ประสิทธิผลการลงโทษทางวินัย : ศึกษาเฉพาะกรณี ข้าราชการครูสังกัดกรมสามัญศึกษา ในเขตกรุงเทพมหานคร

Name: อุษา ชลายนเดชะ.

ThaSH: ครู -- วินัย.

ThaSH: ครู -- การปฏิบัติโดยมิชอบ -- กรุงเทพฯ.

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาเกี่ยวกับผลการลงโทษทางวินัย โดยศึกษาเฉพาะข้าราชการครูที่สังกัดกรมสามัญศึกษาในกรุงเทพมหานครที่ถูกลงโทษในปีการศึกษา พ.ศ. 2540 โดยใช้ทั้งวิธีการวิจัยเอกสารร่วมกับวิธีการวิจัยแบบสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเลือกจากข้าราชการครูสังกัดกรมสามัญศึกษาในเขตกรุงเทพมกสนครจาก 6 โรงเรียนซึ่งเป็นตัวแทนของข้าราชการครูผู้สอนในสายงานการสอน 27 คน ตัวแทนของข้าราชการครูในสายงานการบริหาร 20 คน จำนวนรวม 47 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ การสัมภาษณ์ผลการศึกษาวิจัยพบว่าจากขอบเขตการศึกษาวิจัยที่ผู้วิจัยได้กำหนดกรอบโครงของจุดมุ่งหมายการลงโทษทางวินัยไว้ 4 ประการ ซึ่งเมื่อได้ทำการศึกษาวิจัยแล้วพบการลงโทษได้บรรลุจุดมุ่งหมายดังนี้คือ1. การลงโทษเพื่อรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและระเบียบแบบแผนผลจากการศึกษาพบว่าเมื่อมีผู้กระทำผิดทางวินัยเกิดขึ้น หลังจากผู้บังคับบัญชาได้ดำเนินการสอบสวนจนแน่ใจแล้วว่าผู้นั้นได้กระทำผิดจริง จึงได้ลงโทษทางวินัยอย่างเคร่งครัดทุกกรณี เพื่อเป็นการปราบผู้กระทำความผิดและปรามไว้มิให้ผู้อื่นเอาเยี่ยงอย่าง ทั้งนี้โดยที่ผู้กระทำความผิดและเพื่อนข้าราชการครูอื่นๆ พอใจกับระดับโทษที่ลง2. การลงโทษเพื่อรักษามาตรฐานความประพฤติของข้าราชการ จากการศึกษาพบว่าเมื่อมีการลงโทษข้าราชการครูที่กระทำผิดทางวินัย ส่งผลให้ข้าราชการครูผู้อื่นระมัดระวังรักษาระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัดมากขึ้น และได้ปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น อีกทั้งมีเจตคติที่ดีมากขึ้นต่อระบบราชการ โดยเห็นว่าทางราชการกำหนดกฎเกณฑ์การลงโทษที่ชัดเจนและมีความเป็นระบบในรูปแบบที่ยุติธรรม ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่าการลงโทษครูผู้กระทำผิดนั้นไม่ได้ทำให้ข้าราชการครูผู้อื่นเสียขวัญหรือไม่มีกำลังใจในการทำงานแต่อย่างใด ถึงแม้จะมีการลงโทษก็ไม่ได้กระทบกระเทือนขวัญกำลังใจของผู้อื่น ตรงกันข้ามกลับมีขวัญและกำลังใจมากขึ้นถ้าหากมีผู้กระทำผิดจริงและผู้บังคับบัญชาพิจารณาลงโทษตามความผิดนั้นจริงๆ อย่างสมเหตุและผล อีกทั้งชัดเจนและเหมาะสมและลงโทษกับทุกคนที่ได้กระทำผิดโดยไม่เลือกปฏิบัติ นอกจากนี้ยังพบว่าการลงโทษไม่ได้มีผลทำให้ข้าราชการครูอื่นๆ เพิ่มความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการมากขึ้นไปกว่าเดิมเพราะมองว่าการทำความผิดและการได้รับโทษของผู้กระทำผิดเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนเพียงแต่การลงโทษนั้นจะเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้อื่นยำเกรงและปฏิบัติให้เหมาะสมกับอาชีพและการทำงานประจำวันมากขึ้น3. การลงโทษเพื่อให้ข้าราชการรู้จักแนวทางที่จะปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น จากการศึกษาพบว่าเมื่อมีการลงโทษแล้วผู้ถูกลงโทษจะสำนึกตนยอมรับในความผิดที่ตนได้กระทำว่าไม่ถูกต้องและจะไม่กระทำผิดในเรื่องใดๆอีกตรงกันข้ามกลับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้นหลายประการเช่นให้ความร่วมมือกับครูผู้อื่นในสถานศึกษาอย่างสร้างสรรค์และให้การยอมรับและยอมเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา อีกทั้งประพฤติตนอย่างเหมาะสมกับการเป็นข้าราชการครูมากขึ้น โดยที่ผลการลงโทษไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนการสอนหรือการบริหารงานของโรงเรียนแต่อย่างใด4. การลงโทษเพื่อรักษาชื่อเสียงของทางราชการและความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อทางราชการ ซึ่งเมื่อมีข้าราชการบกพร่องต่อหน้าที่และระเบียบวินัยก็มีความจำเป็นที่จะต้องลงโทษข้าราชการที่กระทำผิดนั้นๆ เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งชื่อเสียงของทางราชการ และจากการศึกษาพบว่าเมื่อมีการลงโทษผู้กระทำผิดแล้ว ก็ทำให้ข้าราชการทั่วๆไปรวมทั้งข้าราชการทางการศึกษามีความรู้ศึกที่ดีและเข้าใจถึงภาพลักษณ์โดยรวมของราชการในการที่จะรักษาไว้ซึ่งความเชื่อมั่นของประชาชนในสังคม อีกทั้งมีความเข้าใจถึงความยุติธรรมของกฎเกณฑ์การลงโทษที่ทางราชการได้กำหนดไว้ โดยที่ความรู้สึกของข้าราชการครูในโรงเรียนเดียวกันเช่นนี้สามารถที่จะเป็นตัวแทนในการอธิบายถึงความรู้สึกและแสดงออกซึ่งความเชื่อมั่นของประชาชนต่อทางราชการได้เช่นเดียวกัน

