วิเคราะห์การนำหลักพุทธธรรมมาใช้ในการจัดเก็บภาษีศุลกากร

The Analysation of the Application of Buddhadhamma to the collection of the customs duty.

Name: นายประทีป ประดับธรรม

keyword: หลักพุทธธรรม

Abstract: วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑) เพื่อศึกษาการจัดเก็บภาษีศุลกากรในคัมภีร์พุทธศาสนาและในสังคมไทย ๒) เพื่อศึกษาหลักพุทธธรรมที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บภาษีศุลกากร ๓) เพื่อศึกษาวิเคราะห์การนำหลักพุทธธรรมมาใช้ในการจัดเก็บภาษีศุลกากร การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) โดยทำการวิเคราะห์ภาพรวมเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีศุลกากรที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาและการจัดเก็บภาษีศุลกากรในสังคมไทย รวมทั้งศึกษาหลักพุทธธรรมที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บภาษีศุลกากร ผลการศึกษาพบว่า ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงการจัดเก็บภาษีว่า มีลักษณะคล้ายกับภาษีศุลกากร ซึ่งมีการจัดเก็บมาตั้งแต่สมัยก่อนพุทธกาลและยังมีการเก็บภาษีเรื่อยมา จนถึงสมัยพุทธกาล การจัดเก็บภาษีในสมัยนั้นเรียกว่า ส่วย ไม่ได้เรียกว่า ภาษีศุลกากรเหมือนในปัจจุบัน รายได้จากการจัดเก็บภาษี จะนำไปทะนุบำรุงบ้านเมืองให้มีความเจริญก้าวหน้า ภาษีส่วนใหญ่เก็บได้จากการทำกสิกรรม การเกษตร ปศุสัตว์ การประมง และการพานิชย์ โดยมีการตั้งด่านภาษีทำหน้าที่จัดเก็บภาษีและดูแลผลประโยชน์ต่างๆ คล้ายกับด่านศุลกากรในยุคปัจจุบัน ผลการศึกษาการจัดเก็บภาษีศุลกากรในสังคมไทยพบว่า มีการจัดเก็บภาษีมาตั้งแต่ในสมัยกรุงสุโขทัย โดยการจัดเก็บภาษีศุลกากร อาจจะมีความแตกต่างกันไปบ้างตามยุคสมัยนั้นๆ นอกจากสมัยกรุงสุโขทัยแล้ว ในสมัยต่อๆมาไม่ว่าจะเป็นกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรีหรือแม้แต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นจนมาถึงปัจจุบัน การจัดเก็บภาษีศุลกากร ก็นับว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาบ้านเมืองและมีความละเอียดสลับซับซ้อนมากขึ้น ในอดีตการเก็บภาษีศุลกากรเป็นหน้าที่ของฝ่ายบ้านเมือง ส่วนการจัดเก็บภาษีศุลกากรในปัจจุบันมีการนำระบบคอมพิวเตอร์มาเป็นเครื่องมือในการจัดเก็บภาษีศุลกากร ซึ่งเป็นการสนองตอบนโยบายของรัฐบาลในด้านการแข่งขัน ให้ได้มาตรฐานโลก และการส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใส ผลการศึกษาหลักพุทธธรรมที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บภาษีศุลกากร พบว่า หลักพุทธธรรมสามารถที่จะนำมาใช้เป็นหลักในการบริหารจัดการทั้งในระดับนโยบาย องค์กร ผู้บริหารงาน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยนำหลักธรรมดังกล่าวมาใช้เชื่อมโยงกับกฎหมายและระเบียบข้อบังคับอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บภาษีศุลกากร การปฏิบัติงาน และการแก้ไขปัญหาต่างๆเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น เช่น การนำหลักทิศ ๖ มาใช้ในการบริหารองค์กร การนำอปริหานิยธรรม ๗ มาใช้กับนโยบาย การนำหลักอคติ ๔ พรหมวิหาร ๔ สติ สัมปชัญญะ หิริ โอตตัปปะ สังคหวัตถุ ๔ ขันติ โสรัจจะ เพื่อเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจให้กับผู้บริหารงาน การนำหลักเบญจศีล-เบญจธรรม กุศลกรรมบถ ๑๐ สัปปุริสธรรม ๗ และอิทธิบาท ๔ มาใช้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อเป็นแนวทางในการทำงานและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีศุลกากรและการดำเนินชีวิต ผลการศึกษาวิเคราะห์การนำหลักพุทธธรรมมาใช้ในการจัดเก็บภาษีศุลกากรพบว่า หลักพุทธธรรมสามารถนำมาใช้ ในการพัฒนาและแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานในการจัดเก็บภาษีศุลกากรได้ โดยใช้เชื่อมโยงกับกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เช่น การป้องกันการรับสินบน และทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นต้น หากบุคคลากรได้มีนำหลักธรรมดังกล่าวมาปฏิบัติใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและหน้าที่การงานแล้ว ก็จะเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานได้เป็นอย่างดี

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@mcu.ac.th

Name: พระมหากฤษณะ ตรุโณ, ผศ. ดร.

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: พระมหาทวี มหาปญฺโญ, ผศ. ดร.

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: ดร.ประพันธ์ ศุภษร

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2552

Modified: 2553-10-26

Issued: 2553-10-26

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชาพระพุทธศาสนา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	2552642.pdf	1.36 MB	157	2023-06-27 23:34:52

ใช้เวลา

0.03185 วินาที