พฤติกรรมการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรตเพื่อกระตุ้นให้ลำไยออกดอก ของเกษตรกรผู้ปลูกลำไยหนองช้างคืน จังหวัดลำพูน

Potassium chlorate utilzation behavior to induce longan flowering of Nongchangkhuan longan growers Lanphun [rovince

Name: ศศิธร ปัญญา

keyword: ลำไย

; การปลูก

; ลำพูน

; โพแทสเซียมคลอเรท

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประลงค์เพื่อศึกษา 1) ลักษณะบางประการของเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ในตำบลหนองช้างคืน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน 2) พฤติกรรมการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรตเพื่อกระตุ้นการออกดอกของลำไยและความรู้เกี่ยวกับสารโพแทสเซียมคลอเรต 3) ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะส่วนบุคคล เศรษฐกิจและสังคมกับพฤติกรรมการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรต และ 4) ปัญหาและอุปสรรคในการใช้สารโพแทสเซียมคลอเจต ผู้ให้ข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้คือ เกษตรกรผู้ปลูกลำไยในตำบลหนองช้างคืน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ซึ่งได้จากการสุ่มตัวอย่าง จำนวน 120 คน จากประชากรทั้งหมด 6 หมู่บ้าน จำนวน 1,165 คน โดยใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล แล้วนำมาวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป SPSS/PC ผลการศึกษาลักษณะบางประการของเกษตรกร พบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นชายอายุสูงสุด 75 ปี อายุต่ำสุด 19 ปี อายุเฉลี่ยเท่ากับ 50 ปี เกือบครึ่งหนึ่งสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวนสมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ยเท่ากับ 4 คนและมากกว่าครึ่งหนึ่งมีจำนวนแรงงานครัวเรือนละ 2 คน ค่าใช้จ่ายสำหรับดูแลสวนลำไย ในปี พ.ศ. 2543-2544 เฉลี่ยปีละ 8,330.33 บาท พื้นที่สำหรับใช้ปลูกลำไยเฉลี่ยครัวเรือนละ 8 ไร่ มากกว่าหนึ่งในสาม ปลูกลำไย 100 ต้นอายุของต้นลำไยสวนใหญ่มีอายุ 11-15 ปี กษตรกรส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการปลูกลำไย เฉลี่ยคนละ 10 ปี และมากกว่าหนึ่งในสามได้รับข้อมูลข่าวสารจากร้านจำหน่ายสารเคมี พฤติกรรมการใช้สารโพแทลเซียมคลอเรตของเกษตรกรพบว่า ปัจจัยที่เกี่ยวกับการออกดอกของลำไย พบว่าเกษตรกรมีการปฏิบัติมาก ในด้านการบำรุงรักษาต้นลำไย คิดเป็นร้อยละ 75.83 ทางด้านการควบคุมการออกดอก เกษตรกรเลือกปลูกพันธุ์อีดอ คิดเป็นร้อยละ 87.50 และใช้สารโพแทสเซียมคลอเรตเพื่อกระตุ้นให้ลำไยออกดอก คิดเป็นร้อยละ 85.83 ส่วนทางด้านการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรต เกษตรกรเก็บสารโพแทสเซียมคลอเรตไว้อย่างปลอดภัย มีการทำความสะอาดใต้ทรงพุ่มก่อนการใช้สาร ไม่สูบบุหรี่ขณะปฏิบัติการ และหลังการปฏิบัติการได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก การป้องกันตัวก่อนปฏิบัติการด้วยการแต่งกายอย่างปลอดภัย และขณะทำการได้ดูทิศทางลม เกษตรกรมีระดับการปฏิบัติปานกลาง ในขณะที่ทำการทำลายภาชนะที่ใช้กับสารหลังเสร็จแล้วมีระดับการปฏิบัติน้อย เกษตรกรมีวิธีการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรตกับต้นลำไยที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป โดยใช้วิธีผสมน้ำราดรอบใต้ทรงพุ่ม มีระดับการปฏิบัติมาก สวนการใช้โดยวิธีโปรยสารรอบใต้ทรงพุ่มแล้วให้น้ำตาม มีระดับการปฏิบัติปานกลาง การฉีดสารเข้ากิ่งและฉีดพ่นทางใบ และใช้กับต้นลำไยที่มีอายุ 5-10 ปี ในระดับการปฏิบัติน้อย และมีการปฏิบัติในระดับมากหลังจากการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรตแล้ว โดยการให้น้ำชุ่มขึ้นตลอด 30-45 วัน หลังจากใช้สารโพแทสเซียมคลอเรตผลการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอายุ การศึกษา จำนวนสมาชิกในครอบครัว แรงงานในครอบครัว พื้นที่ปลูก จำนวนต้นลำไย การเข้ารับการฝึกอบรมและการรับรู้ข่าวสาร พบว่า พฤติกรรมการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรตไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ กล่าวคือ ไม่มีผล ต่อพฤติกรรมการใช้สารโพแทสเชียมคลอเรตของเกษตรกร ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างรายจ่ายและประสบการณ์ของเกษตรกรพบว่า พฤติกรรมการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรตมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ กล่าวคือ รายจ่ายและประสบการณ์ของเกษตรกรมีผลต่อพฤติกรรมการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรตในด้านปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรตของเกษตรกรนั้นผู้ให้ข้อมูลมีปัญหาในระดับมาก เกี่ยวกับการขาดทุนทรัพย์ในการดำเนินการ การขาดคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ รวมทั้งผลผลิตไม่มีคุณภาพพอและออกมามากทำให้ได้ราคาต่ำ ปัญหาที่พบในระดับปานกลาง ได้แก่ สภาพดิน น้ำ อากาศ ฝนตกชุก น้ำท่วม พื้นดินแฉะ และต้นลำไยมีสภาพไม่สมบูรณ์พอก่อนใช้สารโพแทสเซียมคลอเรต และปัญหาที่พบในระดับน้อย คือ การออกดอกมากแต่ติดผลน้อยหรือไม่มี สารโพแทสเชียมคลอเรตที่มีจำหน่ายมักมีสารอื่นปนมาด้วย และปัญหาในการกำจัดศัตรูพืชไม่ดีพอ

มหาวิทยาลัยแม่โจ้. สำนักหอสมุด

Address: เชียงใหม่

Email: mjudc@mju.ac.th

Name: บุญสม วราเอกศิริ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก

Name: สุเมธ ศิรินิรันดร์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม

Name: เฉลิมชัย ปัญญาดี

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม

Created: 2001

Modified: 2566-12-21

Issued: 2566-11-26

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

Th

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาส่งเสริมการเกษตร

Level: Master's Degree

Descipline: Master of Science Program in Agricultural Extension

Grantor: Maejo University

©copyrights มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	abstract.pdf	2.65 MB
2	fulltext.pdf	66.92 MB

ใช้เวลา

0.05161 วินาที