การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพเมล็ดกาแฟอาราบิก้าที่ปลูกในสถานีวิจัยเพชรบูรณ์โดยวิธีการตัดแต่งกิ่งและการให้ปุ๋ย

Improvement of yield and quality of arabica coffee bean cultivated in Phetchabun research station by pruning and fertilier application

Name: ธิดารัตน์ เมธาวรากุล

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์. วท.ม. (พืชสวน) 2559.

Classification :.LCCS: SB270.T35

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. -- สาขาพืชสวน -- วิทยานิพนธ์

ThaSH: กาแฟ -- พันธุ์อาราบิก้า -- การปลูก

ThaSH: กาแฟ -- พันธุ์อาราบิก้า -- การเจริญเติบโต

ThaSH: กาแฟ -- พันธุ์อาราบิก้า -- คุณภาพ

Abstract: ศึกษาการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของเมล็ดกาแฟอาราบิก้าที่ปลูกในสถานีวิจัยเพชรบูรณ์ วางแผนการทดลองแบบ Split-plot in RCBD จำนวน 6 ซ้ำ หน่วยทดลองหลักคือ การตัดแต่งกิ่ง (ไม่ตัดแต่งกิ่งและตัดแต่งกิ่ง) หน่วยทดลองรอง คือ วิธีการเขตกรรม โดยการให้ปุ๋ยภายหลังการตัดแต่งกิ่งจำนวน 4 วิธี คือ 1) การไม่ให้ปุ๋ย (NF) 2) การให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในเดือนมิถุนายน อัตรา 10 กรัมต่อต้นและให้ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม อัตรา 250 กรัมต่อต้น (CF12) 3) การให้ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักอัตรา 3 กิโลกรัมและ 5 กิโลกรัมต่อต้น ตามลำดับ ในช่วง เดือนมิถุนายน (MF2) และ 4) การให้ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักอัตรา 3 กิโลกรัมและ 5 กิโลกรัมต่อต้น ตามลำดับ ในเดือนมิถุนายนและให้ปุ๋ยสูตร 8-24-24 อัตรา 250 กรัมต่อต้น ในเดือนกรกฎาคมและ สิงหาคม (MCF2) ผลการศึกษาพบว่าวิธีการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของเมล็ดกาแฟที่ปลูกในสถานีวิจัยเพชรบูรณ์ คือการใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 10 กรัมต่อต้น ในช่วงเดือนมิถุนายน และให้ปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24 อัตรา 250 กรัมต่อต้น ในเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคม จะทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 42 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับต้นที่ไม่ได้รับปุ๋ย โดยมีปริมาณกรดในสารกาแฟน้อย มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในกาแฟคั่วสูง มีปริมาณคาเฟอีนต่ำ และมีสารกาแฟที่ไม่ได้มาตรฐานต่ำ The improvement yield and quality of Arabica coffee from Phetchabun research station were studied. Split-plot in RCBD were used as experimental design which consisted of 8 treatments 6 blocks. Main plot was pruning: pruning and non-pruning and sub plot was fertilizer applications: non fertilizer (NF), chemical fertilizer ratio 15-15-15 (10 g/plant) applied on June and 8-24-24 (250 g/plant) applied on July and August (CF12), manure (3 kg/plant) and compost fertilizer (5 kg/plant) applied on June (MF2) and manure (3 kg/plant) and compost fertilizer (5 kg/plant) applied on June mixed with 8-24-24 (250 g/plant) applied on July and August (MCF2). The results indicated that CF12 method can improve the productivity of coffee bean from Phetchabun research station about 42% higher than NF. This method also promoted coffee bean quality in term of low acidity, high antioxidant activity, low caffeine, and low total defect bean.

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: tdckulib@ku.ac.th

Name: เบญญา มะโนชัย

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก

Name: ปรียานุช จุลกะ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม

Created: 2559

Modified: 2566-05-23

Issued: 2566-05-23

วิทยานิพนธ์/Thesis

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

URL: https://kasetsart.idm.oclc.org/login?url=https://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/2559/tidarat-met-all.pdf

CallNumber: SB270.T35 .ธ34

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: พืชสวน

Grantor: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

©copyrights มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	tidarat-met-all.pdf	3.61 MB	3	2025-04-17 14:30:21

ใช้เวลา

0.049668 วินาที