ตัวตนและการธำรงความเป็นพราหมณ์นครศรีธรรมราช

Self and maintenance of Nakhon Si Thammarat Brahmins

Name: มานะ ช่วยชู

Name: Mana Chuaichoo

keyword: ชาติพันธุ์วิทยา - - นครศรีธรรมราช

ThaSH: มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ - - สาขาวิชาวัฒนธรรมศึกษา

; ชาติพันธุ์วิทยา - - ไทย (ภาคใต้) - - นครศรีธรรมราช

ThaSH: ชาติพันธุ์วิทยา - - ไทย (ภาคใต้) - - นครศรีธรรมราช

; พราหมณ์ - - นครศรีธรรม

ThaSH: พราหมณ์ - - นครศรีธรรม

Abstract: วิทยานิพนธ์เรื่อง ตัวตนและการธำรงความเป็นพราหมณ์นครศรีธรรมราช มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาว่า "ตัวตน" ของกลุ่มพราหมณ์นครศรีธรรมราชที่เกิดจากกระบวนการปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มต่างๆ ทางสังคม เป็นอย่างไร และเพื่อศึกษาถึงกระบวนการเรียนรู้ในการธำรงความเป็นพราหมณ์ โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จากการศึกษาพบว่า ตัวตนของกลุ่มพราหมณ์นครศรีธรรมราชเกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวตนที่กลุ่มพราหมณ์นครศรีธรรมราชต้องการแสดงออก กับตัวตนที่เกิดจากการรับรู้และความคาดหวังจากกลุ่มต่างๆ กล่าวคือ ตัวตนที่กลุ่มพราหมณ์นครศรีธรรมราชต้องการแสดง คือ ผู้ที่ได้รับสืบทอดมาจากตระกูลพราหมณ์ โดยเป็นการสืบทอดทางสายเลือดทั้งนี้เป็นการสืบทอดทางฝ่ายพ่อ หรือบางกรณีเป็นฝ่ายแม่ก็ได้ และเป็นผู้ที่ธำรงไว้ซึ่งบทบาทของผู้ประกอบพิธีกรรมแบบพราหมณ์ ที่ได้ผ่านการฝึกฝนและเรียนรู้จนชำนาญ นอกจากนี้แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้ที่ดำเนินตามจารีตในการปฏิบัติตัวของพราหมณ์ คือ การนุ่งขาวห่มขาว การไว้มวย การไม่บริโภคเนื้อวัว ปลาไหล เป็นต้น ในด้านชาติพันธุ์นั้นกลุ่มพราหมณ์นครศรีธรรมราชเป็นผู้มีเชื้อชาติและสัญชาติไทย ไม่มีความรู้สึกเป็นคนอินเดียซึ่งเป็นชาติพันธุ์ของบรรพบุรุษ ด้านความศาสนาเป็นผู้ที่นับถือศาสนาพุทธและมีความเชื่อเรื่องเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ รวมทั้งเชื่อในเรื่องวิญญาณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้มีความเชื่อในเรื่องครูหมอของตระกูลอีกด้วย ส่วนตัวตนที่สังคมคาดหวังจากพราหมณ์คือ เชื่อว่าพราหมณ์สามารถติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ดังนั้นจึงเชื่อว่าการประกอบพิธีกรรมโดยพราหมณ์ จะทำให้พิธีเกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตน ปัดเป่าความชั่วร้ายต่างๆ ในด้านตัวตนของพราหมณ์นั้นสังคมรับรู้และคาดหวังว่าพราหมณ์จะต้องสืบเชื้อสายมาจากสายตระกูลพราหมณ์มีการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมตามสถานะของพราหมณ์ ต้องแต่งชุดขาวและไว้มวย ไม่เที่ยวเตร่ จากความเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและสังคมทำให้ มีผลกระทบต่อการแสดงตัวตนพราหมณ์มากขึ้น ความจำเป็นในด้านเศรษฐกิจทำให้พราหมณ์จะต้องพยายามรักษาความน่าเลื่อมใสศรัทธาจากประชาชน ในขณะเดียวกันก็มีความจำเป็นในการให้ได้มาซึ่งรายได้ในการเลี้ยงชีพด้วย ดังนั้นพราหมณ์จึงมีกระบวนการเพื่อดำรงความสมดุลทั้งสองด้านเอาไว้ ประกอบด้วยการซ่อนในเรื่องค่าตอบแทนไว้ในระบบจารีต และค่าใช้จ่ายอื่นๆ การรักษาพื้นที่ในการประกอบพิธีกรรม ด้วยการบวชพราหมณ์ การให้ความสะดวกแก่ผู้ต้องการประกอบพิธีกรรมมากขึ้น และการขยายไปสู่บทบาทของหมอดู หมอสะเดาะเคราะห์และบทบาทของร่างทรง ในด้านการดำรงตัวตนของความเป็นพราหมณ์ได้มีการปรับตัวตนใหม่ให้สอดคล้องกับเงื่อนไข ด้วยการจัดการบวชพราหมณ์ขึ้นเองที่นครศรีธรรมราช แทนการบวชที่โบสถ์พราหมณ์ที่กรุงเทพฯ การสืบทอดโดยการไม่ต้องบวชพราหมณ์ การปรับลดเงื่อนไขให้มีการสืบทอดทางฝ่ายแม่ได้ด้วยนอกจากการฝ่ายพ่ออย่างเดียว นอกจากนี้กลุ่มพราหมณ์นครศรีธรรมราชยังได้ใช้ประเพณีแห่นางกระดานซึ่งเป็นกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเพื่อสร้างพื้นที่ใหม่ให้กับกลุ่มตนด้วย สำหรับกระบวนการเรียนรู้ในการธำรงความเป็นพราหมณ์นั้น ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การรับรู้ว่าตนเองเกิดมาในตระกูลพราหมณ์ ขั้นตอนที่ 2 การเตรียมความพร้อมเพื่อการสืบทอดการเป็นพราหมณ์ ขั้นตอนที่ 3 การผ่านพิธีกรรมสู่การเป็นพราหมณ์ ด้วยการบวชพราหมณ์และ/หรือการ/ผ่านพิธีครอบ และขั้นตอนที่ 4 การเป็นพราหมณ์ที่สมบูรณ์ด้วยกระบวนการตอกย้ำและ/หรือปรับเปลี่ยนตัวตน เพื่อให้สามารถดำรงความเป็นพราหมณ์ต่อไปได้

