การคาดคะเนอัตราปุ๋ยไนโตรเจน สำหรับพริกขี้หนูเม็ดใหญ่ (Capsicum frutescens L) โดยใช้ DSSAT

Prediction of nitrogen fertilizer rate of red bird eye chili (Capsicum frutescens L) production using DSSAT

Name: จุฬาวรรณ และกาศินธ์

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์. วท.ม. (ปฐพีวิทยา) 2560.

Classification :.LCCS: S667.C45

ThaSH: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. -- สาขาปฐพีวิทยา -- วิทยานิพนธ์

ThaSH: พริกขี้หนู -- ปุ๋ย -- แบบจำลองทางคอมพิวเตอร์

ThaSH: ปุ๋ยไนโตรเจน

ThaSH: ธาตุอาหารพืช

Abstract: การศึกษาเพื่อคาดคะเนอัตราปุ๋ยไนโตรเจนต่อการปลูกพริกขี้หนูเม็ดใหญ่ทำโดยสร้างแปลงทดลองเพื่อ หาค่าสัมประสิทธิ์ทางพันธุกรรมสำหรับนำเข้าในโปรแกรม DSSAT และศึกษาผลของอัตราปุ๋ยไนโตรเจนต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของพริกขี้หนูเม็ดใหญ่เก็บข้อมูลสัมประสิทธิ์ทางพันธุกรรมของพริกขี้หนูเม็ดใหญ่ (Capsicum frutescens L.) ใช้พันธุ์หัวเรือ ศก. 13 บนชุดดินสีคิ้วอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยวางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ภายในบล็อกมีทั้งหมด 5 ตำรับการทดลอง 4 ซ้ำโดยใช้ปุ๋ยไนโตรเจนอัตรา 0, 8, 16, 24 และ 32 กิโลกรัมต่อไร่และทำการทดสอบอัตราปุ๋ยไนโตรเจนที่เหมาะสมสำหรับปลูกพริกขี้หนูเม็ดใหญ่ในแปลงของเกษตรกรในอำเภอขามสะแกแสงและอำเภอด่านขุนทด จังหวดันครราชสีมา ประกอบด้วย 6 ชุดดิน ได้แก่ ชุดดินจัตุรัส ชุดดินตาคลี ชุดดินเทพารักษ์ ชุดดินโนนไทย ชุดดินลพบุรี และชุดดินสีคิ้ววางแผนการทดลองแบบ RCBD มีทั้งหมด 6 ตำรับการทดลอง 4 ซ้ำใช้ปุ๋ยไนโตรเจนอัตรา 0, 8, 16, 24, 32 และ 36 กิโลกรัมต่อไร่ นำเข้าข้อมูลภูมิอากาศข้อ มูลดิน ข้อมูลสัมประสิทธิ์ทางพันธุกรรมของพืชใน DSSAT และเปรียบเทียบผลที่ได้จากแปลงทดลอง (observed) และผลที่ได้จากแบบจำลอง (simulated) เพื่อคาดคะเนอัตราปุ๋ยไนโตรเจนต่อการปลูกพริกขี้หนูเม็ดใหญ่ในแต่ละชุดดินและทดสอบความแม่นยำของโปรแกรม DSSAT ผลการศึกษาในแปลงทดลองเพื่อเก็บข้อมูลสัมประสิทธิ์ทางพันธุกรรมของพริกขี้หนูเม็ดใหญ่พบว่าการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนที่อัตรา 24 กิโลกรัมต่อไร่ ส่งผลให้พริกขี้หนูเม็ดใหญ่มีผลผลิตมากที่สุด คำแนะนำการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนสำหรับพริกขี้หนูเม็ดใหญ่ในแต่ละชุดดินมีดังนี้ชุดดินเทพารักษ์อัตรา 16 กิโลกรัมต่อไร่ ชุดดินลพบุรี ชุดดินตาคลี และชุดดิน ชุดดินจัตุรัส อัตรา 24 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนในชุดดินโนนไทยและชุดดินสีคิ้วอัตรา 32 กิโลกรัมต่อไร่ผลการเปรียบเทียบผลที่ได้จากแปลงทดลอง (observed) และผลที่ได้จากแบบจำลอง (simulated) พบว่าแบบจำลองคาดคะเนค่าจำนวนใบน้ำหนักใบแห้งดัชนีพื้นที่ใบ และความสูงทรงพุ่มได้สูงกว่าค่าที่วัดได้จริงจากแปลงทดลอง ส่วนจำนวนผลแบบจำลองคาดคะเนได้น้อยกว่าค่าที่วัดได้จริงจากแปลงทดลองน้ำหนักผลและน้ำหนักแห้งส่วนเหนือดินแบบจำลองคาดคะเนได้ใก้ลเคียงค่าที่วัดได้จริงจากแปลงทดลองและพารามิเตอร์ที่ แบบจำลองสามารถคาดคะเนได้แม่นยำมากที่สุดได้แก่ น้ำหนักผลและจำนวนใบโดยพิจารณาจากค่า Index of Agreement (d-stat) ที่มีค่าเข้าใก้ล 1 มากที่สุด ซึ่งค่า d-stat เท่ากับ 0.944 และ0.844 ตามลำดับ Prediction of nitrogen fertilizer rate for red bird eye chili (capsicum