การบำบัดน้ำชะขยะมูลฝอย โดยวิธีการตกตะกอนด้วยเบนโทไนต์

Solid waste leachate treatment by coagulation process with bentonite

Name: ปาริชาต จุลพันธุ์

Name: Parichart Chunlapan

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์. วศ.ม. (วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม) 2544

ThaSH: น้ำเสีย -- การบำบัด -- การตกตะกอน

Abstract: น้ำเสียที่เกิดจากน้ำชะขยะมูลฝอย มีสภาพทางกายภาพและชีวภาพ อาที สี ความขุ่น ซีโอดี บีโอดี อยู่ในปริมาณสูงที่ก่อให้เกิดเป็นปัญหามลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องทำการบำบัดเพื่อให้ปริมาณของมลพิษดังกล่าวอยู่ในระดับยอมรับได้ แนวทางหนึ่งในการบำบัดคือทำการบำบัดน้ำเสียขั้นต้น โดยกระบวนการโคแอกกูเลชัน ซึ่งอาศัยสารสร้างตะกอนในกระบวนการดังกล่าว ดังนั้น การศึกษานี้จึงมุ่งเน้นเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพและสภาวะที่เหมาะสมของสารสร้างตะกอนที่เลือก รวมทั้งพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการบำบัดน้ำเสียในการศึกษาได้พิจารณานำเอาเบนโทไนท์มาเป็นสารสร้างตะกอน เปรียบเทียบถึงความสามารถในการกำจัดค่าความสกปรกของน้ำเสีย อาที สี ความขุ่น ซีโอดี บีโอดี กับสารสร้างตะกอนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ สารส้ม (อลูมินัมซัลเฟต) โพลีอลูมินัมคลอไรด์ และปูนขาวผลการทดลองพบว่า เบนโทไนท์มีความสามารถกำจัดสีได้เฉลี่ย 24.75 เปอร์เซ็นต์ กำจัดความขุ่นได้เฉลี่ย 63.52 เปอร์เซ็นต์ กำจัดซีโอดีได้เฉลี่ย 20.34 เปอร์เซ็นต์ กำจัดบีโอดีได้ 39.44 เปอร์เซ็นต์ กำจัดไนโตรเจนได้เฉลี่ย 6.59 เปอร์เซ็นต์ กำจัดฟอสฟอรัสได้เฉลี่ย 30.92 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่สามารถกำจัดของแข็งในรูปต่างๆ ได้ ปริมาณที่เหมาะสมของเบนโทไนท์คือ 5,500-7,000 มก/ล pH ที่เหมาะสมคือ 4.0 และมีค่าใช้จ่ายรวมของสารเคมีในการบำบัดน้ำเสียสูงสุด 7,044.1-7,058.1 บาท/ลบ.ม. ของน้ำเสีย โดยสารตะกอนที่มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับการบำบัดน้ำเสียจากกองขยะ ได้แก่ สารส้ม โดยสามรถกำจัดสีได้เฉลี่ย 71.50 เปอร์เซ็นต์ กำจัดความขุ่นได้เฉลี่ย 92.66 เปอร์เซ็นต์ กำจัดซีโอดีได้เฉลี่ย 39.77 เปอร์เซ็นต์ กำจัดบีโอดีได้เฉลี่ย 42.46 เปอร์เซ็นต์ กำจัดไนโตรเจนได้เฉลี่ย 14.77 เปอร์เซ็นต์ กำจัดฟอสฟอรัสได้เฉลี่ย 96.33 เปอร์เซ็นต์ กำจัดของแข็งแขวนลอยได้เฉลี่ย 87.04 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่สามารถกำจัดของแข็งทั้งหมดและของแข็งที่ละลายได้ทั้งหมดได้ สำหรับปริมาณที่เหมาะสมของสารส้มคือ 7,000-11,000 มก/ล pHที่เหมาะสมคือ 6.0-6.5 และค่าใช้จ่ายรวมของสารเคมีในการบำบัด เท่ากับ 1,934.2-2,377.2 บาท/ลบ.ม. ของน้ำเสีย

Abstract: According to leachate of sanltary landfill cause environmental problems. The good control and remedy are necessary. This study was carried out the coagulation process for applied to be the primary treatment. The study was the comparison of the coagulant efficiency with considered to the optimum condition for leachate treatment and the cost for treatment.In this study, there were considerling 4 coagulants, consisting of bentonite alum (aluminum sulfate), polyaiuminum chloride and lime, as the coagulants in coagulation process to remove the pollutants such as color, turbidity, COD and BOD.The results were found that the average efficiency of bentonite for removing color, turbidity, COD, BOD, nitrogen and phosphorus were 24.75, 63.52, 20.34, 39.44, 6.59, and 30.92 percent, respectively. The optimum dose of bentonite was in the range of 5,500-7,500 mg/L and the optimum pH was 4.0. The chemical cost was in the range of 7,044.1-7,058.1 baht/cubic meters of leachate. The chemical cost by bentonite was the most expensive. While alum (aluminum sulfate) was the suitable coagulant for leachate treatment. The average efficiency removal of color. Turbidity, COD, BOD, nitrogen, phosphorus and suspended solids were 64.22, 92.66, 39.77, 42.26, 14.77, 96.33 and 87.04 percent, respectively. The optimum dose of alum was in the range of 7,000-11,000 mg/L and the optimum pH was in the range of 6.0-6.5. The chemical cost was in the range of 1,934.2-2,377.2 baht/cubic meters of leachate.

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร (Bangkok)

Name: สุเทพ สิริวิทยาปกรณ์

Role: ประธานกรรมการที่ปรึกษา

Created: 2544

Issued: 2548-09-03

Modified: 2006-05-25

วิทยานิพนธ์/Thesis

URL: http://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/ParichartChu/index.html

ISBN: 974-462-293-8

CallNumber: TD751 .ป27

tha

DegreeName: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม

Grantor: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

©copyrights มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	cert.pdf	35.04 KB	144	2020-05-09 19:43:12
2	tp.pdf	18.44 KB	104	2020-01-13 10:19:58
3	abst.pdf	95.16 KB	161	2020-01-13 10:20:07
4	ack.pdf	31.57 KB	109	2020-01-13 10:20:14
5	toc.pdf	500.82 KB	139	2020-01-13 10:20:20
6	chapter1.pdf	93.27 KB	209	2020-09-25 10:11:55
7	chapter2.pdf	883.6 KB	252	2020-09-25 10:10:39
8	chapter3.pdf	255.33 KB	192	2021-04-28 12:29:26
9	chapter4.pdf	1.36 MB	213	2020-01-13 10:20:50
10	chapter5.pdf	121.02 KB	154	2020-01-13 10:20:57
11	ref.pdf	149.71 KB	145	2020-01-13 10:21:04
12	appdx.pdf	1.74 MB	156	2020-01-13 10:21:11
13	ParichartChuAll.pdf	5.21 MB	205	2020-01-13 10:21:17

ใช้เวลา

-0.928021 วินาที