Abstract: By using qualitative research methods, this thesis—Self and Maintenance of Nakhon Si Thammarat Brahmins—has two objectives: 1) to describe Nakhon Si Thammarat Brahmanic self in the processes of social interactions with other social groups; and 2) to study the learning process of Brahmanic self maintenance. The research findings are : the self of Brahmanic group in Nakhon Si Thammarat was formulated through the interactive process of self as expressed by Brahmins themselves and Brahminic self as expected and perceive by other social groups. Brahmanic expressed self is the self represented by Brahmins themselves and represented as follows: 1) those who have Brahmanic blood through mainly patrilineal descent or matrilineal descent in some cases; 2) those who had maintained Brahmanic rituals by repeated practicing and learning; and 3) those who had conducted as traditional Brahmins in terms of dressing eating and so on. In ethnic terms, Nakhon Si Thammarat Brahmins think that they are of the Thai race and nationality, not Indian as perceived and practiced by their forefathers. In terms of the religion, Nakhon Si Thammarat Brahmins are Buddhists who believe in Brahmanic Gods, holy spirits, and Krumoa (the ritual spirit of the Brahmin clan). The Brahminic self as expected by other social groups can be described as follows : Brahmins are those who can communicate with holy spirits, conduct holy rituals, make a good fortune, prevent bad luck, and eliminate evil. Brahmins have also been expected to be those being Brahmins by blood and having appropriate behavior. Effected by the contemporary process of economic and social changes in Nakhon Si Thammarat, Brahmins have to modify some of their ritual and economic roles. That is, from economic pressure, Brahmins have to create a new balance between their role as a ritual medium respected by people and their income for livelihood. Then, Brahmins have to include their incomes in ritual fees and other ritual expenses, create significant ritual events, and extend their ritual space to include other rituals and events, e.g., being fortune tellers, bad luck healers, shamans, conducting Nang Kra Dan parade (a new Brahmin ritual conducted for tourism benefits), and so on. At the same time, Brahmins also modify some of their norms and practices in maintaining their Brahmanic being. That is new generations of Brahmins in Nakhon Si Thammarat are perceived as being Brahmaness without ordination (in former times, person could be true Brahmins only through being ordained), being true Brahmaness can be both through patrilineal and matrilineal descent (in former times, person could be true Brahmins only through patrilineal descent). There are four stages of the learning process to maintain Brahmaness : 1) perceiving themselves as Brahmins by descent; 2) preparing themselves for maintaining the Brahmanic self; 3) entering the ritual passage of Brahmanic becoming; and 4) being true Brahmins by doing and practicing.

URL: https://opac.wu.ac.th/catalog/BibItem.aspx?BibID=b00073223

WALAILAK UNIVERSITY. CENTER FOR LIBRARY RESOURCES AND EDUCATIONAL MEDIA

Address: NAKON SI THAMMARAT

Email: clm@wu.ac.th

Name: ศาสตราจารย์ ดร. พัทยา สายหู

Role: ประธานกรรมการคณะกรรมการที่ปรึกษา

Created: 2008-09-08

Modified: 2551-09-08

Issued: 2551-09-08

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: THE DS432.B73 ม6ต 2548

tha

DegreeName: ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (วัฒนธรรมศึกษา)

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชาวัฒนธรรม

Grantor: มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

©copyrights มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Title pages.pdf	25.9 KB	101	2024-11-20 20:31:45
2	Approval page.pdf	50.37 KB	83	2024-11-20 20:31:49
3	Abstract.pdf	276.19 KB	100	2024-11-20 20:31:52
4	Acknowledgement.pdf	78.27 KB	76	2024-11-20 20:31:55
5	Content.pdf	297.07 KB	100	2022-06-27 17:28:37
6	Chapter1.pdf	323.16 KB	142	2024-11-20 20:29:42
7	Chapter2.pdf	1.06 MB	159	2024-11-20 20:29:50
8	Chapter3.pdf	264.45 KB	117	2024-11-20 20:29:54
9	Chapter4.pdf	809.86 KB	105	2024-11-20 20:29:58
10	Chapter5.pdf	4.34 MB	140	2024-11-20 20:30:02
11	Chapter6.pdf	4.14 MB	134	2024-11-20 20:30:06
12	Chapter7.pdf	1022.82 KB	115	2024-11-20 20:30:11
13	Chapter8.pdf	883.66 KB	112	2024-11-20 20:30:15
14	Bibliography.pdf	403.2 KB	96	2024-11-20 20:31:38
15	CV.pdf	33.93 KB	73	2024-11-20 20:31:43

ใช้เวลา

-0.906065 วินาที