Change of knowledge, attitude and practice of medical students after finishing the human behavior course

Name: Buranee Kanchanatawan

Name: Nantika Thavichachart

LCSH: Medical students -- Attitudes

LCSH: Psychiatry -- Study and teaching

Abstract: Objective : To evaluate the outcome of a course on "human behavior" in term of the improvement of knowledge, attitude and practice of enrolled medical students.Design: Observational descriptiveMethods: 119 subjects who are 3rd year medical students of Academic Year 2001, Chulalongkorn University, participated and completed KAP questionnaire which consisted of 3 domains: knowledge, attitude and practice. The questionnaire was performed two times as "pretest" (at the beginning of the course) and "post-test" (at the end of the course). The difference of KAP scores was analyzed by descriptive analysis and Wilcoxon signed-rank test.Results: The median and mean scores of knowledge, attitude and practice domains increased after the completion of the course. Wilcoxon signed-rank test is convinced of a significant improvement in all tested domains.Conclusion: The result presents that the students' learning is improved by measuring the knowledge, attitude and practice. There are many factors that might be contributed to the change. In our opinion, the two most important factors could be, namely: 1) the content of the course stimulates both idea and emotion, and 2) the educational process, means PBL approach which promotes idea construction and critial thinking small, group discussion among peers and facilitators helps to elaborate the knowledge, enhances subsequent retrieval, learns and internalizes attitude and ethics each other as well as learning materials that allow early exposure to clinical experiences.

Abstract: วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของค่าคะแนนความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัตทางด้านจิตเวชในนิสิตแพทย์ปีที่ 3 หลังการเรียนรายวิชา "พฤติกรรมมนุษย์"รูปแบบการวิจัย: เชิงพรรณาและสังเกตวิธีการวิจัย : นิสิตแพทย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีที่ 3 (ปีการศึกษา 2544) จำนวน 119 คน ได้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามที่ใช้วัดความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติ จำนวน 50 ข้อ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเริ่มต้นชั่วโมงแรกของวิชาพฤติกรรมมนุษย์ ครั้งที่สองเมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนวิชาพฤติกรรมมนุษย์จากนั้นนำค่าคะแนนของทั้ง 2 ครั้งมาวิเคราะห์เปรียบเทียบด้วยวิธีวิเคราะห์ Descriptive Analysis และ Wilcoxon-signed rank restผลการศึกษา: ค่าคะแนนเฉลี่ยทั้งด้านความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติของนิสิตแพทย์ปีที่ 3 เพิ่มขึ้นทั้งหมดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ หลังเรียนจบวิชา "พฤติกรรมนุษย์"วิจารณ์และสรุป: ผลการวิจัยแสดงว่านิสิตแพทย์มีการเปลี่ยนแปลงของความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติในทางดีขึ้นอย่างชัดเจน หลังจบการเรียนการสอนรายวิชาพฤติกรรมมนุษย์ ซึ่งอาจมีหลายปัจจัยเกี่ยวข้องกับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว อย่างไรก็ดีผู้เขียนเชื่อว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นจาก 2 ประการคือ 1. เนื้อหาของบทเรียน ซึ่งแตกต่างจากวิชาอื่น ๆ มีลักษณะที่จะกระตุ้นทั้งความรู้และความรู้สึกของนิสิตแพทย์ 2. กระบวนการเรียน ซึ่งใช้ปัญหาเป็นตัวนำไปสู่การเรียนรู้ (Problem-based learning) ซึ่งกระตุ้นความคิดให้เป็นระบบรูปแบบการเรียนเป็นกลุ่มย่อยระหว่างเพื่อนและอาจารย์คุมกลุ่ม ซึ่งเสริมการเรียนรู้ทั้งเนื้อหาและทัศนคติซึ่งกันและกัน รวมถึงอุปกรณ์การสอนที่นำเข้าสู่การสัมผัสผู้ป่วยจริงทางคลินิก ซึ่งกระตุ้นความสนใจใฝ่รู้ของนิสิตแพทย์ที่จะเตรียมตัวเป็นแพทย์ต่อไป

Chulalongkorn University

Address: กรุงเทพมหานคร (Bangkok)

Email: cuir@car.chula.ac.th

Created: 2002

Issued: 2005-09-26

Modified: 2006-05-19

บทความ/Article

URL: http://thailis-db.car.chula.ac.th/CU_DC/Journal/JournalAug2005/CMJ(dec025).pdf

ISBN: 0125-6483

BibliograpyCitation : จุฬาลงกรณ์เวชสาร. ปีที่ 46, ฉบับที่ 12 (ธ.ค. 2545), หน้า 985-996

eng

©copyrights Chulalongkorn University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	CMJ(dec025).pdf	2.21 MB	112	2025-01-16 14:26:15

ใช้เวลา

0.019446 วินาที