Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาภาวะผู้นาเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ 2) เพื่อเปรียบเทียบภาวะผู้นาเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จาแนกตามสภาพและขนาดสถานศึกษา 3) เพื่อศึกษาแนวทางในการพัฒนาภาวะผู้นาเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน กาหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตาราง Krejcie และ Morgan โดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น และสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง จานวน 855 คน จาแนกเป็น ผู้บริหารสถานศึกษา 70 คน ครูผู้สอน 785 คน โดยผู้วิจัยกาหนดให้กระจายไปทุกขนาดของสถานศึกษาแล้วกาหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างทุกโรงเรียนตามสัดส่วนประชากร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หาค่าความเชื่อมั่น และสถิติทดสอบ F
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพภาวะผู้นาเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ โดยภาพรวม ปรากฏผล อยู่ในระดับมาก ส่วนรายด้านทั้ง 3 ด้านอยู่ในระดับมาก
2. การเปรียบเทียบสภาพภาวะผู้นาเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จาแนกตามสภาพ ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา
และครูผู้สอน ในภาพรวมและรายด้าน แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ ระดับ .01 โดยผู้บริหารสถานศึกษามีภาวะผู้นาสูงกว่าครูผู้สอน
3. แนวทางในการพัฒนาภาวะผู้นาเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ มีดังนี้
3.1 แนวทางในการพัฒนาภาวะผู้นาเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ด้านการสร้างกลยุทธ์ในสถานศึกษา โดยภาพรวมและรายข้ออยู่ในระดับมาก ข้อที่มีการปฏิบัติมากที่สุด คือ ผู้บริหารควรเป็นคนใจกว้างรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นไม่อคติมองโลกในแง่ดีและรู้จักใช้วิธีประชาธิปไตยแก้ปัญหา รองลงมาคือ ผู้บริหารควรมีพฤติกรรมการทางานที่กระตือรือร้นกระตุ้นบุคลากรในสถานศึกษาให้สาเร็จตามเป้าหมายและผู้บริหารควรมีรายงานผล แผนงานและโครงการเพื่อนาข้อมูลมาพัฒนางานและกาหนดแผนปฏิบัติการ ข้อที่มีการปฏิบัติต่าที่สุ คือ มีการแสวงหาข้อมูล ข่าวสารความรู้และแนวคิดใหม่ๆมาปรับเปลี่ยนข้อมูล
3.2 แนวทางในการพัฒนาภาวะผู้นาเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ด้านการนากลยุทธ์ไปปฏิบัติในสถานศึกษา โดยภาพรวมและรายข้ออยู่ในระดับมาก ข้อที่มีการปฏิบัติมากที่สุด คือ ผู้บริหารควรมีมาตรฐานในการทางานเพื่อสร้างวัฒนธรรมของสถานศึกษาและแนวปฏิบัติเป็นเลิศ รองลงมาคือ ผู้บริหารควรเป็นนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์กระตุ้นให้บุคลากรมีความคิดเชิงกลยุทธ์ยืดหยุ่นการปรับตัวและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้ ข้อที่มีการปฏิบัติต่าที่สุด คือ ผู้บริหารควรมีการบริงานที่เน้นปัจจัยป้อนกระบวนการทางานและผลผลิต
3.3 แนวทางในการพัฒนาภาวะผู้นาเชิงกลยุทธ์ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ด้านการควบคุมกลยุทธ์ในสถานศึกษา โดยภาพรวมและรายข้ออยู่ในระดับมาก ข้อที่มีการปฏิบัติมากที่สุด คือ ผู้บริหารควรสามารถคาดการณ์แนวโน้มอนาคตและกาหนดทิศทางของสถานศึกษาและผู้บริหารควรมองความแตกต่างระหว่างความสาเร็จและความล้มเหลวได้อย่างชัดเจน รองลงมาคือ ผู้บริหารควรกาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ผลผลิตหลักเป้าประสงค์ แผนงานและโครงการของสถานศึกษาที่นาสู่การปฏิบัติที่ชัดเจน
The objectives of the research were to study a strategic leadership of the administrators of the primary schools affiliated to Sisaket Provincial Administrative Organization, to compare a strategic leadership of the administrators as classified by sex and school size, and to explore the guidelines in developing a strategic leadership of the administrators of the school in the study. The samples used in the research were the school administrators and the teachers whose size was determined by Krejcie and Morgans table. The samples of 855 which were obtained by a stratified random sampling were divided into 70 administrators and 785 teachers. The research instrument was a questionnaire. Statistics used in data analysis were percentage, mean, standard deviation, and F-test.
The research findings were as follows :
1. A strategic leadership of the school administrators under Sisaket Provincial Administrative Organization was overall at a high level.
2. A comparison of a strategic leadership of the primary school administrators under Sisaket Provincial Administrative Organization as classified by an opinion of the school administrators and the teachers showed that there was difference with a statistical significance of .01.
3. The following were the guidelines for the development of a strategic leadership of the primary school administrators in the study.
3.1 On construction of a strategy: things were at a high level. The issue having been carried out at the highest level was the administrators should be more open-minded and willing to listen to others opinions; they should be more optimistic and know how to deal with the problems in a democratic manner. The secondary issues were: the administrators should be more energetic and active in working and encouraging other to do just the same; they should report the results of the plans or projects.