มหาวิทยาลัยรามคำแหง. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร (Bangkok)

Email: dcms@lib.ru.ac.th

Name: สมิหรา จิตลดากร

Role: คณะกรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Name: บุญลือ ทองอยู่

Role: คณะกรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Name: นิยม รัฐอมฤต

Role: คณะกรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2544

Modified: 2549-05-29

วิทยานิพนธ์/Thesis

ISBN: 9743138846

ม.ร. อ2488 2544

tha

DegreeName: ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: รัฐศาสตร์

Grantor: มหาวิทยาลัยรามคำแหง

©copyrights มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	title.pdf	82.83 KB	73	2021-04-26 15:37:27
2	contents.pdf	76.03 KB	73	2018-05-13 01:01:34
3	chapter1.pdf	525.31 KB	86	2021-06-30 15:12:49
4	chapter2.pdf	903.89 KB	96	2021-06-30 15:12:51
5	chapter3.pdf	635.44 KB	60	2018-05-13 01:01:38
6	apstract.pdf	190.29 KB	60	2021-06-30 15:12:46
7	chapter4.pdf	322.66 KB	46	2018-05-13 01:01:40
8	chapter5.pdf	1.2 MB	71	2018-05-13 01:01:41
9	chapter6.pdf	439.9 KB	42	2018-05-13 01:01:43
10	appendix.pdf	5.77 MB	54	2021-06-30 16:40:58
11	bibliography.pdf	185.39 KB	40	2018-05-13 01:01:49
12	vita.pdf	19.28 KB	26	2018-05-13 01:01:50

ใช้เวลา

0.041272 วินาที