รูปแบบการจัดการการฝึกประสบการณ์วิชาชีพนักศึกษาอาชีวศึกษาใน สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของจังหวัดนครสวรรค์ ตามหลักอปริหานิยธรรม

Name: วิรัช ตั้งประดิษฐ์

keyword: การจัดการ

; การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ

; นักศึกษาอาชีวศึกษา

; หลักอปริหานิยธรรม

Abstract: การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพการจัดการการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษาอาชีวศึกษาในสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของจังหวัดนครสวรรค์ 2) เพื่อสร้างรูปแบบการจัดการการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษาอาชีวศึกษาในสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของจังหวัดนครสวรรค์ตามหลักอปริหานิยธรรม และ 3) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษาอาชีวศึกษาใน สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของจังหวัดนครสวรรค์ตามหลักอปริหานิยธรรม การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี คือ การวิจัยเชิงคุณภาพ และ การวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key Informants) เลือกผู้ให้ข้อมูลสำคัญแบบเฉพาะเจาะจง คือ ตัวแทนสถานประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนา และ ตัวแทนพี่เลี้ยง สำหรับการรวบรวมข้อมูลโดยวิธีการศึกษาเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม และ การประเมินความเหมาะสมใน 4 ด้าน คือ ด้านความเป็นประโยชน์ ด้านความเป็นไปได้ ด้านความเหมาะสม และ ด้านความถูกต้อง ผลการวิจัยพบว่า 1. ผลการศึกษาสภาพการจัดการการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษาอาชีวศึกษาในสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของจังหวัดนครสวรรค์ พบว่าการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษาอาชีวศึกษาในสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของจังหวัดนครสวรรค์ แบ่งออกเป็น 4 ด้าน ตามมาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้แก่ 1) ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจัดฝึก 2) ด้านการจัดทำแผนการฝึก 3) ด้านการเตรียมการก่อนการจัดฝึก และ 4) การดำเนินการจัดการฝึก การนิเทศ ติดตาม กำกับดูแลการฝึก โดยสรุปจะดำเนินการร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย คือ 1) สถานศึกษา 2) นักศึกษา และ 3) สถานประกอบการ เพื่อกำหนดวัตถุประสงค์ในการฝึกตามมาตรฐานการจัดหลักสูตร การวางแผนการกำกับติดตาม การแก้ปัญหา การกำกับดูแลนักศึกษาในระหว่างการฝึก การนิเทศการฝึก การประเมินผล และการรายงานผล สำหรับผู้จัดฝึกใช้ในการพิจารณาปรับปรุงหลักสูตรและการทำงานต่อไป 2. การพัฒนารูปแบบการจัดการการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษาอาชีวศึกษาในสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของจังหวัดนครสวรรค์ตามหลักอปริหานิยธรรม พบว่าเป็นรูปแบบการจัดการการฝึกฯ ใน 4 ด้าน และ 7 หลัก ตามอปริหานิยธรรม รวม 28 ประเด็น โดยยึดหลักการจัดการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและหลักธรรมพุทธศาสนา คือ หลักอปริหานิยธรรม ซึ่งจะต้องดำเนินการ ดังนี้ 1) จัดประชุมพบปะหารือร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย อย่างต่อเนื่องและบ่อยครั้ง 2) มีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วม 3) ไม่ลุอำนาจในการจัดการปรับแก้เองแต่เพียงฝ่ายเดียว 4) อยู่บนฐานของกฎระเบียบข้อบังคับของหน่วยงาน 5) มีการเคารพให้เกียรติกัน 6) มีการดำเนินงานที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมขององค์กร และ 7) มีกิจกรรมการยกย่องให้รางวัลแก่ผู้เข้าร่วมการจัดการฝึก 3. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษาอาชีวศึกษาในสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของจังหวัดนครสวรรค์ตามหลักอปริหานิยธรรม พบว่ารูปแบบมีมาตราฐานในความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และ ความถูกต้อง ซึ่งผลของการประเมินรูปแบบที่พัฒนาขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุดในทุกด้าน และ ทุกประเด็น

Abstract: The research study had 3 objectives as follows: 1) to study the condition of vocational training experience management of vocational students in small and medium enterprises in Nakhon Sawan Province, 2) to create a management model for vocational training experience of vocational students. in the medium and small enterprises of Nakhon Sawan Province according to the apostolic principle, and 3) to evaluate the management style of vocational training of vocational students in small and medium enterprises in Nakhon Sawan Province according to Supernatural doctrine. This research was a mixed research, namely qualitative research and quantitative research. The Key Informants group selects specific key informants, including workplace representatives, religious experts, and mentors. For data collection by document study, in-depth interviews, focus group discussions, and suitability assessment in four aspects: usefulness, feasibility, suitability, and accuracy. The results showed that 1. Results of a study of the management of professional experience training of vocational students in small and medium enterprises in Nakhon Sawan Province. It was found that the vocational training of vocational students in small and medium-sized enterprises in Nakhon Sawan Province was divided into 4 aspects according to the vocational education management standards of the Office of the Vocational Education Commission, namely 1) Data analysis for training arrangement 2) training plan preparation, 3) preparation prior to training, and 4) training management, supervision, follow-up, supervision of training In summary, it will be implemented jointly with 3 parties: 1) educational institutes, 2) students, and 3) establishments. To set training objectives in accordance with curriculum standards, planning, monitoring, problem solving, supervising students during training, training supervision, evaluation, and reporting. The training organizers take into account the improvement of the curriculum and the improvement of further work. 2. The development of the vocational training management model of vocational students in small and medium enterprises in Nakhon Sawan Province according to the Aparihaniyadhamma principle was found to be a training management model in 4 aspects and 7 The principle of Aparihaniyadhamma includes 28 issues, based on the principles of vocational training management of the Office of the Vocational Education Commission and the principles of Buddhism, namely the Aparihaniyadhamma principles. which must be carried out as follows: 1) Organize regular and frequent meetings with all 3 parties; 2) Invite qualified persons to attend; 3) Do not unilaterally use their power to make adjustments; 4) Stay on top of 5) there is mutual respect; 6) there is work that is consistent with the organization's culture; and 7) there is a rewarding activity for the participants in the training. 3. The results of the evaluation of the vocational training management model of vocational students in small and medium enterprises in Nakhon Sawan Province according to the principle of Aparihaniyadhamma found that the model has a standard in usefulness, being feasible, appropriate, and accurate results of the evaluation model developed at the highest level in all aspects and all issues.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ส่วนหอสมุดกลาง

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: วินัย ทองมั่น

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: วรกฤต เถื่อยช้าง

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2566

Modified: 2567-06-26

Issued: 2567-06-25

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: พุทธบริหารการศึกษา

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	วิรัช ตั้งประดิษฐ์.pdf	9.17 MB	3	2025-08-04 15:19:17

ใช้เวลา

-0.978487 วินาที