Knowledge, attitude and preventive measures amongst the married women of reproductive age towards uterine prolapse in the 8 VDCs of Surkhet district, Nepal

ความรู้ ทัศนคติ และการป้องกันโรคกระบังลมหย่อนในสตรีสมรสที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ใน 8 หมู่บ้าน เมืองซูเก็ต ประเทศเนปาล

Name: Baruwal, Ashma

LCSH: Uterus -- Prolapse

LCSH: Married women -- Nepal

Abstract: To determine the prevalence of uterine prolapse in the studied sample area, knowledge, attitude and preventive measures of uterine prolapse amongst the married women of reproductive age in the 8 vdcs of Surkhet district of Nepal. It was a cross sectional study. There were a total of 267 participants in the study. Systematic random sampling was done. Data were collected by constructed questionnaire and analyzed by percentage, arithmetic mean, standard deviation, chi square and the logistic regression. The data were analyzed by using level of significance at 0.05.Focus group discussion was carried amongst women with and without prolapse to understand their preventive behavior. The results showed that the prevalence of uterine prolapse was 24.7%.Women had a moderate level of knowledge regarding uterine prolapse (51.9%).Logistic regression revealed that knowledge level (p value<0.01) ,attitude level( p value<0.05) and parity(p value<0.05) were significant. The results showed that women have knowledge about the preventive measures is less as compared risk factors, signs and symptoms therefore showing that more awareness programs are needed in the area. Focus group revealed that though women had knowledge about uterine prolapse, they could not practice it due to lack of help from family members including her husband.

Abstract: ศึกษาถึงความชุก ความรู้ ทัศนคติ และการป้องกันโรคกระบังลมหย่อนในสตรีสมรสที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ใน 8 หมู่บ้าน ในตำบลซูเก็ท ประเทศเนปาล อันเป็นการศึกษาแบบตัดขวาง กลุ่มตัวอย่างจำนวน 267 คน โดยการสุ่มอย่างเป็นระบบ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่สร้างขึ้น การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ไคว์สแคว และการวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติก ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิต ที่ p value 0.05 นอกจากนี้ได้จัดการสนทนากลุ่มในกลุ่มผู้หญิงที่เป็นและไม่เป็นกระบังลมหย่อน เพื่อทำความเข้าใจเรื่องพฤติกรรมการป้องกัน ผลการศึกษาพบว่า ความชุกของการเกิดกระบังลมหย่อน 24.7% กลุ่มตัวอย่าง 51.9% มีความรู้เรื่องกระบังลมหย่อนระดับปานกลาง ผลการวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกพบว่า ความรู้ และจำนวนการตั้งครรภ์ มีระดับนัยสำคัญทางสถิติ ที่ p value < 0.05 และพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีความรู้เรื่องการป้องกันโรคกระบังลมหย่อนน้อยกว่า ความรู้เรื่องปัจจัยเสี่ยง อาการแสดงของโรค ดังนั้นควรมีการสร้างความตระหนักในเรื่องการป้องกันให้มากขึ้น ผลการสนทนากลุ่มพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีความรู้เรื่องกระบังลมหย่อน หากแต่ไม่สามารถป้องกันโรคได้ เนื่องจากขาดความช่วยเหลือจากสมาชิกในครอบครัว ซึ่งรวมทั้งสามี

Chulalongkorn University. Center of Academic Resources

Address: BANGKOK

Email: cuir@car.chula.ac.th

Name: Ratana Somrongthong

Role: advisor

Created: 2010

Modified: 2557-02-11

Issued: 2014-02-10

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

eng

Spatial: Nepal

DegreeName: Master of Public Health

Level: Master's Degree

Descipline: Public Health

Grantor: Chulalongkorn University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	ashma_ba.pdf	1.3 MB	12	2021-08-24 20:11:32

ใช้เวลา

0.015338 วินาที