frutescens L.) was carried out by establishing experimental plot to determine plant genetic coefficient in order to input in the DSSAT program, and to study effect of nitrogen (N) fertilizer rate on growth and yield of red bird eye chili. Genetic coefficient of red bird eye chili was determined from Huaruea So-Ko 13 cultivar grown on Sikhiu soil series at Sikhiu district, Nakhon Ratchasima province by designing experiment in randomized complete block (RCBD) with five treatments (i.e. nitrogen rate = 0, 8, 16, 24 and 32 kg rai-1) and 4 replications. Also, validation appropriate nitrogen rate for red bird eye chili was done in farmers field at Kamsakasang and Dan Khun Thot districts, Nakhon Ratchasima province which comprises of 6 soil series i.e. Chatturat, Takhli, Taparuk, Non Thai, Lop Buri, and Sikhiu series. This experiment was designed as 6 treatments (i.e. nitrogen rate of 0, 8, 16, 24, 32, and 36 kg rai-1) and four replications in RCBD. Climatic, soil, plant genetic data was simulated in the DSSAT program and compared on observed and simulated results from the program in order to predict nitrogen rate for red bird eye chili and validate the presicion of the DSSAT. Results from experimental plot for determination of plant genetic coefficient showed that red bird eye chili had highest yield in applying 24 kg N rai-1. The recommended nitrogen fertilizer rate for red bird eye chili grown on each soil series were 16 kg N rai-1for Taparuk series, 24 kg N rai-1for Lop Buri, Takhli, and Chatturat series, and 32 kg N rai-1for Non Thai and Sikhiu series. A comparison on observed and predicted data from DSSAT program showed that simulated leaf number, leaf dry matter weight, leaf area index, and height were higher than observed ones except simulated pod number that was lower than the observed one. However, chili pod weight and above ground biomass from model were on par with observed ones. The parameters that could be precisely predicted by the model were chili pod weight and leaf number demonstrating by the index of agreement (d-stat) closed to 1.0 e.g. 0.944 and 0.844, respectively.

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: tdckulib@ku.ac.th

Name: เสาวนุช ถาวรพฤกษ์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก

Name: ณัฐพล จิตมาตย์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม

Created: 2560

Modified: 2566-05-03

Issued: 2566-05-03

วิทยานิพนธ์/Thesis

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

URL: https://kasetsart.idm.oclc.org/login?url=https://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/2560/julawan-lae-all.pdf

CallNumber: S667.C45 .จ47

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: ปฐพีวิทยา

Grantor: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

©copyrights มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	julawan-lae-all.pdf	3.98 MB	2	2025-10-14 12:39:04

ใช้เวลา

0.0306 วินาที