
tha
Spatial:
สุรินทร์
DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Level: ปริญญาโท
Descipline: การบริหารการศึกษา
Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
RightsAccess:
ใช้เวลา
0.072874 วินาที
ศักดิ์สถิตย์ กมลบูรณ์
| Title | Contributor | Type |
|---|---|---|
| สภาพการดำเนินงานตามตัวบ่งชี้ในมาตรฐานที่ 13 ของมาตรฐานการศึกษาเพื่อการประเมินคุณภาพภายนอก ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน : กรณีศึกษาโรงเรียนแกนนำอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ศักดิ์สถิตย์ กมลบูรณ์ | อนันต์ชัย พงศ์สุวรรณ วิศิษฐ์ นาจำปา รื่นรมย์ วัชรินทรางกูร | วิทยานิพนธ์/Thesis |
อนันต์ชัย พงศ์สุวรรณ
วิศิษฐ์ นาจำปา
รื่นรมย์ วัชรินทรางกูร